ข้อคิดลงทุน Neil Mehta ผู้จัดการกองทุนเน้นการเติบโต
- LittleHydrangea
- 20 views
ข้อคิดลงทุน Neil Mehta นักลงทุนผู้ที่นิยมลงทุน ในความยั่งยืน และพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ มักจะเป็นบริษัท ที่ผู้คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่นีลนั้น จะเลือกที่จะลงทุน กับบริษัทที่มีมูลค่าต่ำ แต่ก็ต้องเป็นบริษัท ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และมั่นคงอีกด้วย
นีล เมห์ตา เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Greenoaks Capital บริษัทการลงทุน ที่เน้นการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ที่ยั่งยืนทั่วโลก แบบระยะยาว ที่ลงทุนกับบริษัทต่าง ๆ ที่พวกเขามีความเชื่อมั่น ในด้านของการผลิตสินค้า การบริการ และการตอบโจทย์สิทธิ์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้บริโภค เช่น Figma, Wiz, Discord
และ Carvana เป็นต้น ที่เขาเป็นผู้ลงทุน ที่สามารถสร้างกำไร ได้มากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ หรือสร้างอัตราผลตอบแทน ให้ตัวเองได้สูงถึง 33 % โดยล่าสุดในปี 2025 Greenoaks ได้เข้าซื้อกิจการของ Google ในราคา 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2025 นั่นเอง
โดยพอร์ตการลงทุนของนีล ณ ปัจจุบัน เขามีบริษัทชั้นนำ ใน Forbes Cloud 100 อยู่ 6 แห่ง ได้แก่ nstacart, Klaviyo, Robinhood, Deliveroo, Databricks, Stripe และ Canva แต่ปัจจุบัน เขาถือเพียงแค่ 3 แห่งเท่านั้น คือ Databricks, Stripe และ Canva นั่นเอง
ที่มา: Neil Mehta [1]
ต้องบอกว่านีลนั้น เขาเป็นที่รู้จักในด้านของวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับการเลือกหุ้น ที่มีมูลค่าต่ำ และการเลือกบริษัทที่มีความสามารถ ในการพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวผ่านความผันผวนของราคา ที่ส่งผลต่อมูลค่าของบริษัทสูง อย่างเช่น บริษัท BYD ที่ในอดีตบริษัทนี้ เป็นเพียงบริษัท ที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ขนาดเล็ก
ที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ หรือมองดูเหมือนบริษัท ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งในตอนนั้นบริษัทนี้ เป็นเหมือนกับบริษัทหลอกลวง ที่หาผู้ลงทุน ซึ่งถ้าเป็นผู้ลงทุนคนอื่น ๆ คงจะไม่ทำการลงทุน แต่ด้วยแนวคิดของนีล ที่รู้สึกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้น จะได้รับความนิยมในอนาคตได้
โดยเขามักจะดูความเป็นไปได้ ผ่านปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ของบริษัท เช่น ทัศนคติ และแนวคิดของผู้บริหาร สินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป็นหลัก นี่จึงเป็นเหมือนหนึ่งในแนวคิด และทัศนคติ ที่ผู้จัดการกองทุนที่เน้นการเติบโต แบบนีลนั้นมักจะมี
ที่มา: The Visions of Neil Mehta [2]
ในมุมมองของนีล ที่มักจะมองว่าบริษัทใด หรือหุ้นตัวใด ที่สามารถลงทุนในระยะยาวได้นั้น จะต้องเป็นหนึ่งในบริษัท ที่เขามีความรู้ และความเข้าใจบริษัท ในปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลทำให้บริษัทนั้น ๆ สามารถมีความมั่นคง และสามารถอยู่ได้ ในวิกฤตความผันผวนของตลาด
ซึ่งนอกจากนี้ นีลยังมักเลือกบริษัท จากผู้บริหาร และระบบการทำงานภายในอีกด้วย เพราะเขาคิดว่า การมีผู้บริหารดีนั้น จะช่วยทำให้บรรยากาศ หรือระบบการทำงานภายในบริษัท สามารถดำเนินการต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนอกจากแนวคิด หรือปัจจัยพื้นฐานที่ดีต่าง ๆ ที่บริษัทต่าง ๆ ควรจะมี
นีลยังมองว่า การที่ผู้บริหารนั้นมีวิสัยทัศน์ที่ดี จะสามารถช่วยให้บริษัท ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัท และไม่ทิ้งบริษัทไปในตอนที่มีปัญหาแน่ ๆ
