
การเล่น Surmount กับศิลปะของการเหวี่ยงตัวเองไปสู่ยอดดอย
- Spawn
- 15 views
การเล่น Surmount เป็นประสบการณ์ปีนเขาที่ไม่ได้ให้คุณแค่ปีนขึ้น แต่บังคับให้คุณต้องเข้าใจแรงเหวี่ยง การคุมจังหวะ และฟิสิกส์ของตัวเองในทุก ๆ การเคลื่อนไหว เกมหน้าตาน่ารักแต่จิตใจโหดนี้ คือการผสมผสานระหว่างเกมแนวกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางกับความหัวร้อน ได้อย่างลงตัว แบบพอดีคำ
สำหรับ เกมปีนเขาSurmount หรือชื่อเต็ม Surmount: A Mountain Climbing Adventure คือเกมแนวแพลตฟอร์มผสมผจญภัย ที่เปลี่ยนการปีนเขาให้กลายเป็นศาสตร์ของการควบคุมแรงเหวี่ยงและสมดุลร่างกาย ไม่ใช่แค่เดินหน้ากระโดดข้าม แต่คุณต้องเหวี่ยงตัวให้ได้องศา หมุนตัว พุ่งเข้าเป้าหมาย
เกมนี้ถูกพัฒนาโดยอินดี้ดูโอ้ Jasper Oprel และ Indiana-Jonas สองคนที่พบกันผ่าน Animal Crossing แต่กลับสร้างเกมปีนเขาสุดหัวร้อนได้แบบไม่ขำเลย ซึ่งโลกของเกม จะเริ่มต้นจากเมืองเล็กชื่อ New Tully ที่ตั้งอยู่ตรงเชิงเขา Mount Om ภูเขาลึกลับที่สูงที่สุดในโลก และยังไม่มีใครพิชิตได้ [1]
ตัวเกมจะพาคุณเดินทางจากฐานไปยังยอดดอยผ่าน 4 โซนหลัก โดยมีทั้งด่านที่สร้างขึ้นเอง (handmade) และด่านที่สุ่มใหม่ทุกครั้ง (procedural generation) เสริมด้วยโหมด co-op ให้คุณผูกเชือกกับเพื่อน และเหวี่ยงกันตกแบบหัวเราะน้ำตาไหล
สิ่งที่ทำให้ การเล่น Surmount ไม่เหมือนเกมแนวปีนเขาอื่น ๆ ก็คือ การที่ผู้เล่นไม่ได้แค่กระโดด แต่คุณต้องเหวี่ยงตัวเอง ด้วยระบบฟิสิกส์แบบเต็มสูบ ตัวเกมออกแบบมาให้ผู้เล่นควบคุมร่างตัวละครเสมือนกับบังคับตุ๊กตาผ้าให้เกาะหน้าผา ด้วยวิธีหมุนแขน โหนเชือก และฟาดตัวเองเข้าหาจุดปีนต่อไป
เรียกได้ว่าการเล่นเกมนี้ มันคือ Platforming แบบที่ไม่ให้อยู่ได้นาน เพราะทุกวินาทีมีโอกาสตก แทนที่เกมจะมีสเต็ปตายตัวให้ปีนเหมือนเกมทั่วไป เกมเซอร์เมานต์ เลือกจะให้ผู้เล่นสร้างจังหวะของตัวเอง จากความเข้าใจกลไกการเหวี่ยง คุมจังหวะโยนตัวให้ตรงเป้า ใช้แรงเหวี่ยงสะสมก่อนปล่อย
แต่บางครั้ง ผู้เล่นก็ต้องยอมหล่นเพื่อหาทางใหม่ ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่ซ้ำ เพราะฉากถูกสุ่มใหม่ตลอด ไม่มีทางที่ถูก มีแต่จังหวะที่ใช่ รอคุณอยู่ในเกมนี้ [2]
นี่ไม่ใช่เกมที่ใครจะกดมั่ว ๆ แล้วไต่ขึ้นยอดเขาได้ สิ่งที่คุณต้องมีไม่ใช่แรงนิ้วหรือสกิลเกมเมอร์สายกดไว แต่คือ ความเข้าใจระบบฟิสิกส์ในเกม และจังหวะการวางตัวเอง ให้อยู่ถูกที่ในเวลาถูกจังหวะ ทุกการเกาะ ทุกการเหวี่ยงตัวลอย คือการวางแผนเล็ก ๆ ที่ผิดนิดเดียวอาจหมายถึงการร่วงยาวจนต้องเริ่มใหม่
โดยตัวเกมยังเพิ่มความซับซ้อน ด้วยระบบ Stamina ซึ่งค่อย ๆ ลดลงเมื่อคุณเกาะอยู่กับที่นานเกินไป เหมือนบอกกลาย ๆ ว่า “อยู่เฉย ๆ ก็เหนื่อยนะ” ฉะนั้นต้องประเมินให้ดีว่า จะเหวี่ยงเลยดีไหม หรือหาจุดพักก่อน ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ไอเทมต่าง ๆ ก็ต้องใช้ให้ถูกเวลา เพราะทรัพยากรมีจำกัด
ถ้าคุณเล่นโดยไม่คิด เกมจะพาคุณลงเหวไวกว่าเกมไหน ๆ แต่ถ้าคุณคิดเป็น วางแผนดี ต่อให้มือไม้ไม่แม่น เกมก็มี “Assist Mode” ให้ปรับความง่าย อย่างเช่น ลดแรงโน้มถ่วง หรือเพิ่มพลังไม่จำกัด เพื่อให้คุณได้เรียนรู้ flow ของเกมแบบไม่โดนลงโทษเกินไป
สำหรับองค์ประกอบของเกม ที่เรียกได้ว่าออกแบบระบบการปีนเขาในแบบจักรวาลของตัวเอง ที่ผสมทั้งการวางแผน การสำรวจ และความเป็น Rogue-lite เข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง ตั้งแต่การเก็บไอเทมระหว่างทาง ไปจนถึงการพักแคมป์ การใช้เชือก การฟื้น Stamina และเส้นทางหลายแบบในแต่ละโซน
ซึ่งทุกอย่างภายในเกมนี้ ที่ให้คุณเลือกปีนแบบไม่ซ้ำในแต่ละรอบ จะไม่ได้บังคับคุณให้เดินตามทางใดทางหนึ่ง ทำให้มันพร้อมท้าทาย ให้คุณหาวิธีของตัวเองในโลกที่ไม่มีใครเคยพิชิตได้สำเร็จ ยังมีองค์ประกอบพิเศษอีกอย่างคือ การผสมด่านแบบ Handcraftedและ Procedural ที่สลับกันอย่างพอดี
นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บ “gems” เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์เสริม, ปลดล็อกความสามารถใหม่, หรือแม้แต่จรวดส่งขึ้นโซนบนผ่าน Shortcut Cannon ซึ่งมีรีวิวหลายอัน บ่นว่ามันน่าหงุดหงิดมากกว่าช่วยจริง [3]
แม้หน้าตาของ เกมSurmount จะดูเป็นเกมอินดี้น่ารัก ๆ ที่คล้ายจะเล่นง่ายเหมือนกับเกม PEAK แต่เบื้องหลังคือระบบที่คิดมาซับซ้อนกว่าที่หลายคนคาดไว้ และนี่คือจุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้เกมนี้กลายเป็นของจริง ที่หลายคนประทับใจ
จุดเด่น
สิ่งที่อาจทำให้รู้สึกติดขัด
ใครที่สนใจอยากลองปีนเขาแบบไม่เหมือนใครใน Surmount ตอนนี้สามารถเล่นได้บน Nintendo Switch และ PC ทั้ง Windows และ macOS ไม่ว่าจะชอบเล่นแบบพกพาหรือนั่งจอใหญ่ก็จัดได้หมด เกมนี้ไม่ได้กินสเปกแรง แค่มีจอยหรือเมาส์คีย์บอร์ดก็ปีนเขาได้เลย
คำแนะนำเบื้องต้น สำหรับการเล่นบน PC จะลื่นกว่า โหลดเร็วกว่า และเหมาะกับคนที่อยากได้ภาพเนียน ๆ หรือจะเล่นด้วยจอยก็ควบคุมได้สบาย ส่วนบน Switch เหมาะกับคนที่อยากเล่นระหว่างเดินทาง แต่บางคนรีวิวว่ามีบั๊กเล็ก ๆ บ้าง เช่น ตัวละครค้าง หรือเชือกไม่ทำงาน ช่วงการเล่นแบบ Co-op
เกมที่ขายคำว่า “ปีนเขา” แต่ไม่ได้แปลว่าขึ้นที่สูง แต่เป็นการเล่นที่ให้ผู้เล่นได้ฝึกควบคุมตัวเองแบบโหดแต่สนุก เกมไม่เน้นรีบ แต่ให้คุณเรียนรู้จากความพลาด แล้วค่อย ๆ คลิกเข้ากับระบบจนขึ้นสู่ยอดได้แบบภูมิใจ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือเล่นกับเพื่อน ความสนุกของ Surmount คือเส้นทาง ไม่ใช่แค่ปลายทาง
ต้องยอมรับว่า โหมดCo-opของเกมนี้ ไม่ได้มีไว้แค่ให้หัวเราะกันเล่น ๆ แต่มันคือโหมดที่ผูกคนสองคนเข้าด้วยเชือกเส้นเดียวกันจริง ๆ จนการปีนต้องพึ่งพาและประสานจังหวะกันทุกวินาที เป็นความสนุกแบบชุลมุน ที่ถือว่าคือหัวใจอีกดวงของประสบการณ์ ในการปีนเขา แบบเซอร์เมานต์ อย่างแท้จริง
เกมนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้มองหาเกมไว ๆ แต่ชอบอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่มีจังหวะเฉพาะตัว ต่อให้ไม่เก่งเรื่องฟิสิกส์ ก็ยังเล่นได้ เพราะตัวเกมมีโหมดช่วยเหลือให้เลือกใช้ ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณเล่นเก่งแค่ไหน แต่อยู่ที่คุณกล้าลอง กล้าพลาด และเข้าใจว่าบางครั้งการตกลงมาก็ไม่ใช่จุดจบเสมอไป