
พรีวิว การเล่น Cairn เกมปีนเขาระบบฟิสิกส์ ฉบับคนจริงจัง
- Spawn
- 15 views
การเล่น Cairn คือการปีนเขาที่ไม่มีแผนที่ ไม่มีแถบพลัง และไม่มีใครบอกว่าคุณจะร่วงเมื่อไหร่ เกมนี้ไม่ได้วัดความไวมือ แต่วัดความนิ่งในใจ มันให้คุณควบคุมทุกการยึดเกาะ ฟังเสียงหายใจแทนดูหลอดพลัง และเรียนรู้ว่า ความผิดพลาดเล็กน้อยบนผาสูง อาจหมายถึงการเริ่มใหม่ทั้งหมด
เกมCairn คือเกมปีนเขาแนว survival climber ที่ผสมความสมจริงระดับฟิสิกส์ กับการบีบคั้นสมาธิแบบไร้ UI ตัวช่วย ที่พัฒนาโดย The Game Bakers ทีมอินดี้ฝรั่งเศสที่เคยฝากผลงานไว้ในเกมอย่าง Furi และ Haven ซึ่งห่างหายจากวงการไปเกือบ 5 ปีเต็ม ก่อนจะกลับมาพร้อมไอเดียที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
จุดที่ทำให้ การเล่น Cairn ไม่เหมือนเกมปีนเขาทั่วไป คือมันไม่ได้มีเส้นทางให้เดิน ไม่มี HUD บอกสเตตัส ไม่มีอะไรเลยนอกจากร่างกายของผู้เล่น กับหน้าผาที่ออกแบบอย่างละเอียดทุกจุดจับ โดยผู้เล่นจะต้องควบคุมแขน–ขา น้ำหนักตัว และแรงยึดแบบ manual ทั้งหมด
โดยอาศัยการอ่านสภาพร่างกาย เพื่อประเมินว่าควรปีนต่อ หรือพักก่อนจะตก ตัวเกมได้นำเสนอการเล่น แบบมุมมองบุคคลที่สาม (third-person) ที่ทำให้เราเห็นทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกาย และมุมหน้าผาได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้เกมนี้เป็นมากกว่าการปีน แต่มันคือการวางแผนภายใต้แรงโน้มถ่วงที่โหดร้าย [1]
หลังจากฝากผลงานเกมแอ็กชันจังหวะเร็วอย่าง Furi และเกมรักโรแมนติก sci-fi อย่าง Haven ไว้ในความทรงจำของสายอินดี้ทั่วโลก ทีม The Game Bakers ก็เงียบหายไปถึง 5 ปีเต็ม ก่อนจะกลับมาพร้อมโปรเจกต์ที่ไม่มีใครคาดเดาได้ นั่นคือ เกมปีนเขาระบบฟิสิกส์แบบจริงจัง
โดยคาดว่าเบื้องหลังการพัฒนาเกมนี้ ไม่ใช่แค่ไอเดียลอย ๆ แต่เกิดจากการร่วมงานกับ Élisabeth Revol นักปีนเขาระดับโลก เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของการปีน แบบไร้เชือกอย่างมีความหมาย ซึ่งทางทีมพัฒนาย้ำตั้งแต่ต้นว่า นี่จะไม่ใช่เกมยาก แม้จะเป็นเกมที่เข้าใจยาก ที่เน้นสมาธิของผู้เล่นเป็นสำคัญ
ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของ The Game Bakers ไม่ได้เลือกทางที่ง่ายหรือตลาดนิยม แต่กลับเดินทางที่ยากที่สุด ทำเกมที่ไม่ตะโกน แต่พูดกับผู้เล่นด้วยจังหวะลมหายใจและแรงสั่นของมือบนผา เป็นโปรเจกต์ที่พิสูจน์ว่า สตูดิโอเล็กก็สร้างเกมใหญ่ในความรู้สึกได้ ถ้ากล้าพอจะให้มัน เงียบและนิ่งอย่างตั้งใจ [2]
การเล่นภายในเกมนี้ การปีนเขาไม่ใช่แค่กดกระโดดหรือเดินไปตามทาง แต่มันคือการควบคุมร่างกายแต่ละส่วน ให้สัมพันธ์กันบนพื้นที่ที่ไม่เคยให้อภัย ซึ่งระบบการเล่นออกแบบมาให้ผู้เล่นต้อง ใช้แรง ทั้งทางร่างกาย และใช้แรงใจ กับการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา
โดยสิ่งที่เกมนี้ทำได้เฉียบ คือ การตัดทุกอย่างที่เกมสมัยใหม่มักมี ไม่ว่าจะเป็น แถบ stamina, ไม่มี HUD, ไม่มีเสียงเตือน ไม่มีคำใบ้ มันให้แค่เสียงหายใจ การสั่นของมือ เพื่อบอกว่าคุณใกล้หมดแรงหรือควรพักก่อน ในแง่ gameplay นี่คือ ภาษากายของเกม ที่ผู้เล่นต้องเรียนรู้เหมือนภาษาคน
นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีระบบทรัพยากรระหว่างปีน อาทิเช่น pitons (เหล็กตอกยึด), chalk (แป้งกันลื่น), tape, น้ำ, อาหาร, ยา ซึ่งทุกอย่างมีจำกัด และต้องใช้ในเวลาที่เหมาะจริง ๆ เพราะไม่มีระบบย้อนเวลา ไม่มีเซฟระหว่างจุด จะปีนต่อหรือถอยหลัง ต้องตัดสินใจแบบนักปีนจริง ๆ ที่ชีวิตแขวนอยู่บนผาหิน
ในโลกที่เดโมของเกมมักเป็นเพียงส่วนน้อยที่ “พอเล่นรู้เรื่อง” แล้วค่อยตัดสินใจทีหลัง CairnDemo กลับทำตรงกันข้าม การเล่น Cairn เรียกว่าผู้พัฒนาได้โยนผู้เล่นลงหน้าผาสูง และเปิดเส้นทางปีนจริงให้คุณไต่ขึ้นไปโดยไม่มีตัวช่วย ไม่มีบทสอน และไม่มีใครบอกว่าคุณควรจะทำอะไร
ซึ่งเป็นเหมือนการลงสนามจริงก่อนรู้กติกา แล้วเรียนรู้ไปทีละก้าว ด้วยน้ำหนักของร่างกาย และความล้าในใจ และสิ่งที่สัมผัสได้ทันทีจาก demo คือ ความเงียบ ที่น่าอึดอัด เพราะมันไม่มีดนตรี ไม่มีเสียงปลุกเร้า มีแค่ลมหายใจและแรงกดจากปุ่มที่กดอยู่ ผู้เล่นจะเริ่มสังเกตว่าสมาธิคือทุกอย่าง
เรียกได้ว่านี่คือการเล่นเกม ที่ไม่ได้เน้นการชนะ แต่เน้นให้รู้ว่า ปีนแบบประมาทไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้จะเป็นเพียง demo ระยะสั้น แต่การเล่นก็ให้ภาพชัดเจนมากว่า เกมนี้ไม่ได้สร้างมาให้ทุกคนรักตั้งแต่กดเริ่ม แต่มันปล่อยให้ลองไปเงียบ ๆ แล้วรู้เอาเองว่า เกมมาทดสอบใจล้วนๆ
ถ้าวัดกันที่ระบบปุ่มหรือกลไกพื้นฐาน นี่ไม่ได้เป็นเกมที่ยาก ในเชิงเทคนิค เพราะคุณแค่ควบคุมมือ-ขา เลือกจุดยึด วาง piton เท่านั้นเอง ไม่มีศัตรู ไม่มีปริศนา ไม่มีเวลาไล่บี้ แต่สิ่งที่ทำให้มันแอบโหดแบบเงียบๆ คือ ความจริงที่ว่า ทุกอย่างสามารถพังได้จากความประมาทแค่วินาทีเดียว
ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องเก่ง เท่ากับการต้องนิ่ง เพราะทุกครั้งที่มือสั่น ขาเกร็ง หรือรีบออกแรงข้ามจุดจับโดยไม่ประเมิน เกมนี้จะตอบสนองกลับด้วยการโยนคุณลงจากผา แบบไม่ดราม่า เกมนี้ไม่ได้เตือน ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีฉากเฟลอลังการ มันแค่ให้คุณร่วง แล้วปล่อยให้คุณเงียบใส่ตัวเอง เพื่อคิดใหม่ว่าพลาดอะไรไป
ความโหดของ เกมCairn จึงไม่ได้อยู่ที่ระดับความยาก แต่คือความจริงใจของระบบ ที่ไม่อภัยให้ความชะล่าใจ และนั่นแหละคือเสน่ห์ของตัวเกม ที่ทำให้ทุกการปีน มีน้ำหนักในแบบที่ไม่มีเกมไหนเลียนแบบได้
การปีนเขาในเกมนี้ ไม่ได้ใช้มือกับเมาส์แค่เพื่อควบคุมตัวละคร แต่กลายเป็นการควบคุมความคิดของตัวเองไปพร้อมกัน เกมนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแทนของ เกมแนวสมาธินำทาง ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง
ข้อดี
ข้อเสีย
สำหรับใครที่อินกับ การเล่นเกมเพื่อเข้าใจตัวเอง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะรักเกมนี้ได้ไม่ยาก แต่ถ้าชอบเกมที่บอกทาง มีจังหวะ มีชัยชนะให้ชัดเจน อาจรู้สึกว่าเกมนี้ อาจจะดูเงียบ และจืดจางไปหน่อย [3]
เกมที่ไม่ได้ท้าทายตัวละคร แต่คือการท้าทายสมาธิของผู้เล่น 100% เพราะทุกก้าวบนผาไม่ได้มีอุปสรรคใหญ่ แต่มีความเงียบ ความกดดัน และความไม่แน่นอนที่สะสมอยู่ตลอดทาง เกมนี้พร้อมที่จะมอบพื้นที่ให้อยู่กับตัวเอง ที่ไม่มีอะไรมารบกวน นอกจากแรงโน้มถ่วงและเสียงของหัวใจ
นี่ไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน แต่มันคือเกมสำหรับคนที่อยากทดสอบขีดจำกัดของความนิ่งในตัวเอง เหมาะกับคนที่ไม่รีบ ไม่คาดหวังจะชนะเร็ว ๆ และเข้าใจว่าเกมบางเกมไม่ได้เล่นด้วยนิ้ว แต่เล่นด้วยสมาธิและใจที่มั่นคง ไม่ต่างจาก การเล่น New Heights ที่เหมือนเป็นต้นแบบเกมปีนเขาแน่นอน
ตัวเกมเวอร์ชันเต็ม มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 5 พ.ย. 2025 บนแพลตฟอร์ม PC ผ่าน Steam ซึ่งผู้เล่นสามารถลองเดโมได้แล้วตอนนี้ ซึ่งแม้จะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ แต่ก็ถ่ายทอดแก่นของเกมได้ชัดเจนพอจะรู้ว่า เกมนี้ไม่ใช่แค่ให้ปีน แต่กำลังท้าทายว่า ใจคุณนิ่งพอจะปีนหรือยัง