เพราะว่านีลนั้นมองว่า การลงทุนในหุ้นระยะยาวนั้น มีข้อดีที่มากกว่าการลงทุน ในหุ้นที่มีระยะสั้น เพราะการลงทุนในหุ้นระยะสั้นนั้น ทำให้ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงสูง จากการขาดทุน หรือทำกำไรได้น้อย แต่การลงทุนในหุ้นระยะยาว นีลก็ได้มี การลงทุน แบบกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ซึ่งในที่นี้นีลเขาจะทำการลงทุน กับหุ้นหลาย ๆ ตัว ที่มีราคาที่ไม่ได้สูง และนิยมลงทุนในบริษัท ที่ผู้คนไม่มีความสนใจ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในการลงทุนกับหุ้นเพียงตัวเดียวอีกด้วย และจากข้อดีต่าง ๆ ที่จะได้รับจากหุ้นระยะยาว ทั้งความคุ้มค่าของกำไร ที่จะเพิ่มขึ้น หรือความคุ้มค่าของเงินปันผล
ที่จะได้ในอนาคต นีลจึงมองว่าการลงทุน ในหุ้นระยะยาวนั้น มีความคุ้มค่ามากกว่า ซึ่งจะช่วยทำให้สร้างมูลค่า ที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้น แบบระยะสั้นได้ อีกทั้งเขานั้น ยังไม่ต้องติดตามข่าวสาร การเคลื่อนไหวของความผันผวนทางด้านราคาที่บ่อยอีกด้วย
ที่มา: 3 เหตุผล ทำไมการลงทุนระยะยาวถึงน่าสนใจสำหรับมือใหม่ [3]
เรียกได้ว่านีลนั้น ได้ให้ความสำคัญ กับทีมบริหารมากเป็นพิเศษ เพราะเขาเชื่อว่าการให้ความสำคัญ กับทีมบริหาร หรือผู้บริหารที่ดีนั้น คือหนึ่งในการลงทุน ที่มีความคุ้มค่าในอนาคต เพราะผู้บริหารที่ดี จะช่วยทำให้บริษัทนั้น ๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ในขณะที่บริษัทนั้น ๆ เกิดวิกฤต
ซึ่งความสำคัญของทีมบริหาร นีลเชื่อว่านี่ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ในความสามารถของบริษัท ที่จะช่วยทำให้บริษัทนั้น ๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะทั้งความชำนาญของบริษัท ความสามัคคีในการทำงาน หรือวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ของผู้บริหาร ถือเป็นความสามารถของบริษัทเช่นกัน
เพราะผู้บริหารที่ดีนั้น มักจะเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ซึ่งจะส่งผลต่อวิสัยทัศน์ของพนักงาน และความสำเร็จของบริษัท ในทุกด้านนั่นเอง
วิธีในการวิเคราะห์บริษัทที่เลือกลงทุน นีลมักใช้ปัจจัยเชิงลึก ในการศึกษาบริษัท ว่าบริษัทนั้น ๆ มีขีดความสามารถในการพัฒนาตัวเอง หรือการพัฒนาสินค้า หรือบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ในอนาคต และกลุ่มลูกค้า ที่อยู่ในปัจจุบันได้ดี มากแค่ไหน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
เขายังวิเคราะห์ปัจจัยทางด้านการเงิน และกลยุทธ์ในการทำงาน ของทีมบริหาร และพนักงานภายในบริษัท อีกด้วย และที่สำคัญเขามักจะลงทุน และติดตามการลงทุน กับบริษัทที่มีมูลค่าต่ำ แต่มีปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่แข็งแรง อีกทั้งยังมีการติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของตลาดอยู่เสมอ
สรุป ข้อคิดลงทุนแบบนีล มีหลักการในการลงทุน โดยการที่เลือกลงทุนกับบริษัท ที่มีวิสัยทัศน์ ของผู้บริหารที่ดี และน่าสนใจ ซึ่งบริษัทนั้น ๆ ก็จะต้องมีปัจจัยพื้นฐาน ที่ตอบโจทย์แก่การพัฒนาในอนาคตอีกด้วยเช่นกัน
วิธีที่วัดคุณภาพในการลงทุน นีลนั้นจะวัดจากผลตอบแทน และจากกำไรของบริษัท ที่มอบให้กับผู้ลงทุนหรือหุ้นส่วนคนอื่น ๆ และยังวัดที่วิธีการ ของการบริหารความเสี่ยง ว่าสามารถอยู่ได้ ในขณะที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือไม่
นีลมีแนวทางในการจัดการกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งเขานั้น จะนำเทคโนโลยีเข้ามา เป็นสินค้าหลักของบริษัท และสร้างบริษัท ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการพัฒนาบริษัท เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ที่ต้องการความสะดวกสบาย เป็นต้น
