กติกา กีฬากระโดดน้ำ เข้าใจการแข่งขันอย่างมืออาชีพ

กติกา กีฬากระโดดน้ำ

กติกา กีฬากระโดดน้ำ เป็นเรื่องสำคัญ ที่ช่วยให้เข้าใจวิธีการแข่งขัน และการให้คะแนนของกีฬาที่ผสมผสานความสวยงาม และความแข็งแรงนี้ รวมถึงเทคนิค และกฎพื้นฐานที่นักกีฬาต้องรู้ เพื่อการลงน้ำที่แม่นยำและปลอดภัย พร้อมข้อมูลเบื้องหลังการฝึกซ้อม และการเตรียมตัวอย่างมืออาชีพในสนามแข่งขันจริง นอกจากกีฬาประเภทนี้ ยังมีบทความอธิบายเกี่ยวกับ กีฬาระบำใต้น้ำ คืออะไร ให้อ่านอีกด้วย

  • อธิบายเกี่ยวกับกีฬากระโดดน้ำ
  • กติกาการแข่งขันกีฬากระโดดน้ำ
  • กีฬากระโดดน้ำ กับเอเชียนเกมส์

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกีฬากระโดดน้ำ

กีฬากระโดดน้ำ คือการกระโดดลงสู่ผิวน้ำ จากที่สูง เช่น กระดานสปริงบอร์ดหรือแท่นกระโดด โดยผู้เล่นจะใช้ศีรษะ หรือเท้านำลงก่อน พร้อมแสดงท่าทางต่างๆ ที่มีทั้งแบบง่ายและยาก ขึ้นอยู่กับทักษะ และระดับการแข่งขันของนักกีฬา [1]

ข้อมูลทั่วไปของกีฬากระโดดน้ำ

  • การใช้พละกำลัง: ต้องใช้ทั้งแรงและความยืดหยุ่น นักกีฬาต้องควบคุมร่างกายให้หมุน หรือบิดตัวกลางอากาศได้
  • อุปกรณ์หลัก: มี 2 แบบ คือกระดานสปริงบอร์ด (เด้งได้) และแท่นแพลตฟอร์ม (นิ่ง)
  • การใช้ท่า: แต่ละท่ามีระดับความยากต่างกัน ยิ่งยาก คะแนนพื้นฐานจะยิ่งสูง
  • การเก็บคะแนน: วัดจากท่าและการลงน้ำ ยิ่งลงน้ำนิ่ง กระเซ็นน้อย ยิ่งได้คะแนนดี
  • ระยะความสูง: ความสูงกระโดดมีหลายระดับ สปริงบอร์ดอยู่ที่ 1–3 เมตร แพลตฟอร์มสูงถึง 10 เมตร
  • การฝึกฝน: ต้องฝึกทั้งในน้ำและบนบก เพื่อควบคุมท่า และลดโอกาสบาดเจ็บ
  • รูปแบบ: มีแบบเดี่ยวและแบบคู่ แบบคู่ต้องกระโดดพร้อมกันให้เป๊ะทั้งจังหวะและท่า
  • ความเกี่ยวข้องกับโอลิมปิก: เป็นกีฬาสากลในโอลิมปิก มีแข่งมาตั้งแต่ปี 1904
  • ความพร้อม: จิตใจก็สำคัญไม่แพ้ร่างกาย ต้องมั่นใจและไม่ลังเลเมื่อต้องกระโดดจากที่สูง
  • ความเสี่ยง: เสี่ยงบาดเจ็บถ้าพลาด โดยเฉพาะเวลาลงน้ำผิดท่าหรือเสียการทรงตัว

กติกาการแข่งขันกีฬากระโดดน้ำ แบบเข้าใจง่าย

อุปกรณ์ที่ใช้กระโดด

  • มีทั้งกระดานกระโดดแบบยืดหยุ่น (Springboard) สูง 1 เมตร และ 3 เมตร
  • หรือแพลตฟอร์มกระโดดแบบแข็ง (Platform) ที่สูง 5, 7.5 และ 10 เมตร

ท่าที่ใช้ในการแข่งขัน

  • นักกีฬาต้องเลือกท่ากระโดดจาก 6 กลุ่มหลัก เช่น ท่าหันหน้า, ท่าหันหลัง, ท่าบิดตัว ฯลฯ โดยแต่ละท่าจะมี ระดับความยาก (Degree of Difficulty) กำกับไว้

ระบบให้คะแนน

  • กรรมการจะให้คะแนนแต่ละท่าเต็ม 10 โดยดูจากรูปแบบการกระโดด, การหมุนตัวกลางอากาศ และการลงสู่ผิวน้ำ
  • คะแนนที่ได้จะถูกนำไปคูณกับค่าความยากของท่า

การตัดสิน

  • คะแนนที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดจะถูกตัดทิ้ง
  • คะแนนที่เหลือจะถูกรวม และคูณด้วยระดับความยากของท่า
  • ใครได้คะแนนรวมสูงสุดเป็นผู้ชนะ

สิ่งที่กรรมการดูเป็นพิเศษ

  • การขึ้นกระดาน ต้องมั่นคง ไม่ลังเล
  • ระหว่างลอยตัว ต้องหมุนหรือบิดตัวตรงตามท่าที่เลือก
  • จังหวะลงน้ำ ต้องลงในแนวตรงที่สุด กระเซ็นน้ำให้น้อยที่สุด

ประเภทของการแข่งขัน

  • ประเภทเดี่ยวชาย/หญิง
  • ประเภทคู่ชาย/หญิง (Synchro) จะเน้นการกระโดดพร้อมกัน
  • แบบทีม แต่ละคนกระโดดท่าที่แตกต่างกัน

กีฬากระโดดน้ำ กับการแข่งขันในเอเชียนเกมส์

กีฬาทางน้ำ ถือเป็นหนึ่งในสองประเภทกีฬาบังคับ ของเอเชียนเกมส์ (อีกประเภทคือกรีฑา) เพราะเป็นกีฬาที่มีการแจกเหรียญมากที่สุดถึง 57 เหรียญทอง และยังเป็นชนิดกีฬา ที่คนไทยเคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว

กีฬาทางน้ำคือหนึ่งในกีฬาหลักของเอเชียนเกมส์ ที่มีการชิงเหรียญเยอะที่สุด และแม้ไทยเคยมีความสำเร็จในอดีต แต่ปัจจุบันต้องเจอกับคู่แข่งระดับโลกที่แข็งแกร่งอย่างมาก การคว้าเหรียญ จึงเป็นภารกิจที่ท้าทายมากในครั้งนี้

ที่มา: กีฬาทางน้ำ : กีฬาที่มีการชิงเหรียญทองมากที่สุดในเอเชียนเกมส์ [2]

กีฬากระโดดน้ำ กับหลักฟิสิกส์

กติกา กีฬากระโดดน้ำ
  • เริ่มจากการออกตัว นักกีฬาจะเลือกวิ่งแล้วกระโดด หรือกระโดดจากท่ายืน โดยใช้แรงจากร่างกายส่งตัวขึ้นกลางอากาศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ เพราะหากพลาดตรงนี้ แก้กลางอากาศไม่ได้แล้ว
  • ท่วงท่ากลางอากาศ นักกีฬาจะเลือกท่า เช่น หมุนตัว (Somersaults) หรือบิดตัว (Twists) ร่วมกับท่าเก็บตัวแบบ Tuck, Pike หรือ Straight ซึ่งแต่ละแบบมีระดับความยาก แตกต่างกัน และมีผลต่อคะแนน
  • จังหวะลงน้ำ การลงน้ำต้องเป๊ะ แขนเหยียดตรง ชูขึ้น ล็อคนิ้วหัวแม่มือไว้ด้วยกัน แล้วใช้ฝ่ามือเป็นจุดสัมผัสผิวน้ำจุดแรก เพื่อให้ร่างกายพุ่งทะลุลงอย่างนุ่มนวลที่สุด เรียกเทคนิคนี้ว่า Rip Entry

ข้อควรระวังของกีฬากระโดดน้ำ

  • การลงน้ำผิดท่าจากความสูง 10 เมตร อาจเกิดแรงกระแทกสูงถึง 56 กม./ชม. นักกีฬาต้องมีกล้ามเนื้อที่รับแรงได้ดี และมักฝึกในบ่อโฟม หรือสระฝึกพิเศษที่มีฟองอากาศ ช่วยลดแรงกระแทก
  • การควบคุมให้น้ำกระเซ็นน้อยที่สุด มีผลต่อคะแนน และต้องใช้ทั้งเทคนิค และสรีระที่แม่นยำมาก

เผยเหตุผลที่นักกีฬากระโดดน้ำ ต้องล้างตัวทันที

นักกีฬากระโดดน้ำ ไม่ได้อาบน้ำเพื่อแค่ล้างคลอรีน แต่เพื่อ รักษาอุณหภูมิของร่างกาย ให้อุ่นและกล้ามเนื้อไม่หดตัว เนื่องจากสถานที่แข่งขันมักเปิดแอร์เย็น แต่ในสระน้ำจะอุ่นกว่า พอขึ้นจากน้ำ กล้ามเนื้อจะเจอกับอากาศเย็นทันที ทำให้เสี่ยงเกิดตะคริว หรือบาดเจ็บได้

การลงอ่างอุ่น หรืออาบน้ำร้อนหลังแข่ง จึงช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย พร้อมกระโดดรอบต่อไปได้โดยไม่เสี่ยงเจ็บ

ที่มา: ทำไมนักกีฬากระโดดน้ำถึงต้อง ‘อาบน้ำ’ หลังกระโดดเสร็จ? [3]

ข้อสรุป กติกา กีฬากระโดดน้ำ

กติกา กีฬากระโดดน้ำ เน้นการประเมินท่ากระโดด และความแม่นยำในการลงน้ำ ที่ลดแรงกระเซ็นมากที่สุด เพื่อให้ได้คะแนนสูงสุด นักกีฬาต้องฝึกทั้งเทคนิคการกระโดด และการควบคุมร่างกายอย่างเข้มงวด รวมถึงดูแลร่างกาย ให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ของอุณหภูมิในสนามแข่งขันด้วย

ทีมชาติไทย มีนักกีฬากระโดดน้ำหรือไม่ ?

ทีมชาติไทย มีนักกีฬากระโดดน้ำ ลงแข่งในระดับนานาชาติ แต่ยังไม่ใช่ชนิดกีฬาหลักที่โดดเด่น เท่าประเภทอื่น อย่างว่ายน้ำ หรือโปโลน้ำ ผลงานยังไม่เคยได้เหรียญใหญ่ ในรายการอย่างเอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิก แต่ก็มีการส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันต่อเนื่อง เพื่อเก็บประสบการณ์ และพัฒนาในระยะยาว

นักกีฬากระโดดน้ำ ต้องเตรียมตัวก่อนแข่งอย่างไร ?

นักกีฬากระโดดน้ำ ต้องวอร์มร่างกาย และยืดกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนแข่ง เพื่อป้องกันบาดเจ็บ และเพิ่มความยืดหยุ่น เตรียมจิตใจให้มั่นคงโฟกัสกับท่ากระโดด และวางแผนท่าที่จะใช้ให้เหมาะสม กับความยากที่เลือกเล่นในแต่ละรอบ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง