วอลเลย์บอล ประวัติ พร้อมกับรูปแบบการเล่น

วอลเลย์บอล ประวัติ

วอลเลย์บอล ประวัติ ที่มาพร้อมกับรูปแบบการเล่น ขั้นพื้นฐาน วอลเลย์บอลเป็นกีฬา ที่ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1895 โดยผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษา ของทางสมาคมวายเอ็มซีเอ ซึ่งมีชื่อว่า นายวิลเลียม จี. มอร์แกน วอลเลย์บอลเป็นหนึ่งในกีฬาทางเลือก ให้แก่กลุ่มคน ที่ต้องการออกกำลัง แบบไม่ต้องใช้แรง หรือการปะทะ มีรูปแบบการเล่นคล้ายกับ บาสเกตบอล ประโยชน์

  • วอลเลย์บอลในประเทศไทย
  • กติกาพื้นฐานของกีฬาวอลเลย์บอล
  • ทักษะที่ควรมีก่อนเริ่มเล่นวอลเลย์บอล

กีฬาวอลเลย์บอล ในประเทศไทย

วอลเลย์บอลเริ่มเข้าสู่ ประเทศไทยช่วงไหน ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่เริ่มมีการจัดการแข่งขัน กีฬาวอลเลย์บอล ขึ้นในปี ค.ศ. 1934 ซึ่งตั้งแต่นั้นมากีฬาวอลเลย์บอล ก็ได้รับการพัฒนามาโดยตลอด จนในปี ค.ศ. 1957 ก็ได้มีการพิจารณาให้จัดตั้งสมาคมขึ้นมาดูแล และรับผิดชอบ ทำให้ในปี ค.ศ. 1959

ได้มีการก่อตั้ง สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ขึ้นอย่างเป็นทางการ และมีการจัดระบบการแข่งขันให้เป็น 6 คน จากเดิมทีที่จะใช้ระบบการแข่งขัน 9 คน (23 มกราคม 2025) [1]

กติกาพื้นฐาน ของกีฬาวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอลเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม ในแต่ละทีมจะต้องประกอบไปด้วย ผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ลงสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยจะแบ่งตำแหน่งการยืนเป็น หน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะมีหน้าที่ ที่แตกต่างกันไป เช่น เป็นตัวเซต, ตัวตั้ง, ตัวบล็อกกลาง, ตัวตีหัวเสา

หรือตัวตีด้านนอก เป็นต้น ในการแข่งขัน จะสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ รวมถึงผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนออกไป ก็ยังสามารถกลับมาเล่นใหม่ได้อีก (20 มิถุนายน 2024) [2]

อุปกรณ์หลักสำหรับเล่นกีฬาวอลเลย์บอล

  • ลูกวอลเลย์บอล ควรเป็นลูกที่ได้มาตรฐาน ทั้งขนาด และน้ำหนัก
  • ตาข่ายวอลเลย์บอล ที่ใช้สำหรับกั้นกลางสนาม เพื่อแบ่งเขตแดน
  • เสา และระบบตั้งตาข่าย ต้องแข็งแรง และสามารถปรับระดับความสูงได้
  • เส้นเขตสนาม ที่ชัดเจน
  • ป้ายคะแนน หรือระบบบันทึกคะแนน ใช้ในการแข่งขันที่เป็นทางการ

การนับคะแนนของการแข่งขัน กีฬาวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอล ประวัติ

คะแนนจะมาจากการที่ ทีมใดทีมหนึ่ง ทำลูกตกลงในเขตสนามของฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะถูกนับเป็น 1 คะแนน และผู้ที่ได้คะแนน จะได้เป็นฝ่ายเสิร์ฟลูก ทีมไหนที่ได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่ในกรณีที่มีคะแนนเสมอกัน อย่างเช่น 24 – 24 คะแนน

ทีมใดทีมหนึ่งจะต้องทำคะแนนนำ 2 คะแนน เพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ เช่น 24 – 26 เป็นต้น หากทีมไหนที่สามารถชนะได้ 3 ใน 5 เซต ก็จะเป็นผู้ชนะ ในเกมการแข่งขันนั้นไป (2025) [3]

สิ่งที่จะทำให้ผู้เล่นเสียคะแนน มีอะไรบ้าง?

สิ่งที่จะทำให้ผู้เล่น เสียคะแนน คือ การที่ปล่อยให้ลูกบอล ตกลงในเขตสนามของตนเอง และตีลูกบอลออกนอกเขตสนาม รวมถึงการทำผิดกฎกติกา ของกีฬาวอลเลย์บอลด้วย ยกตัวอย่างเช่น สัมผัสลูกบอลเกินสามครั้งก่อนตีกลับ, พักบอลไว้กับตัวนาน, เหยียบเส้น, เสิร์ฟไม่ข้ามตาข่าย, แตะตาข่าย หรือข้ามเส้นกลางสนาม ก็ทำให้เสียคะแนนได้เช่นเดียวกัน

ทักษะที่ควรมีก่อนเริ่มเล่นวอลเลย์บอล

  • การรับลูก ต้องรับได้อย่างแม่นยำ และควบคุมลูกได้ดี เพื่อให้ผู้เล่นในทีม สามารถเล่นต่อได้
  • การส่งลูก ต้องสามารถเซตบอล และตบบอล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตบบอล ต้องควบคุมแรง ในการตบได้ดี และตอบลงไปในเขต ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ
  • การเสิร์ฟ ต้องเสิร์ฟได้อย่างแม่นยำ และให้ยากต่อการรับ
  • การเคลื่อนที่ในสนาม ผู้เล่นจะต้องเคลื่อนที่ ไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ขณะที่กำลังทำการแข่งขัน
  • การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม ต้องมีการพูดคุย และสื่อสารกันตลอด เพื่อป้องกันการเล่นผิดพลาด
  • มีสมาธิ และสติ อยู่ตลอดเวลา ควบคุมจังหวะการตีได้ดี และมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว
  • มีร่างกาย ที่แข็งแรง และมีความอึด สามารถกระโดด วิ่ง และเคลื่อนไหว ได้อย่างต่อเนื่อง

บทส่งท้าย วอลเลย์บอล ประวัติ

สรุปวอลเลย์บอล เป็นกีฬาประเภททีม ที่ต้องเล่นระหว่าง 2 ทีม ทีมละ 6 คน โดยใช้ตาข่ายในการแบ่งเขตสนาม ผู้เล่นจะต้องพยายามตีลูกบอล ให้ข้ามตาข่าย และตกลงในพื้นที่ของฝั่งตรงข้าม โดยไม่ให้ลูกตกในสนามของตนเอง กีฬาชนิดนี้ต้องมีทักษะ การเสิร์ฟ การรับ การเซต และการตบลูกที่ดี จึงจะสามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กีฬาวอลเลย์บอลเริ่มเล่นได้ ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

กีฬาวอลเลย์บอลสามารถเริ่มเล่นได้ ตั้งแต่อายุประมาณ 6 – 8 ปี ขึ้นไป ซึ่งช่วงวัยนี้ควรเริ่มจาก การฝึกขั้นพื้นฐาน เช่น การรับลูก การเซต และการเคลื่อนไหวในสนาม โดยใช้ลูกบอลนุ่มในการเล่น เพื่อความปลอดภัย และให้เหมาะสมกับวัย จากนั้นค่อยพัฒนาไปสู่การใช้ลูกบอลจริง และเล่นในสนามแบบมาตรฐาน ในภายหลัง

ประโยชน์ที่จะได้รับการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล คืออะไร?

การเล่นวอลเลย์บอล จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับร่างกาย พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว และฝึกการทำงานเป็นทีม รวมถึงฝึกการสื่อสารกับผู้อื่น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ มีสมาธิ มีวินัย และความอดทน ที่สำคัญยังเป็นกีฬา ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง