ตราสารหนี้ ผลตอบแทน ทางเลือกที่น่าสนใจกว่าที่คุณคิด

ตราสารหนี้ ผลตอบแทน

ตราสารหนี้ ผลตอบแทน ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ดอกเบี้ยธนาคาร แต่ก็ยังกังวล กับความผันผวน ของตลาดหุ้นใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น คุณมาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้เราจะพาคุณ ไปทำความรู้จักกับตราสารหนี้ หนึ่งในเครื่องมือการลงทุน ที่นักลงทุนฉลาดเลือกใช้ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง

  • ต้องรู้จักตราสารหนี้
  • ประเภทตราสารหนี้
  • ปัจจัยใดที่มีผล ต่อผลตอบแทน

อธิบายคำว่า ตราสารหนี้ ให้รู้จัก

ตราสารหนี้ นับว่าเป็นเครื่องมือทางการเงิน ที่ใช้ในการระดมทุน โดยผู้ที่ออกตราสาร (เช่น รัฐบาลหรือบริษัทเอกชน) จะรับเงินจากนักลงทุนไปใช้ก่อน แล้วจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย ตามระยะเวลาที่กำหนด มองง่ายๆ มันคือ

การกู้ยืมแบบมีสัญญาที่ผู้ลงทุนกลายเป็นเจ้าหนี้ ไม่ใช่เจ้าของกิจการ จุดเด่นของตราสารหนี้คือ ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่ต้องการ ความมั่นคงมากกว่า ความผันผวนในตลาด [1]

ทำไมองค์กรหรือรัฐบาล ต้องออกตราสารหนี้ ?

การออกตราสารหนี้ เป็นวิธีหนึ่งในการระดมทุน โดยไม่ต้องขาย หุ้น ความหมาย หรือเพิ่มทุน เช่น รัฐบาลอาจต้องใช้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างถนน โรงพยาบาล ระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่ต้องขึ้นภาษีทันที ส่วนภาคเอกชนอย่างบริษัทใหญ่ อาจต้องการเงินทุนไปขยายกิจการ ซื้อเครื่องจักร หรือปรับปรุงระบบต่างๆ

การออกตราสารหนี้ จึงเป็นทางเลือกที่ช่วย ให้ทั้งรัฐและเอกชน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ โดยยังคงความเป็น เจ้าของกิจการเอาไว้ และให้ผลตอบแทน แก่นักลงทุน ในรูปแบบดอกเบี้ย ตามที่ตกลงกัน

ตราสารหนี้มีแยกประเภท

  • พันธบัตรรัฐบาล : ตราสารที่ออกโดยรัฐบาล มีความเสี่ยงต่ำ เพราะถือเป็นการกู้เงินจากประชาชนเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาประเทศ
  • พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ : ออกโดยรัฐวิสาหกิจ ที่มีสถานะใกล้เคียงกับรัฐ แต่มีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลเล็กน้อย
  • หุ้นกู้บริษัท : ตราสารที่ออกโดยบริษัทเอกชน เพื่อระดมทุนขยายกิจการ ความเสี่ยง และผลตอบแทนจะสูงกว่า พันธบัตรรัฐบาล
  • ตั๋วเงินคลัง : ตราสารหนี้ระยะสั้น ที่ออกโดยรัฐบาล มีอายุไม่เกินหนึ่งปี ใช้สำหรับจัดการสภาพคล่องของรัฐบาล
  • ตั๋วแลกเงิน : ตราสารหนี้ระยะสั้น ที่ออกโดยบริษัทเอกชน เพื่อนำเงินไปใช้ หมุนเวียนในธุรกิจ

ที่มา: ตราสารหนี้มีอะไรบ้าง? [2]

ผลตอบแทน จากตราสารหนี้

ตราสารหนี้ ผลตอบแทน

ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ ไม่ได้มาในรูปแบบเดียวกันเสมอไป แต่ส่วนใหญ่ จะประกอบด้วย “ดอกเบี้ย” ที่ผู้ลงทุนได้รับเป็นประจำ ตามอัตราที่ตกลงกันไว้ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคง และคาดการณ์ได้ นอกจากนี้ ยังอาจได้รับกำไร จากการขายตราสาร ในตลาดรอง

หากราคาตราสาร ปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการของตลาด บางครั้งตราสารหนี้บางประเภท เช่น ตราสารแปลงสภาพ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุน ได้เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ ซึ่งอาจนำไปสู่ ผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยง สูงกว่าโดยรวม ผลตอบแทนเหล่านี้

สะท้อนความเสี่ยง ของตราสารนั้นๆ ซึ่งตราสารที่ปลอดภัยกว่า อย่างพันธบัตรรัฐบาล มักให้ผลตอบแทนต่ำกว่า ในขณะที่หุ้นกู้บริษัท ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า จะจ่ายดอกเบี้ย ในอัตราที่สูงกว่า เพื่อชดเชยความเสี่ยง ที่มากขึ้นนั้นเอง [3]

ปัจจัยไหน ที่มีผลต่อผลตอบแทนและราคาตราสารหนี้ ?

  1. อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง หากอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น ราคาตราสารหนี้ ในตลาดรอง มักจะลดลง เพราะตราสารใหม่ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
  2. อันดับความน่าเชื่อถือ ตราสารหนี้ ที่มีอันดับเครดิตสูง มีความเสี่ยงต่ำ จึงให้ผลตอบแทนน้อย ในขณะที่ตราสาร ที่เสี่ยงกว่า ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อจูงใจนักลงทุน
  3. อายุของตราสารหนี้ ตราสารที่มีอายุยาว จะมีความผันผวน ของราคามากกว่า และมักให้ดอกเบี้ยสูงกว่าตราสารระยะสั้น
  4. ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เงินเฟ้อสูง ทำให้มูลค่าผลตอบแทน ที่แท้จริงลดลง ส่งผลให้ราคาตราสารหนี้ตก นักลงทุนจึงมักถือครองสินทรัพย์อื่นแทน
  5. สภาพคล่องของตลาด ตราสารที่ซื้อขายได้ง่าย มีผู้สนใจจำนวนมาก ราคาจะเสถียร และได้รับความนิยมสูงกว่า

ลงทุนในตราสารหนี้ ได้อย่างไร ?

เริ่มต้นลงทุนในตราสารหนี้ ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจช่องทาง และเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง นักลงทุนสามารถ ซื้อได้โดยตรงผ่านธนาคารพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์, หรือ แอปพลิเคชันซื้อขายพันธบัตร ที่ได้รับอนุญาต จากหน่วยงานกำกับ เช่น ธปท. หรือ ก.ล.ต. สำหรับมือใหม่

พันธบัตรรัฐบาล ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีความเสี่ยงต่ำ และสามารถซื้อได้ ผ่านธนาคารที่ร่วมรายการ หากต้องการลงทุน ในหุ้นกู้ของภาคเอกชน ควรศึกษาอันดับเครดิต ของผู้ออกตราสาร และสามารถเลือกลงทุน ผ่านตลาดรอง เช่น ตลาดหลักทรัพย์ (SET) หรือตลาดตราสารหนี้ (ThaiBMA) ก็ได้

บางคนอาจเลือกลงทุนผ่าน กองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งกระจายความเสี่ยง ให้โดยมืออาชีพดูแล และมีสภาพคล่องสูงกว่าแบบรายตัว การเลือกช่องทางใด ขึ้นอยู่กับความสะดวก เป้าหมาย และระดับความเสี่ยง ที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุน

บทสรุป ของ ตราสารหนี้ ผลตอบแทน

สรุป ตราสารหนี้ ผลตอบแทน ลงทุนแบบให้กู้ยืมเงิน กับรัฐหรือบริษัท โดยนักลงทุน จะได้รับผลตอบแทน ที่จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น รายปีหรือรายครึ่งปี และเมื่อครบกำหนด จะได้รับเงินต้นคืน หากขายตราสาร ในตลาดรอง ก่อนครบกำหนด อาจได้กำไรส่วนต่าง ราคาเพิ่มเติม

ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ควรลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ?

ควรลงทุนใน ตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะได้รับผลกระทบ จากราคาตลาดน้อยกว่า และสามารถปรับเปลี่ยนตามอัตรา ดอกเบี้ยใหม่ได้เร็วกว่า หากลงทุนระยะยาว อาจขาดทุนจากราคาตราสาร ที่ลดลงเมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น

ทำไมตราสารหนี้ ถึงให้ผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้น ?

ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้น เพราะมีความเสี่ยงต่ำกว่า นักลงทุนในตราสารหนี้ จะได้รับดอกเบี้ยคงที่ และเงินต้นคืนตามกำหนด ส่วนหุ้นมีความผันผวนสูง ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท จึงมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็เสี่ยงขาดทุน มากกว่าเช่นกัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง