
การเล่น Crazy Athletics คือกีฬาแบบ Rhythm หรือเกมกดปุ่มวนซ้ำ
- Spawn
- 15 views
การเล่น Crazy Athletics เกมโอลิมปิกสายปั่น ที่ทำให้ปุ่มคีย์บอร์ดล้าเร็วยิ่งกว่าตัวละครในเกม เพราะการหยิบกีฬาจริงจัง มาผูกกับระบบกดปุ่มตามจังหวะเหมือน Rhythm Game แต่ผลลัพธ์กลับชวนสงสัยว่า การเล่นเกมนี้ กำลังแข่งขันกีฬา หรือแค่กดปุ่มเดิมวนไปวนมาจนเริ่มหัวเราะออกมาเองกันแน่
เกมที่ถูกปล่อยใน เดือนธันวาคม 2021 โดยสตูดิโอเล็กจากไซปรัสชื่อ Crazysoft Limited ซึ่งตั้งใจทำเกมกีฬาที่แตกต่างจาก เกมโอลิมปิกแบบเดิมๆ มันไม่ใช่แค่เกมที่ให้กดปุ่มรัวๆ แต่ดัดแปลงให้กลายเป็น เกมRhythm เต็มรูปแบบ ที่ต้องกดปุ่มตาม chart จังหวะเหมือนเล่น Guitar Hero เวอร์ชันกีฬาฮา ๆ
โดยเกมมีแผนที่ทั้งหมด รวมกว่า 80 อีเวนต์ ตั้งแต่ วิ่งสปรินต์ไปจนถึงขว้างหอก แต่ทุกอย่างหมุนรอบ “ระบบกดให้ตรงจังหวะ” เป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่ควรรู้ก่อนกดเริ่มจริงจัง คือเพลงกับจังหวะในเกมไม่ได้ sync กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเล่นจริงพูดตรงกัน ตั้งแต่ช่วงวางขาย (2 ธันวาคม 2021) [1]
จึงทำให้เกม rhythm ส่วนใหญ่ เน้นให้เล่นฟังเพลงแล้วกดตาม แต่เกมนี้บังคับให้เล่นด้วยตามองกราฟ chart แทนที่จะใช้หูฟังจังหวะ จนเกิดความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกำลังซ้อมปุ่มบนจอมากกว่าการเล่นกีฬา ผลลัพธ์คือเกมนี้ทั้งสร้างเสียงหัวเราะ เสียงบ่น และทำให้คนถามว่า นี่เป็นการเล่นเกมกีฬาแบบไหน
ในยุค ’90 เกมกีฬาสายโอลิมปิกอย่าง Track & Field หรือ Olympic Gold ทำให้เรา “กดปุ่มรัว” จนมือชาเพื่อให้ตัวละครวิ่งหรือกระโดด แต่ CrazyAthletics ซึ่งเปิดตัวช่วง ธันวาคม 2021 เลือกฉีกสูตรนี้ออกไปเลย มันแทนที่การกดปุ่มรัว ด้วยระบบ Rhythm Chart ที่เน้นจังหวะบนหน้าจอให้กดตาม
โดยจุดที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจ ในเชิงคุณภาพคือ ความตั้งใจจะลดความเจ็บปวดของนิ้ว แต่กลับแลกมาด้วยจังหวะการกดที่ ไม่ได้ sync กับเพลงในเกมเลย รีวิวจากต่างประเทศหลายแห่งตั้งแต่ปีแรกที่เกมออก พูดตรงกันว่า “เกมนี้ต้องเล่นด้วยตา ไม่ใช่ด้วยหู” เพราะแม้ เกมนี้จะมีเพลงอินดี้มากกว่า 100 เพลง
แต่ไม่มีเพลงไหนตรงกับจังหวะ chart แบบเกม rhythm ทั่วไป ทำให้ผู้เล่นต้องจ้องหน้าจออย่างเดียวจนไม่ทันสนใจฉากหลัง Insight แบบนี้ไม่ค่อยถูกเล่าบนเว็บไทย แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นจุดที่ทำให้คนรู้สึกว่าเกมนี้ “เป็น rhythm ที่ไม่รู้สึกเหมือน rhythm” อย่างแท้จริง (15 มกราคม 2023) [2]
Game-CrazyAthletics โฆษณาชัดว่ามี กีฬา 10 ชนิด กระจายอยู่บน 10 แผนที่ รวมกว่า 80 อีเวนต์ ตั้งแต่วิ่ง 100 เมตร ว่ายน้ำ กระโดดไกล ไปจนถึงขว้างหอก แต่พอเล่นจริง ทุกอีเวนต์กลับใช้ ปุ่มเดิมวนซ้ำ ๆ วนไป วนมา โดยเริ่มจาก X, เพิ่ม Square, Triangle แล้วสุดท้ายจบที่ปุ่ม Circle
