
แนะนำ NFS Unbound เกมแข่งรถผสมศิลปะ
- ไข่น้อย
- 25 views
แนะนำ NFS Unbound เกมแข่งรถของซีรีส์ Need for Speed ที่ยังคงรูปแบบการเล่นเหมือนเดิม แต่ในเกมนี้ จะมีสไตล์กราฟิกที่โดดเด่น และมีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่าง และไม่เหมือนใครกับเกมแข่งรถทั่วไปอย่างแน่นอน
และนอกจากนี้ ตัวเกมยังมาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ซึ่งพร้อมมอบความสนุกสนาน และความมันส์ ไปกับการแข่งรถอย่างแน่นอน โดยในบทความนี้ ก็จะเป็นการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวเกมนี้ ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ติดตามข้อมูลที่รวบรวมมาต่อจากนี้เลย
การพัฒนาเกมนี้ เริ่มต้นโดย Criterion Games หรือผู้พัฒนาวิดีโอเกม สัญชาติอังกฤษ แต่ถูกนำไปจัดจำหน่ายโดย Electronic Arts บริษัทวิดีโอเกมสัญชาติอเมริกัน ที่ในตอนแรกนั้น เกมนี้มีกำหนดวางจำหน่าย เมื่อช่วงปลายปี 2021 แต่ก็มีการเลื่อนออกไป เป็นปลายปี 2022
เนื่องจากทีมงานในบริษัทวิดีโอเกม ได้รับมอบหมายงานใหม่ คือการพัฒนาเกม Battlefield 2042 จึงทำให้การพัฒนาเกม Need for Speed ภาค Unbound มีความล่าช้านิดหน่อย ซึ่งก่อนเปิดจริง ก็มีการเปิดแบบ Early Access เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022 ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2022 นั่นเอง [1]
เนื้อเรื่องภายในเกมนี้ จะมีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด ของการแข่งรถใต้ดิน ที่ในช่วงแรกนั้น ผู้เล่นจะเป็นนักแข่งรถใต้ดิน ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย ทำให้ต้องสร้างชื่อเสียง และต้องใช้ความสามารถในการแข่งรถ เพื่อไต่เต้าไปสู่ระดับโปรให้ได้
โดยการเอาชนะคู่แข่ง หรือหลบหนีการตามล่าของตำรวจ ที่จะคอยขัดขวาง การแข่งรถใต้ดินทุกรูปแบบ โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดในเกมนี้ ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ กับตัวละครอื่น ๆ และเน้นการแข่งรถใต้ดิน ที่มอบความมันส์ได้อย่างเต็มที่แน่นอน
การเล่นในเกมนี้ หากเคยเล่นภาค Heat มาก่อน จะเข้าใจวิธีเล่นของภาค Unbound ได้อย่างง่ายดาย เพราะในภาคนี้ การเล่นเกมทั้งหมด เป็นการนำระบบเก่ามาปรับปรุงใหม่ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยการเล่นหลักนั้น จะเล่นไปพร้อมกับเนื้อเรื่อง
ที่ผู้เล่นจะต้องกอบโกยเงินรางวัล จากการแข่งขันรถ ที่มี 2 ช่วงเวลา ได้แก่กลางวัน และกลางคืน เพื่อนำมา Upgrade รถที่ใช้แข่ง และในภาคนี้ ก็มาพร้อมกับ ระบบการหลบหนีจากตำรวจ ที่มอบความท้าทาย ให้กับผู้เล่นได้อย่างเต็มที่แน่นอน และหากใครเบื่อเนื้อเรื่อง ตัวเกมก็มีโหมดออนไลน์ ที่สามารถแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น ๆ จากทั่วโลกได้อย่างอิสระ [2]
ในด้านกราฟิกของเกมนี้ ต้องบอกเลยว่า แตกต่างจากภาคก่อน ๆ ในซีรีส์ Need for Speed อย่างแน่นอน เพราะมาพร้อมกับกราฟิกแบบใหม่ ที่มีการผสมผสานระหว่าง สไตล์ศิลปะแบบเซลล์เฉดดิ้ง และสไตล์การ์ตูน ให้เข้ากับกราฟิกดั้งเดิมของตัวเกม ที่มีความสมจริง
ซึ่งทำให้เกิดกราฟิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหากนำกราฟิกไปเทียบกับเกมระดับ TOP อย่างการ แนะนำ Forza Horizon5 ก็ถือว่าสวยงาม และอยู่ในระดับมาตรฐาน ของเกมแข่งรถ
จุดเด่นของเกมนี้ มีหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ภาพสไตล์การ์ตูน ที่ผสมผสานความสมจริง ซึ่งทำให้มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของเกมนี้ และนอกจากนี้ ยังมีเรื่องของโหมดการเล่น ที่มีความหลากหลาย ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ
แถมโลกของเกมนี้ ยังเป็นแบบเปิดกว้าง และมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แต่ที่สำคัญที่สุด คือเรื่องของการแต่งรถ ที่ในเกม Need for Speed ภาคนี้ เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกอุปกรณ์แต่งรถ ที่ทั้งละเอียด และมีอุปกรณ์แต่งรถที่หลากหลาย มากกว่าภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมา [3]
แพลตฟอร์มที่เกมนี้ ได้นำไปจำหน่าย และเปิดให้บริการนั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แพลตฟอร์ม ที่เปิดให้บริการพร้อมกัน ได้แก่แพลตฟอร์มเครื่องคอนโซล 2 เครื่อง อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X/S ที่จำหน่ายผ่าน Store ของตัวเอง
ส่วนอีกหนึ่งแพลตฟอร์มนั้น เป็นการเปิดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ PC ที่จะต้องทำงานโดยระบบ Windows เท่านั้น ส่วนแหล่งที่วางจำหน่ายตัวเกม ก็คือ Application Steam สุดโด่งดัง ที่จำหน่าย และบริการเกมแท้มากมาย
โดยสรุปของเกมนี้ ก็คือเกมแข่งรถที่พบเห็นได้ทั่วไป ที่การเล่นนั้น จะเน้นการแข่งรถเป็นหลัก แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่าง ก็คือเรื่องของกราฟิก ที่มีการนำกราฟิกหลากหลายรูปแบบ มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ตัวเกมมีเอกลักษณ์ของกราฟิก
ที่มีความแปลกใหม่ และแตกต่างจากเกมแข่งรถทั่วไปอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมแข่งรถ บอกเลยห้ามพลาด แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ก็ลองเล่นได้เช่นกัน เพราะการเล่นในเกมนี้ ทำความเข้าใจได้ง่าย และไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย
บทวิจารณ์ที่เกมนี้ได้รับนั้น ถือว่าอยู่ระดับกลาง ๆ เพราะจากที่ค้นหาข้อมูลมาจาก Steam นั้น พบว่าบทวิจารณ์ที่เกมนี้ได้รับ ค่อนข้างที่จะผสมผสาน ซึ่งก็มีทั้งแง่บวก และแง่ลบ โดยหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ บทวิจารณ์ที่เป็นแง่บวกนั้น จะมี 61%
และโดยส่วนมาก ผู้เล่นที่วิจารณ์เกมนี้เป็นแง่บวก จะบอกกันเอาไว้ว่า ตัวเกมเนื้อเรื่องน่าติดตาม และมีความท้าทาย ส่วนบทวิจารณ์แง่ลบที่มี 39% ก็จะบอกกันเอาไว้ว่า AI ยากเกินไป อาการเด้งออกเกม และอีกมากมาย ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขจากทางผู้พัฒนาเรื่อย ๆ
ระบบ และอุปกรณ์ของเครื่อง PC หรือคอมพิวเตอร์ ที่รองรับการเล่นของเกมนี้ได้นั้น สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 64-bit ที่จะต้องทำงานบน โพรเซสเซอร์ Core i5 8600 หรือรุ่นที่สูงกว่านี้ เพื่อช่วยเหลือการ์ดจอ GeForce RTX 2070 8GB
เพื่อการประมวลผลทุกอย่างภายในเกม ให้ออกมาดีที่สุด และนอกจากนี้ จะต้องใช้ RAM มากกว่า 8 GB และต้องมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ว่างพร้อมใช้งาน 50 GB จึงจะเล่นเกมนี้ได้