
ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด ที่ทั่วโลกต้องจับตามองในช่วงเวลานี้
- Chono
- 26 views

ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด ซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรง ระหว่างเกาหลีใต้ และประเทศกัมพูชา โดยเกี่ยวข้องกับประชากรของเกาหลีใต้ ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานผิดกฎหมาย และถูกคนกัมพูชาทำร้าย หนึ่งในนั้นมีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต ทำให้ผู้นำของประเทศเกาหลีใต้ร้อนระอุขึ้นมา และเดินหน้าโจมตีกับพวกสแกมเมอร์
ซึ่ง ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด ที่มีประชากรเกาหลีใต้ ถูกหลอกให้ไปทำงานผิดกฎหมาย ในประเทศกัมพูชา เป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วโลกจับตามอง ภายใต้การแถลงในเวที UN โดยรองเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ได้ขึ้นชี้แจงประเด็นนี้ ท่ามกลางความวุ่นวาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ และการเพิ่มจำนวนของอาชญากรรม
แต่สิ่งที่ทำให้เกาหลีใต้ ลุกขึ้นมาปกป้องประชากรของตัวเอง ที่มีการพบศพนักศึกษา เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 ที่ศูนย์สแกมเมอร์ บริเวณประเทศกัมพูชา และเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่พลเมืองตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์ ในการบังคับใช้แรงงาน และกระทำความผิดทางอาชญากรรมต่างๆ ในประเทศกัมพูชา
และข้อมูลจากทางการต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวไว้ว่า ชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ถูกกักตัว และขาดการติดต่อ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เดิมทีมีเพียงแค่ 2 คนในปี 2021 กลายเป็น 11 คนในปี 2022 และ 21 คนในปี 2023 จนมาถึงช่วงปี 2024 ที่ประชากรชาวเกาหลีใต้กว่า 221 คนหายตัวไป หลังจากเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา (18 ตุลาคม 2025) [1]
นอกจากกรณีที่นักศึกษาเกาหลีใต้รายหนึ่ง กลายเป็นศพอยู่บริเวณศูนย์สแกมเมอร์ ในประเทศกัมพูชา ก็มีอีก 2 กรณีของชาวเกาหลีใต้ ที่ถูกหลอกให้ไปทำงาน โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 สื่อเกาหลีใต้ The Korea Times ได้เข้าสัมภาษณ์ชายเกาหลีใต้ 2 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากถูกหลอกให้เข้าไปทำงาน ที่เป็นสถานที่ตั้งแก๊ง สแกมเมอร์ ในกัมพูชา
โดยทั้งสองได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองถูกหลอกด้วยข้อเสนอ ในการทำงานออนไลน์ เพื่อแลกกับเงินเดือนมหาศาล แต่สุดท้ายกลับพบว่า ตนเองถูกหลอกให้เข้าไปร่วมขบวนการ ที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งเป็นสถานที่ของแก๊งสแกมเมอร์แห่งหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเรียกว่า “เหวินฉี”
ชายเกาหลีใต้ทั้งสองคน ถูกเสนอให้ทำงานด้วยเงิน 8-15 ล้านวอน เมื่อพวกเขาเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา กลับถูกพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง พวกเขาปฏิเสธที่จะร่วมทำงาน กลับถูกคนในกลุ่มทำร้ายร่างกาย และย้ายตัวพวกเขาไปยัง เหวินฉี หมายเลข 10 ซึ่งเป็นค่ายกักกันที่น่ากลัวที่สุด อยู่ติดกับชายแดนไทยกัมพูชา (16 ตุลาคม 2025) [2]
จากการนำเสนอข้อมูลข้างต้น ที่เราได้ยกตัวอย่าง ชายสองคนชาวเกาหลีใต้ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ปัจจุบัน ทั้งสองคนถูกคุ้มครองโดยตำรวจ ในฐานะพยานสำคัญ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับเกาหลีใต้ พวกเขาได้เรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ เร่งช่วยเหลือประชากรคนอื่นๆ ที่ยังติดอยู่ในเขตกักกัน
รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้มีการประเมิน เกี่ยวกับจำนวนประชากรชาวเกาหลี ที่ยังคงถูกกักขังในเขตกักกัน ซึ่งไม่น้อยกว่า 1,000 คนอย่างแน่นอน อาจถูกค้ามนุษย์ เพื่อนำตัวไปทำงานในสถานที่ดังกล่าวกว่า 300-400 คน ในขณะนี้ ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อเข้าช่วยเหลือประชากรของตนเอง ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา
ซึ่งทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ส่งคณะทำงานพิเศษ นำทีมโดยรองรัฐมนตรีต่างประเทศ คิม จินอา มุ่งหน้าเดินทางไปถึงเมืองพนมเปญ เพื่อร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ในการออกค้นหา และคุ้มครองชาวเกาหลี ประมาณ 80 คน แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลยืนยันว่าพวกเขาปลอดภัย และอีก 60 ถูกคุมตัวในข้อหาฉ้อโกงทางออนไลน์ โดยส่งตัวกลับประเทศทันที

ปัจจุบัน ขบวนการค้ามนุษย์ ถูกเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า “การตกเป็นทาสสมัยใหม่” ถือเป็นอาชญากรรม ที่บุคคลถูกบังคับให้ทำงาน หรือมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่การค้ามนุษย์ จะเป็นการสรรหา การขนส่ง การโอนย้าย หรือการรับผู้คนผ่านการบังคับ เพื่อให้ทำงานฉ้อโกง หลอกลวง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้งานพวกเขา
การค้ามนุษย์ทางเพศ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ของขบวนการค้ามนุษย์ และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา หากเหยื่อที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีพฤติกรรมทางเพศเพื่อการค้ามนุษย์ โดยไม่คำนึงถึงการใช้กำลัง การฉ้อโกง หรือบีบบังคับ โดยผู้ที่ค้าขายบริการทางเพศ จะถูกบังคับให้ทำงานบริการ ถ่ายภาพอนาจาร ตามสถานอาบอบนวดที่ผิดกฎหมาย
หลายท่านอาจเคยพบเห็น ข่าวสารเกี่ยวกับการจับกุม กลุ่มคนไทยที่ลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าไปทำงานหารายได้ในประเทศ ซึ่งมีเหตุผลมากมาย ที่กลุ่มคนเหล่านี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาต้องการค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ หรือไปทำงานเพื่อหาเงินที่ได้มากกว่าไทย แรงจูงใจหลักๆ ก็คือเงินค่าจ้างจำนวนมาก
และเพื่อการป้องกัน และต่อสู้กับสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลไทยจำเป็นต้องเสริมสร้างกฎหมายแรงงาน มีการบังคับใช้กฎระเบียบ และส่งเสริมแนวทางในการจัดหางานอย่างมีจริยธรรม อีกทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ต่อการคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติ และสร้างกลไกในการแก้ไข เกี่ยวกับข้อกล่าวหาของแรงงาน (20 พฤษภาคม 2023) [3]
กลุ่มแก๊งอาชญากรรม มีรูปแบบการหลอกล่อเหยื่อ โดยอ้างว่า มีรายได้ดี มีเงินให้ใช้ ซึ่งจะโพสต์ข้อความในพื้นที่จัดหางานต่างๆ บนโลกออนไลน์ จากกรณีตัวอย่างที่คนเกาหลีใต้ ถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา โดยพวกเขาบอกว่า พบเห็นข้อความการจัดหาคนไปทำงานบนเว็บไซต์ต่างๆ และยังพบเห็นในหน้ากระดานสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วย
ซึ่งสื่อเกาหลีใต้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ว่าจ้างงานสแกมเมอร์ น่าจะรับรู้ว่าพวกเขาตกเป็นเป้าหมาย และถูกจับตามองมากขึ้น ก็ได้มีการออกมายอมรับ เกี่ยวกับการว่าจ้างให้ทำงานสแกมเมอร์ แต่ปฏิเสธข้อหาเรื่องการทำร้ายร่างกาย หรือการลักพาตัว และอ้างว่า เป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในธุรกิจผิดกฎหมาย
อย่างที่เราได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น สิ่งที่ทำให้ผู้คนถูกหลอกให้ไปทำงานผิดกฎหมาย นั่นก็คือจำนวนรายได้มหาศาล บางคนเข้าตาจน ไม่มีหนทางเพื่อหาเงินมีประทังชีวิต จึงตัดสินใจไปทำงานในประเทศกัมพูชา แต่สุดท้ายกลับพบว่า ตนเองถูกพาเข้าไปอยู่ในกลุ่มอาชญากรรม จนนำไปสู่การกักขัง หรือทำร้ายร่างกาย
หากถูกทางเจ้าหน้าที่ของประเทศกัมพูชาจับได้ หลังจากลักลอบเข้าประเทศ ผู้ที่ลักลอบเข้ามาในประเทศ จะถูกเนรเทศ และขึ้นบัญชีดำ หรืออาจได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย เช่น อาจถูกจำคุก 3-6 เดือน หรืออาจมีการปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 ล้านเรียล หรือประมาณ 15,000 บาทไทย