ซึ่งรูปแบบการเล่นของเกม ก็เปลี่ยนหน้าที่ไปตามชนิดกีฬาแต่ละประเภท ไม่ว่าจะ “กระโดด ขว้าง หรือออกตัว” โดยคนที่เริ่มเล่นวันแรกยังสนุก แต่หลังจากผ่านไปแค่ 1–2 ชั่วโมง หลายคนเริ่มพูดเหมือนกันว่า ทุกด่านคือเพลงเดียวกัน เปลี่ยนแค่ฉาก
ซึ่งเพราะเว็บส่วนใหญ่ เล่าผ่านการรีวิวแค่ว่า “เกมนี้มีหลายกีฬา” แต่ไม่บอกว่ามัน ใช้ pattern เดิมเกือบทั้งหมด ผลที่ได้คือเกมทำให้คนสงสัยว่า “กำลังแข่งกีฬา หรือซ้อมกดปุ่มเดิมซ้ำ ๆ ไปเรื่อยกันแน่”
ระบบการเล่นของ เกมCrazy-Athletics เป็นหนึ่งในเกมที่ออกแบบให้ทั้งคนเล่นจริงจัง และคนเล่นขำ ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่พอลองเล่นไปนาน ๆ จะเริ่มเห็นว่า “ความง่าย” นั้นพาไปสู่ ความซ้ำ อย่างรวดเร็ว เกมถูกออกแบบมาให้กดปุ่มตาม rhythm chart แบบเดิม ๆ ทุกด่าน
ผลลัพธ์คือความสนุกช่วงแรกที่พุ่งแรงใน 30 นาทีแรก ค่อย ๆ จางหายไป เพราะเรารู้ทันทุก pattern ที่เกมโยนมา ข้อมูลจากรีวิวหลายเจ้าบอกว่า คนเล่นจำนวนมากจะเริ่มรู้สึกว่า “เบื่อก่อนหัวเราะ” ถ้าเล่นคนเดียวต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่ง ถ้าดูในเชิงคุณภาพของเกม ยังมีไอเดียแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
และสะท้อนว่า dev ตั้งใจสร้างความร่วมมือในเกมกีฬา ไม่ใช่แค่แข่งกันเพียว ๆ ถึงแม้ระบบหลักของเกมจะวนซ้ำ แต่ฟีเจอร์เล็ก ๆ แบบนี้ช่วยเพิ่มรสชาติให้เกมไม่น่าเบื่อจนเกินไป
ในโหมด Multiplayer ของเกม Crazy-Athletics ออกแบบมาให้เล่นได้สูงสุด 4 คน และเป็นจุดที่รีวิวเมืองนอกหลายสำนักพูดตรงกันว่า “สนุกกว่าการเล่นคนเดียวมาก” แต่ความสนุกนั้นไม่ได้มาจากการแข่งขันจริงจัง กลับมาจาก ความผิดพลาดของเพื่อนร่วมวง
ซึ่งทั้งหมด สามารถสร้างเสียงหัวเราะมากกว่าความเครียด แต่คือจุดที่ทำให้เกมนี้เป็น เกมปาร์ตี้สายขำ มากกว่าจะเป็นเกมกีฬาแท้ ๆ และยังเป็นสาเหตุที่คนเล่นเป็นกลุ่มจะขำก่อนเบื่อ ต่างจากคนเล่นโซโล่ที่จะเบื่อก่อนหัวเราะ (10 มกราคม 2022) [3]
หนึ่งในเรื่องที่คนเล่น PC รู้แล้วแอบยิ้ม คือถ้าซื้อเกมนี้บน Steam คุณจะได้เพลงอินดี้ทั้งหมด 101 เพลง ในรูปแบบไฟล์ MP3 ดาวน์โหลดไปฟังได้จริง ถือเป็นดีลที่หลายคนซื้อเพราะเพลงมากกว่าซื้อเพราะอยากเล่นเกม
แต่บน PS4/PS5 หรือ Xbox กลับไม่ได้ไฟล์พวกนี้ มีแค่เพลงเล่นในเกมเท่านั้น ในช่วงที่เปิดตัวเกมในปลายปี 2021 เพราะมันสะท้อนว่าตลาดเกมนี้ มีสองกลุ่มชัดเจน คนซื้อเพื่อเล่น และ คนซื้อเพื่อสะสมเพลง
นี่ไม่ใช่เกมที่ทุกคนจะรัก ตั้งแต่แรกกด และก็ไม่ใช่เกมที่ทุกคนจะเกลียดทันทีเช่นกัน มันเหมือนสนามซ้อมจังหวะ ที่ซ่อนความขำ ความซ้ำ และความแปลกใหม่ไว้พร้อมกัน คนที่คาดหวังเกมกีฬาโอลิมปิกแบบซีเรียสอาจผิดหวังเร็ว แต่ถ้าคุณเปิดใจเล่นแบบเกมปาร์ตี้สายขำ เกมนี้ก็ยังพอมีที่ทางของมัน
ต้องยอมรับว่า เกมนี้ไม่ใช่ family-friendly เต็มร้อย ดังนั้นเด็กจะเล็กเล่นยาก เพราะไม่มีโหมดง่าย ไม่มีระบบช่วยกด (handicap) สำหรับคนเริ่มเล่นใหม่ ซึ่งใครที่อยากได้เกมสำหรับเด็ก และเหมาะกับการเล่นแบบ family ขอป้ายยาเกม Looney Tunes ว่าอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