
การเล่น Insurmountable เกมปีนที่ไม่ต้องใช้แรง แต่เน้นใช้สติ
- Spawn
- 15 views
การเล่น Insurmountable ไม่ได้เร้าใจแบบเกมยิงหรือแอ็กชันทั่วไป แต่มันท้าทายด้วยการ เอาตัวรอดจากการตัดสินใจ ทุกก้าวบนภูเขาคือความเสี่ยง และทุกการคลิกคือเดิมพันกับธรรมชาติ เกมที่ไม่มีศัตรูให้ต่อสู้ แต่คุณอาจพ่ายแพ้ให้กับพายุ หิมะ หรือแค่เส้นทางที่คิดว่าปลอดภัยเกินไป
สำหรับ เกมInsurmountable เป็นผลงานจากสตูดิโออินดี้สัญชาติเยอรมันชื่อ ByteRockers’ Games ซึ่งเดิมทีเป็นสตูดิโอ ที่ไม่ได้โดดเด่นในตลาดเกมกระแสหลัก แต่กลับใช้จุดแข็งของการคิดต่าง ผลักดันให้เกมนี้กลายเป็น Hidden Gem บนแพลตฟอร์ม PC และคอนโซล
โดยเฉพาะ กลุ่มผู้เล่นที่ชอบความท้าทายแบบไม่ต้องใช้รีเฟล็กซ์สูง แม้จะไม่มีกราฟิกหวือหวาหรือเสียงประกอบที่อลังการ แต่ทีมพัฒนากลับเน้นไปที่ “กลไกความเสี่ยง” ในระดับลึก ผ่านการวางแผน การจัดทรัพยากร และการเอาชีวิตรอด ที่มีการสุ่มอีเวนต์เฉพาะแบบไม่ซ้ำ ให้ต้องปรับแผนทุกครั้งที่เริ่มเกม [1]
ในขณะที่เกมปีนเขาส่วนใหญ่เน้น “ภาพสวย” หรือ “โมเมนต์ผจญภัย” เป็นหลัก แต่ในเกมนี้กลับเลือกเส้นทางที่ตรงข้าม ไม่มีศัตรู ไม่มีแอ็กชัน มีแค่ตัวคุณกับภูเขา ที่เปลี่ยนหน้าไปทุกครั้งที่เล่น และนั่นแหละคือความกดดันจากเกมนี้
ซึ่งเกมไม่พยายามจะทำให้ผู้เล่นตายไว แต่มันออกแบบให้ “ความประมาทเล็กน้อย” เพียงครั้งเดียวอาจสะกิดโดมิโนทั้งแผนพังลงได้ เหมือนการเดินขึ้นเขาที่ไม่ได้แค่ต้องแข็งแรง แต่ต้องมั่นใจว่า “ก้าวต่อไป” จะไม่พาเราหลุดจากเกมทั้งระบบ [2]
เกมปีนเขาInsurmountable ไม่ใช่เกมปีนเขาแบบกดปุ่มกระโดดไปเรื่อย ๆ แต่มันคือการเดินหมากอย่างชาญฉลาดบนกระดานภูเขา ที่สร้างใหม่ทุกครั้งแบบ roguelike ผู้เล่นจะต้องเลือกเส้นทางเดินจากช่องหกเหลี่ยม (hex) ไปยังยอดเขา โดยแต่ละช่องมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทุกตาเดินไม่ใช่แค่การเคลื่อนที่ แต่ยังมี “อีเวนต์สุ่ม” ที่ให้เลือกตอบแบบเกมกระดาน เช่น เจอถ้ำพัก เจอศพนักปีนก่อนหน้า หรือเจอเหตุการณ์ที่ต้องเลือกช่วยคนอื่นหรือเอาตัวรอดเอง ซึ่งแต่ละเหตุการณ์มีผลทั้งในเชิงเนื้อเรื่อง และทรัพยากร
ทำให้เกมเพลย์ไม่ใช่แค่การวางแผน แต่ยังเป็นการ “จัดลำดับคุณค่าทางจริยธรรม” ในสถานการณ์จำลองอีกด้วย จะเรียกว่าเป็นการปีนเขาผ่านหมากรุกผสมลูกเต๋าก็ไม่ผิด เพราะทุกก้าวมีทั้งกลยุทธ์และดวงแฝงอยู่เสมอ
ในเกมที่ไม่มีศัตรูให้ต่อสู้แบบ Game-Insurmountable จุดที่กดดันที่สุดกลับกลายเป็น การเลือกทางเดินในแต่ละก้าว เพราะไม่ใช่ทุกทางที่จะพาไปถึงยอดเขาอย่างปลอดภัย บางเส้นดูง่ายแต่แฝงความเสี่ยง บางทางยากแต่มีโอกาสฟื้นฟู และบางทีการพักก่อนแค่หนึ่งตา
ซึ่งทั้งหมด อาจช่วยให้รอดพายุที่กำลังจะซัดเข้าใส่ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า โดยแก่นของเกมจึงไม่ได้อยู่ที่จะปีนได้หรือไม่ แต่อยู่ที่คุณเลือกทางแบบไหน และเข้าใจเงื่อนไขรอบตัวแค่ไหน เพราะในเกมนี้ไม่ใช่เรื่องของโชคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการจัดการทรัพยากรกับการอ่านสถานการณ์อย่างแม่นยำ
ดังนั้น ถ้าไม่วางแผนให้ดี มีโอกาสหมดแรงตายกลางทาง โดยที่ยอดดอยยังอยู่ไกลลิบ การเล่นที่ผ่านมาทั้งหมด อาจทำให้ เกมนี้กลายเป็นเกมที่ทดสอบการตัดสินใจมากกว่าการกดปุ่ม และพลังที่ต้องใช้จริง ๆ คือ “สติ” ไม่ใช่ “แรงแขน” [3]
ถ้าเอาตรง ๆ InsurmountableGame ไม่ได้เหมาะกับคนที่ชอบจังหวะไว ตีเร็ว เคลียร์ภารกิจแบบไม่แวะพัก เพราะเกมนี้คือการ ค่อย ๆ ตัดสินใจ ที่อาจใช้เวลาเป็นนาที แค่เลือกว่าจะเดินไปทางไหน หรือจะพักตรงไหนดี และแต่ละจังหวะคือการเดิมพันด้วยชีวิตตัวละคร ที่อาจจบเกมได้ในพริบตา
โดยหลายรีวิวบอกคล้ายกันว่า “ช่วงแรกชิล ช่วงหลังระทึก” ซึ่งก็จริง เพราะระบบเกมจะค่อย ๆ เพิ่มความกดดันเมื่อผู้เล่นปีนสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขต Death Zone ที่ทุกการตัดสินใจผิดนิดเดียวคือหายนะทันที ใครที่ชินกับเกม roguelike จะชอบความรู้สึกเสี่ยงตายแบบนี้
แต่สำหรับใครที่ชอบความรวดเร็ว อาจรู้สึกว่าเกมมัน “นิ่งเกินไป” โดยไม่ทันได้ซึมซับเสน่ห์ของมัน ซึ่งเมื่อถามว่า เกมInsurmountable น่าเล่นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเกม ที่กระตุ้นสมองหรือประสาทมากกว่ากัน ถ้าคุณชอบวางแผน สังเกต และไม่กลัวความตายแบบ RNG เกมนี้คือของจริง
แม้จะไม่มีด่านแอ็กชัน ไม่มีศัตรูให้ต่อสู้ หรือโหมด Co-op เหมือน การเล่น Surmount แต่ Game-Insurmountable ก็เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ท้าทาย และใช้สมองมากกว่าที่คิด ซึ่งทั้งระบบเกมและจังหวะการเล่นก็นำมาสู่ข้อดีข้อเสีย ดังนี้
จุดแข็ง
จุดอ่อน
ถ้าใครชอบเกมแนวคิดดี + บีบให้คิดให้รอดในทุกตา นี่คือเกมที่ควรลอง แต่ถ้าไม่ถูกกับเกมที่มีจังหวะช้า และไม่ปลื้ม RNG ที่อาจโหดเกินเหตุ เกมปีนเขาInsurmountable ก็อาจเป็นเขาลูกที่ไม่เหมาะกับคุณเช่นกัน
ถ้าคิดว่าการปีนเขาในเกมจะมีแค่กดเดินขึ้นๆ แล้วจบ การเล่นInsurmountable จะสอนให้รู้ว่า การปีนที่แท้จริง คือการบริหารพลังใจไม่ให้พังก่อนถึงยอดดอย เกมนี้จึงไม่ได้ทดสอบแค่สภาพแวดล้อมในเกม แต่มันท้าทาย mindset ของคนเล่นว่า คุณจะยอมตาย หรือจะเดินต่อด้วยแผนใหม่
เกมนี้จะเหมาะมากกับคนที่ชอบเกมคิดเยอะ ไม่เน้นบู๊ ไม่รีบร้อน และพร้อมที่จะลองผิดลองถูกซ้ำๆ จนกว่าจะหาวิธีเอาตัวรอดได้ ทำให้คอเกมสาย roguelike, board game, หรือเกมเอาชีวิตรอดแบบใช้หัวใจและสมอง จะอินสุด แต่ถ้าใครเน้นแอ็กชันจ๋า ชอบอะไรเร็วๆ เกมนี้อาจดูน่าเบื่อไปเลยก็ได้
การจะปีนเขาในเกมInsurmountable ให้รอด ไม่ใช่แค่เรื่องของดวงหรือคลาสที่เลือก แต่คือการเตรียมตัวให้ครบทุกด้านก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดกระเป๋าให้สมดุลระหว่างน้ำหนักกับอุปกรณ์ การวางแผนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยง และการรู้จักหยุดพักให้ถูกเวลา
เพราะทุกก้าวที่เดินคือการเสี่ยง ที่อาจพังได้ง่ายกว่าพลังชีวิตเสียอีก เกมไม่ได้ลงโทษคนพลาดแบบรุนแรง แต่ลงโทษด้วยการค่อยๆ กัดเซาะใจผู้เล่น จนเริ่มลังเลกับทุกการตัดสินใจ ถ้าอยากปีนถึงยอดจริง ต้องเริ่มจากการเข้าใจเกมนี้ว่า “ปีนเขา” หมายถึง “การรู้จักเลือกไม่ปีนบางจุด” ด้วยเช่นกัน