
ทำความรู้จักเกม Unravel Two การผจญภัยของพี่น้องไหมพรม
- Chono
- 19 views

ทำความรู้จักเกม Unravel Two สานต่อภาคใหม่ ของเกมแอ็กชันผจญภัย ของตัวละครที่เกิดจากไหมพรม ซึ่งในภาคที่สอง จะเป็นการเล่นแบบ Co-op ของสองพี่น้องไหมพรม และยังเป็นผลงานการออกแบบของทีม Coldwood Interactive และจัดจำหน่ายโดยบริษัท Electronic Arts เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2018
สำหรับเกมนี้ ที่มาในรูปแบบเกมแก้ไขปริศนา ผสมผสานเกมแอ็กชันผจญภัย ซึ่งจะเป็นตัวละครไหมพรมทั้ง 2 ตัวละคร มีทั้งสีแดงและสีฟ้า และเป็นภาคต่อของตัวเกมในภาคที่ 1 ที่เคยวางจำหน่ายไปเมื่อปี 2016 โดยวางขายในเวอร์ชัน PlayStation 4, Windows และ Xbox One ต่อมาในเดือนมีนาคม ปี 2019 ได้เปิดให้เล่นในเวอร์ชัน Nintendo Switch
จุดเริ่มต้นของการพัฒนาตัวเกมในภาคที่ 2 เกิดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม 2016 ทางบริษัท EA ได้ประกาศเอาไว้ว่า ทาง Coldwood Interactive ได้ทำสัญญาข้อตกลง ในการพัฒนาตัวเกมในภาคถัดไป และได้รับการยืนยันในการสร้างตัวเกมในภาคที่สอง ในวันที่ 9 มิถุนายน ภายในงาน Electronic Entertainment Expo
ต่อมาในส่วนของระบบ Gameplay ที่ผู้เล่นสามารถเล่นคนเดียว หรือเล่นกับเพื่อนในโหมด Co-op โดยจะต้องอาศัยความร่วมกัน เพื่อร่วมกันแก้ไขปริศนา และควบคุมความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัย ที่ดำเนินเรื่องบนเกาะปริศนา ยังมีด่านที่ให้ความท้าทาย และมีระดับยากมากขึ้นกว่าภาคแรกอีกด้วย (18 ตุลาคม 2025) [1]
เรื่องราวของไหมพรมสีแดง ที่ถูกพลัดพราก ในระหว่างที่เดินทางอยู่กลางทะเล และถูกพายุซัดขึ้นฝั่ง จึงได้พบเจอกับไหมพรมสีฟ้า ที่ติดอยู่ในซากเรืออับปาง ทั้งสองได้เชื่อมต่อกัน จึงก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ซึ่งเป้าหมายของทั้งสอง คือการออกสำรวจป่าและเมืองใต้ดิน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รกร้าง กลางประภาคารร้างแห่งหนึ่ง
ในตอนแรก ทั้งสองไหมพรม จะต้องฝ่าฟันอุปสรรค ซากปรักหักพังที่ถูกทำลาย และเดินทางผ่านโรงงานสีน้ำเงินที่ถูกทิ้งร้าง ทั้งสองจะต้องทำให้ระบบการทำงานภายในโรงงานแห่งนี้ กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และในฉากคัตซีนสุดท้ายของตัวเกม ประภาคารถูกล้อมรอบไปด้วยดวงวิญญาณร้าย แต่ด้วยความร่วมมือกัน ทั้งสองสามารถทำให้ประภาคารกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
เช่นเดียวกับตัวเกมในภาคที่หนึ่ง ที่ตัวเกมยังคงนำเสนอรูปแบบของการผจญภัย ตะลุยด่านต่างๆ และคอยแก้ไขปริศนา ตามที่ตัวเกมได้กำหนดเอาไว้ และด้วยความที่ตัวเกมในภาคล่าสุด จะมาในรูปแบบเกมแนว Co-op ทำให้รูปแบบการเล่น จะแตกต่างออกไปมากพอสมควร ซึ่งในภาคที่หนึ่ง คุณจะได้รับบทเป็นไหมพรมสีแดงเพียงตัวเดียวเท่านั้น
และถึงแม้ว่าจะเป็นเกมเล่นกับเพื่อน แต่คุณสามารถเล่นด้วยตัวคนเดียวได้เช่นกัน ด้วยการควบคุมตัวละครทั้งสองตัวละคร ในรูปแบบการสลับตัวละครไปมา ซึ่งคล้ายกับตัวเกม Brothers: A Tale of Two Son โดยผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่า จะบังคับตัวละครตัวไหน ส่วนตัวละครที่คุณไม่ได้บังคับ จะหยุดนิ่งยืนอยู่กับที่
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ ของตัวเกมในภาคที่สอง นั่นก็คือกราฟิกและการออกแบบฉากต่างๆ ซึ่งค่อนข้างสมจริง และแตกต่างจากแนวเกมอื่นๆ ที่มักจะมีกราฟิกภาพการ์ตูน ผสมผสานกับเสียงเพลงประกอบ ที่ถูกบรรเลงออกมาอย่างเหมาะสม เข้ากับเนื้อหาของตัวเกมได้เป็นอย่างดี (2 กรกฎาคม 2018) [2]

นับตั้งแต่ที่เปิดตัวบน Steam ภายในเดือนมิถุนายน พบว่าตัวเกมมีผู้เล่นให้ความสนใจเพียงแค่ 91 คนเท่านั้น และเมื่อ 30 วันที่ผ่านมา ภายในปี 2025 พบว่ามีผู้ที่ยังเล่นเกมนี้อยู่จำนวน 273 ผู้เล่น ส่งผลให้ตัวเกมติดอันดับ 1,927 เกมที่ขายดีบนสตรีม และได้รับคำวิจารณ์ในทางเชิงบวกมากถึง 7,990 บทวิจารณ์ (4 มิถุนายน 2020) [3]
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป ทางแพลตฟอร์มสตรีม จะรองรับการเข้าเล่นเกม ผ่านระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือเวอร์ชันใหม่กว่าขึ้นไปเท่านั้น หรือท่านใดที่ต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเกมที่เปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์มสตรีม สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ เกมสตรีม น่าเล่น
ใครที่ชื่นชอบตัวเกมในภาคที่หนึ่ง หรือใครที่ชื่นชอบเกมแก้ไขปริศนา พร้อมกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ เกมนี้ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี และยังมีการออกแบบภาพกราฟิก ที่มีความสวยงามมากกว่าตัวเกมในภาคแรก ซึ่งผู้เล่นสามารถเสพความสนุก เสพบรรยากาศภายในเกม พร้อมกับเพื่อนของคุณได้อีกด้วย
จากการศึกษาข้อมูลของตัวเกมในภาคที่สอง ที่เปิดให้เล่น และจัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มสตรีม ปัจจุบันนี้ ตัวเกมมีราคาวางขายอยู่ที่ 549 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ แลกมาด้วยความสนุกสนาน เล่นกับเพื่อนได้ แม้จะซื้อตัวเกมเพียงแค่คนเดียวก็ตาม
จากการสำรวจข้อมูลยอดขายของตัวเกมในภาคที่สอง พบว่ายอดขายบนแพลตฟอร์ม Steam ทำยอดขายไว้ที่ 237,000 – 1.49 ล้านชุด และแบ่งออกเป็นหลายๆ แพลตฟอร์ม ได้แก่ VG Insights ทำยอดขายได้ประมาณ 239,600 ชุด, Gamalytic ทำยอดขายได้ประมาณ 1.08 ล้านชุด และ PlayTracker ทำยอดขายได้มากถึง 1.49 ล้านชุด

