
การลงทุน เป็นเจ้าของกิจการ เริ่มยังไง ต้องรู้จักอะไรบ้าง
- LittleHydrangea
- 20 views
การลงทุน เป็นเจ้าของกิจการ เป็นการลงทุน ที่ใครหลายคนต่างฝันถึง แต่ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเริ่มต้นกิจการ สิ่งที่มี คือ ความเสี่ยง ที่ผู้ลงทุนทุกคน ต้องแบกรับ เพราะความฝันในการเป็นเจ้าของกิจการ ย่อมมาพร้อมความรับผิดชอบ ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
สำหรับการวางแผน ในการสร้างสร้างธุรกิจในฝัน ให้ประสบผลสำเร็จ ขอแนะนำ 6 ขั้นตอน เริ่มต้น ในการสร้างธุรกิจ
และนี่เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้น ในการทำธุรกิจในฝันเท่านั้น เพราะการเป็นเจ้าของในธุรกิจใด ธุรกิจหนึ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป หากผู้ลงทุนในการทำธุรกิจ มีหลักการลงทุน และพร้อมที่จะเผชิญความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา: อยากเป็นเจ้าของกิจการ ต้องเริ่มต้นยังไง? [1]
สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ ก่อนที่จะเริ่มต้น คิดที่จะทำธุรกิจ คือ เริ่มต้นที่จะรู้จักตัวเอง เพราะธุรกิจที่ควรจะทำ ควรเป็นธุรกิจ ที่มาจากความชอบ และความเชี่ยวชาญ ซึ่งหากเรารู้จักในธุรกิจนั้น ๆ จะทำให้เรารู้ว่า ควรหากลุ่มลูกค้า จากที่ไหน และเป้าหมายหลัก คือใคร นอกจากนี้ การที่เรารู้จักกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้า
ยังทำให้รู้ว่าควรทำการตลาดยังไง เพราะนอกจากการวางกลุ่มเป้าหมาย ควรรู้จักการวางแผนการ การทำการตลาด เพื่อที่จะได้เห็นถึงจุดแข็ง และจุดอ่อน ของตนเอง และยังสามารถ ทำให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่อาจจะมองเห็นถึงแวว ของธุรกิจนั้น ๆ แต่เพื่อความปลอดภัย ในการทำธุรกิจ
เริ่มต้นในการทำธุรกิจ จากเงินก้อนเล็ก ๆ และค่อยขยับขยายไปเรื่อย ๆ จะทำให้ผู้ลงทุนนั้น สามารถมองเห็นถึงแนวโน้มธุรกิจ ที่ได้ทำว่ามีแนวโน้มยังไง ควรลงทุนต่อ หรือพอแค่นี้
ต้องบอกเลยว่า การวางแผนการทางการเงิน สำหรับธุรกิจนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญ ของเจ้าของธุรกิจเลยก็ว่าได้ เพราะการบริหารเงินทุนที่ดี คือขั้นพื้นฐานของการเริ่มทำธุรกิจ ซึ่งสามารถวางแผนการเงิน ในการทำธุรกิจได้ โดยการประเมินความเสี่ยง ในธุรกิจนั้น ๆ เพื่อเตรียมรับมือ กับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ที่สำคัญเจ้าของธุรกิจ ควรที่จะต้องรู้ทันสภาพการเงิน และมีการติดตาม งบทางการเงินอย่างถี่ถ้วน ซึ่งในการรู้ทันสภาพเงิน เจ้าของควรที่จะต้อง สามารถวัดเป้าหมาย ทางแผนธุรกิจก่อน ว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ สามารถประสบผลสำเร็จได้หรือไม่ โดยการวัดเป้าหมายระยะสั้น และมีเงินสำรองเตรียมไว้
นอกจากนี้ควรจัดเก็บข้อมูลของบัญชีต่าง ๆ ให้เป็นระบบ และไม่นำเงินส่วนตัว ปนกับเงินในการทำธุรกิจเด็ดขาด เพียงทำตามขั้นต้องเบื้องต้น ที่ได้แนะนำไป ก็สามารถเพิ่มความสามารถในการทำธุรกิจ เพราะสามารถเข้าใจ และก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้
ที่มา: วิธีบริหารจัดการเงินสำหรับธุรกิจยุคใหม่ [2]
สำหรับในยุคปัจจุบัน ที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ แต่การจะเป็นนักธุรกิจที่ดี มีอะไรบ้าง สามารถดูแนวทาง ของคุณสมบัติของการเป็นนักธุรกิจที่ดี ได้เลย
ที่มา: เจ้าของธุรกิจที่ดี ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร จึงจะประสบความสำเร็จ [3]
ในความรู้ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ คือ ความรู้ ความเข้าใจ ในกระแสเงินสด เพราะการรู้และเข้าใจในกระแสเงินสด ถือเป็นความรู้พื้นฐาน ที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องรู้ เพื่อให้เข้าใจในรายรับ และรายจ่าย ในแต่ละเดือน ว่ากระแสเงินสด ที่ได้รับนั้น มีสัดส่วนเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับกระแสเงินสด ที่ไหลออก
เพราะนอกจากจะทำให้รู้ว่าได้กำไร หรือขาดทุน ยังทำให้สามารถประมาณกำไร และเป้าหมาย ในการดำเนินธุรกิจ ล่วงหน้าได้อีกด้วย และที่สำคัญ เจ้าของธุรกิจนั้น ๆ ควรรู้เกี่ยวกับภาษี ที่จะเป็นตัวช่วย ในการจัดการ และการดำเนินงาน ในการบริหารธุรกิจเบื้องต้น รวมไปถึงการลดหย่อนภาษีอีกด้วย
สุดท้ายที่ผู้ลงทุน แบบมือฉมัง มักจะใช้ และมือใหม่ควรต้องรู้ คือ การออกจากกิจการนั้น ๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า การออกเพราะขาดทุน แต่เป็นการออก เมื่อดำเนินธุรกิจไปในระดับหนึ่ง และรู้สึกอิ่มตัว อยากที่จะขายกิจการ ให้ผู้อื่น อาจจะเพราะไม่มีผู้สืบทอดกิจการ เป็นต้น ผู้ลงทุนควรต้องคำนึง
ถึงกลยุทธ์ในการออกจากกิจการ เพราะหากขายในช่วงที่กิจการ เริ่มมีผลประกอบการ ที่ไม่ค่อยดี อาจทำให้ขายไม่ได้ ในราคาที่ต้องการ หรือการเลยช่วงวัฏจักรขาขึ้น ของกิจการไปแล้วนั่นเอง
สรุป การลงทุน เป็นเจ้าของกิจการ เป็นการลงทุนที่ผู้ลงทุน จะต้องมีแพชชัน ในการทำงาน และเป้าหมาย ที่สูงมาก เพราะการจะทำธุรกิจ หรือเปิดกิจการใด กิจการหนึ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย และที่สำคัญ สิ่งที่ยากกว่าการเปิดกิจการนั้น ๆ คือ การดำเนินธุรกิจ ให้ไปต่อ หรือไปได้ดีนั่นเอง
เพราะเจ้าของกิจการนั้น ๆ จะได้รู้ว่า เงินที่ได้นั้น ๆ เป็นผลตอบแทน เป็นกำไร หรือขาดทุน ในการทำธุรกิจ หากเจ้าของกิจการไม่ได้นำเงินส่วนตัว ออกจากเงินในการทำธุรกิจ อาจจะทำให้เจ้าของธุรกิจ ได้นำเงินที่จะใช้ในการลงทุน ไปกับการใช้จ่ายส่วนตัว
เหตุผลที่การลงทุนในหุ้น ก็เปรียบเสมือนผู้ลงทุน เป็นเจ้าของกิจการ เพราะว่าหากผู้ลงทุน ได้ลงทุนในหุ้นแบบถือครองหุ้น ในระยะยาว ผู้ลงทุนก็จะ ได้รับผลตอบแทน จากหุ้นที่ได้ถือครอง เป็นเงินปันผล ตามสัดส่วนการลงทุน ที่ผู้ถือหุ้นได้ลงทุนไป ซึ่งอาจได้กำไร หรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับผลประกอบการนั้น ๆ