รีวิว การลงทุน ประกันชีวิต ลงทุนยังไง ถึงจะคุ้ม

การลงทุน ประกันชีวิต

การลงทุน ประกันชีวิต เป็นการลงทุนที่มีหลายรูปแบบ ทั้งประกันสุขภาพ ประกันออมทรัพย์ และประกันอุบัติเหตุ ซึ่งประกันที่กำลังเป็นที่นิยม และขาดไปไม่ได้คือ ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นหนึ่งในการลงทุน ที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน

  • อธิบายความหมาย และองค์ประกอบของประกันชีวิต
  • แนะนำประเภทของประกันชีวิต ที่น่าลงทุน
  • แนะนำประกันชีวิตควบการลงทุน

ประกันชีวิต คืออะไร ถ้าจะซื้อประกัน ต้องดูอะไรบ้าง

ประกันชีวิต คือ สัญญาประกัน ที่ผู้ทำประกัน ได้ทำสัญญาประกันขึ้น กับบริษัทประกัน ซึ่งจะมีการจ่ายเงิน หรือเบี้ยประกัน เพื่อแลกกับความคุ้มครองต่าง ๆ ที่ได้ทำไว้กับสัญญานั้น เช่น ประกันโรคร้าย ประกันอุบัติเหตุ ประกันออมทรัพย์ และประกันการเสียชีวิต เป็นต้น

ซึ่งประโยชน์ที่ผู้ทำประกันจะได้รับ คือ หากผู้ทำประกัน ได้ทำประกันการเสียชีวิต ทางบริษัทประกัน ก็จะจ่ายเบี้ยประกัน ให้กับครอบครัว ของผู้ทำประกัน เป็นผู้รับผลประโยชน์ หรือทำประกันโรคร้าย หากผู้ทำประกัน เกิดตรวจเจอโรคร้าย หลังจากทำประกัน บริษัทประกันก็จะจ่ายเบี้ยประกัน เมื่อเจอโรคร้าย

ตามที่บริษัทประกันกำหนด เช่น 50,000-100,000 บาท เป็นต้น หรือประกันอุบัติเหตุ หากผู้ทำประกันอุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุขึ้น บริษัทประกัน ก็จะจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล และหากนอนโรงพยาบาล ก็จะจ่ายเงินชดเชย การนอนโรงพยาบาลเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ ของประกันนั้น ๆ

ที่มา: ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับประกันชีวิต ฉบับเข้าใจง่าย [1]

การลงทุน ประกันชีวิต มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง

การลงทุน ประกันชีวิต แบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ได้ 6 ประเภท คือ

  1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) เป็นการคุ้มครองผู้ทำประกัน ในระยะเวลาที่กำหนด มีเบี้ยประกันต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูง อาทิเช่น ผู้ที่มีหนี้สินมาก
  2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต เหมาะกับผู้ที่ต้องการ มอบผลประโยชน์ หรือเก็บเบี้ยประกัน ไว้ให้กับทายาท
  3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) ประกันนี้จะคล้ายกับ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แต่ประกันนี้ จะมีการกำหนดระยะเวลา ในการทำสัญญา ที่แน่นอน คือ หากผู้ทำประกัน มีชีวิตอยู่จนครบสัญญา จะได้รับเงินประกันคืนทั้งหมด
  4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Insurance) เป็นประกันชีวิต ที่จะเน้นการจ่ายเงินประกัน ให้กับผู้ทำประกัน เมื่อเกษียณอายุ จะเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนหลังเกษียณ
  5. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Investment-Linked Life Insurance) เป็นประกันที่ผสมระหว่างประกันชีวิต และการลงทุน เพราะเงินเบี้ยประกันส่วนหนึ่ง จะถูกนำไปลงทุน ในกองทุนต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูง และก็มีโอกาสที่จะได้รับความเสี่ยง จากการลงทุน เช่นกัน
  6. ประกันสุขภาพ ควบการประกันชีวิต เป็นประกันที่คุ้มครองชีวิต และสุขภาพ เช่น ค่ารักษาพยาบาล และค่าห้องพัก ในโรงพยาบาล เป็นต้น

เบี้ยประกันชีวิตที่จะได้ ในการลงทุนประกัน มักจะขึ้นอยู่กับอะไร

สำหรับเบี้ยประกันชีวิต ที่ผู้ทำประกันได้เสีย ในแต่ละเดือน แต่ละปีนั้น เบี้ยประกันนั้น ไม่ได้มีราคาตายตัว ซึ่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ได้แก่

  1. อายุ ยิ่งอายุมากขึ้น เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตาม
  2. สุขภาพ สำหรับผู้ทำประกัน ที่มีสุขภาพดี เบี้ยประกันที่ได้รับ มักจะต่ำกว่า ผู้ที่มีประวัติการเจ็บป่วยบ่อย
  3. เพศ ตามปกติเบี้ยประกันของผู้หญิง จะมีราคาเบี้ยประกัน ที่ต่ำกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงนั้น มักจะมีอายุ ที่ยืนยาวกว่าผู้ชาย
  4. อาชีพ เช่น อาชีพที่มีความเสี่ยงสูง มักจะมีเบี้ยประกัน ที่สูงกว่าอาชีพอื่น ๆ ทั่วไป
  5. จำนวนเงินประกัน คือ ยิ่งเงินประกันมาก เบี้ยประกันที่ต้องเสีย ก็มักจะสูงขึ้นตามเช่นกัน

และนี่เป็นเพียงตัวอย่าง ของเบี้ยประกันชีวิต ที่ผู้ทำประกันจะได้ เมื่ออยู่ครบสัญญาประกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้น และนอกจากนี้ ก็มีปัจจัยอื่นอีก เช่นกัน

หากอยากซื้อประกันชีวิต จะต้องดูอะไรบ้าง

การลงทุน ประกันชีวิต

สำหรับผู้ที่อยากซื้อประกันชีวิต ผู้ซื้อประกันจะต้องดูทุนประกัน และเบี้ยประกัน ในการตัดสินใจซื้อประกัน เพราะในการลงทุนซื้อประกัน ที่คุ้มค่าที่สุด คือ การซื้อประกันที่ตรงกับวัตถุประสงค์ และความต้องการ ของผู้รับผลประโยชน์มากที่สุด เช่น การซื้อประกันสะสมทรัพย์ เพราะผู้ทำประกันต้องการที่จะออม

หรือการซื้อประกันสุขภาพ เพราะต้องการความคุ้มครอง ที่จะได้รับจากประกันสุขภาพ ซึ่งเหตุผลที่ต้องดูทุนประกัน และเบี้ยประกัน เพราะว่าหากซื้อทุนประกัน ที่มีราคาสูง จะทำให้เบี้ยประกันนั้น สูงตามไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้การเงินฝืดเคือง หรือซื้อทุนประกัน และเบี้ยประกันที่ต่ำ ก็อาจจะทำให้ประกันที่ซื้อนั้น

ไม่ครอบคลุมความคุ้มครอง ที่ผู้ซื้อประกันต้องการได้รับเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากอยากซื้อประกันชีวิต อย่าลืมดูที่ทุนประกัน และเบี้ยประกัน ประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้อประกันทุกครั้ง

ที่มา: ซื้อประกันทั้งที ต้องดูทั้งทุนประกันและเบี้ยประกัน [2]

ข้อมูลสำคัญ ที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่คุณควรรู้

รายละเอียดข้อมูลที่สำคัญ ที่ผู้ทำประกันต้องรู้ ก่อนทำประกัน ได้แก่ 

  1. รายละเอียดของผลประโยชน์ ในประกัน คือ ผู้ทำประกันควรที่จะต้องรู้ รายละเอียดผลประโยชน์ทั้งหมด ที่จะได้รับทั้งในกรณีมีชีวิต และเสียชีวิต เช่น เงินคืนรายงวด เงินปันผลประจำปี หรือเงินก้อนเมื่อเสียชีวิต เป็นต้น 
  2. ส่วนสรุปของกรมธรรม์ประกันชีวิต กล่าวคือ ผู้ทำประกันควรรู้ ชื่อของกรมธรรม์ ประเภทของกรมธรรม์ วันที่เริ่มต้นสัญญา และวันที่สิ้นสุดสัญญาของกรมธรรม์ ระยะเวลาในการคุ้มครองของกรมธรรม์ จำนวนเงินประกัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่สำคัญ
  3. ตารางมูลค่ากรมธรรม์ กล่าวคือในกรณีที่ผู้ทำประกัน จะต้องหยุดจ่ายเบี้ยประกัน ผู้ทำประกัน จะต้องดูตารางมูลค่ากรมธรรม์ เพื่อที่จะใช้ในการตรวจสอบ สิทธิ์ค่าเวนคืน สิทธิ์การแปลง และสิทธิ์ในการขยายเวลา เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ มาใช้ในการประกอบการตัดสินใจ
  4. ใบคำขอเอาประกัน ส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ในอันดับแรก ๆ ที่ผู้ทำประกัน ควรเช็กหลังจากได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิต เพราะว่าใบคำขอเอาประกัน จะปรากฏข้อมูลผู้เอาประกัน รายละเอียด ความคุ้มครองต่าง ๆ และผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งหากข้อมูลไม่ถูกต้อง จะต้องแจ้งแก้ไขทันที
  5. สัญญาเพิ่มเติมต่าง ๆ ในส่วนของสัญญาเพิ่มเติม จะเป็นส่วนที่มีความละเอียดมาก ซึ่งส่วนนี้ผู้ทำสัญญา ประกันควรอ่านอย่างละเอียดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคำนิยาม ผลประโยชน์ที่ได้รับ การเรียกร้องผลประโยชน์ ค่าชดเชยต่าง ๆ ที่ต้องได้รับ เป็นต้น

ที่มา: ซื้อประกันทั้งที ต้องดูทั้งทุนประกันและเบี้ยประกัน [3]

ประกันชีวิตควบการลงทุนนั้นคืออะไร แตกต่างกับประกันปกติไหม

ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked Insurance Policy) คือ ประกันชีวิตที่มีการนำเบี้ยประกันส่วนหนึ่ง ไปลงทุนในกองทุน ที่ผู้ทำประกันได้เลือกไว้ เพื่อให้เงินที่ได้ลงทุน ได้เติบโต และได้รับผลกำไร ซึ่งเบี้ยประกันนี้ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ค่าความคุ้มครองชีวิตตามกรมธรรม์

ส่วนที่ 2 ค่าดำเนินการของบริษัทประกัน ส่วนที่ 3 เงินที่จะนำไปลงทุน ซึ่งการลงทุนในประกันชีวิตควบการลงทุนนั้น มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทน ที่สูงกว่าประกันชีวิตทั่วไป แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงเช่นกัน ประกันชีวิตควบการลงทุนนั้น แตกต่างกับประกันปกติ ในส่วนของผลตอบแทน ความยืดหยุ่น

ความโปร่งใส และค่าธรรมเนียม กล่าวคือ ประกันชีวิตปกติ มักจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ แต่แน่นอน แต่ประกันชีวิตควบการลงทุน จะให้ผลตอบแทนที่สูง ยืดหยุ่นการลงทุนได้ มีความโปร่งใส สามารถติดตามการดำเนินงาน ได้ตลอดเวลา แต่ก็แลกมากับค่าธรรมเนียม ที่สูงกว่าเช่นกัน

การลงทุน ประกันชีวิต กับบทสรุป

การลงทุน ประกันชีวิต

สรุป การลงทุน ประกันชีวิต เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ และน่าลงทุน ในปัจจุบัน และอนาคต เพราะเราไม่สามารถรู้ว่าเราจะเจ็บป่วยเมื่อไหร่ หรือเราจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ไม่ว่าจะลงทุน ในประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันควบการลงทุน ก็ถือว่าเป็นการลงทุน ให้กับตนเอง เพื่ออนาคตทั้งหมด

หากอยากลงทุนอย่างอื่น มีการลงทุนไหน ที่น่าสนใจอีกบ้าง

สำหรับผู้ที่ได้มีการลงทุน ในประกันชีวิตแล้ว กำลังมองหาการลงทุน ที่น่าสนใจอื่น ๆ ขอแนะนำ การลงทุน อสังหา เป็นการลงทุนในพื้นที่ ที่อยู่อาศัย ซึ่งสามารถเติบโต เป็นเสือนอนกินได้ในอนาคต หรืออาจจะเป็น การลงทุน ในหุ้น, การลงทุน ตราสารหนี้ ก็ทำให้เติบโตได้ไม่แพ้กัน

ประกันชีวิตที่ควบคู่การลงทุนนั้น เหมาะกับใครบ้าง

สำหรับประกันชีวิตที่ควบคู่การลงทุนนั้น เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการความคุ้มครอง ในชีวิต หรือว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการการลงทุน เพราะว่าประกันชีวิตที่ควบคู่การลงทุนนั้น สามารถคุ้มครองชีวิต และช่วยสร้างรายได้มั่นคง ในระยะยาวได้อีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง