
บอสซาบอล คือ กีฬาอะไรช่วยฝึกทักษะด้านไหนบ้าง?
- หัวใจสีเขียว
- 10 views
บอสซาบอล คือ กีฬาที่ผสมผสานระหว่าง ฟุตบอล ยิมนาสติก วอลเลย์บอล ประวัติ และแทรมโพลีน เป็นกีฬาที่นิยมเล่นกลางแจ้ง โดยผู้เล่นสามารถใช้มือ เท้า และศีรษะ ในการส่งบอลข้ามตาข่ายได้ กีฬาชนิดนี้จะช่วยฝึกทักษะด้านการทรงตัว การประสานงานระหว่างมือ และตา รวมถึงเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์การเคลื่อนไหว ผ่านทางร่างกายด้วย
บอสซาบอลเป็น หนึ่งในกีฬาประเภททีม ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บราซิล และถูกคิดค้นขึ้นมาในปี พ.ศ. 2547 โดย Filip Eyckmans กีฬาชนิดนี้เป็นการเล่นระหว่าง 2 ทีม ซึ่งเป็นการผสมผสานของกีฬาหลากหลายประเภททั้งฟุตบอล วอลเลย์บอล แทรมโพลีน และยิมนาสติก
ซึ่งแทรมโพลีนจะเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยทำให้ผู้เล่นสามารถกระโดดตัวได้สูง เพื่อส่งบอลข้ามตาข่าย เป้าหมายของการเล่นบอลซาบอล คือ การตีลูกบอลให้ลูกพื้นสนาม ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำคะแนน (3 กันยายน 2025) [1]
บอสซาบอลเป็นกีฬา ที่กฎกติกาการเล่นค่อนข้างคล้ายคลึง กับวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ต้องเล่นระหว่าง 2 ทีม ในแต่ละทีมจะประกอบไปด้วยผู้เล่นทั้งหมด 3 – 5 คน โดยสนามจะมีเน็ตคั่นกลางระหว่างผู้เล่น 2 ฝั่ง วิธีทำคะแนน คือ ต้องทำให้บอลไปตกอยู่ในเขตพื้นที่ ของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งกีฬาชนิดนี้สามารถใช้ร่างกาย ในการประคองบอลได้ทุกส่วน จุดยากของกีฬาบอสซาบอล คือ สนามการแข่งขันที่ผู้เล่นยืน จะเป็นแทรมโพลีน ที่ทำให้ทรงตัวได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้กีฬาชนิดนี้ มีความท้าทายสูง (16 ตุลาคม 2022) [2]
จุดเด่นที่น่าสนใจ ในกีฬาบอสซาบอล คือ การผสมผสานระหว่างกีฬาวอลเลย์บอล ฟุตบอล และยิมนาสติกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระ และสร้างสรรค์ สนามแข่งขันทำจากแผ่นลม ที่มีแทรมโพลีนอยู่ตรงกลาง ช่วยให้ผู้เล่นสามารถกระโดดสูง
และแสดงท่าทางต่างๆ ในอากาศได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถใช้มือ เท้า และศีรษะ ในการรับ – ส่งลูกได้ตามต้องการ ไม่บังคับให้ใช้แค่มือตี เหมือนกีฬาวอลเลย์บอล ทำให้เกมมีความหลากหลาย และคาดเดายาก ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ ไม่แพ้กัน
คือ กีฬาชนิดนี้มักจะมีบรรยากาศการแข่งขัน ที่สนุกสนาน เนื่องจากมีเสียงดนตรี เปิดประกอบตลอดการแข่งขัน เพื่อเพิ่มความบันเทิงให้กับผู้เล่น และผู้ชม
ถึงแม้ว่าวอลเลย์บอล และบอสซาบอล จะมีลักษณะที่คล้ายกันตรงที่ เล่นเป็นทีม และมีตาข่ายกั้นกลางสนาม แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในหลายด้าน เช่น บอสซาบอลต้องเล่นบนสนามลม ที่มีแทรมโพลีน ทำให้ผู้เล่นสามารถกระโดดสูง และสามารถใช้ทั้งมือ เท้า รวมถึงศีรษะในการเล่นได้
ส่วนวอลเลย์บอล ต้องเล่นบนพื้นแข็ง หรือบนทราย มีวิธีการเล่นคือ ใช้มือ และแขน ในการตีลูกวอลเลย์บอล ให้ข้ามตาข่ายไปมา วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ถือกำเนิดขึ้นมา ในช่วงปี ค.ศ. 1895 ที่ประเทศอเมริกา ก่อนที่จะเริ่มการเล่น และมีการแข่งขันในประเทศไทย เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2477 (23 มกราคม 2025) [3]
การเล่นบอสซาบอล จะช่วยพัฒนาความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และการทรงตัว จากการกระโดดบนแทรมโพลีน อีกทั้งเสริมทักษะการประสานงานระหว่างมือ เท้า และสายตา ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของร่างกาย และระบบหัวใจ รวมถึงส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานเป็นทีม ที่สำคัญยังให้ความสนุกสนาน และช่วยลดความเครียดด้วย
จากข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ว่า บอสซาบอล เป็นกีฬาสมัยใหม่ ที่ผสมผสานวอลเลย์บอล ฟุตบอล และยิมนาสติก โดยต้องเล่นบนสนามลม ที่มีแทรมโพลีนตรงกลาง ผู้เล่นสามารถใช้มือ เท้า หรือศีรษะ ในการส่งบอลข้ามตาข่ายได้อย่างอิสระ จุดเด่น คือ การกระโดดตีลูกกลางอากาศ และมีเสียงดนตรีประกอบขณะเล่น เพื่อเพิ่มความสนุก และความบันเทิง
แทรมโพลีน ในสนามบอสซาบอล มีไว้เพื่อให้ผู้เล่นกระโดดสูงตัวขึ้นไปในอากาศ เพื่อตีลูก หรือทำท่าทาง ที่สร้างสรรค์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสนุก และความยืดหยุ่น ในการเคลื่อนไหว ช่วยให้เกมมีความหลากหลาย และแตกต่าง จากกีฬาทั่วไป นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงกระแทก และทำให้ปลอดภัยในการเล่นด้วย
จุดประสงค์หลัก ของการเล่นบอสซาบอล คือ เพื่อความสนุกสนาน ความคิดสร้างสรรค์ และการออกกำลังกาย ผ่านการเล่นเป็นทีม อีกทั้งผู้เล่นได้พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การประสานงานระหว่างมือ เท้า และสายตา พร้อมทั้งฝึกสมาธิ และการทำงานร่วมกัน มีบรรยากาศการแข่งขัน ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน ทำให้เป็นกีฬาที่เหมาะกับ การทำกิจกรรมเพื่อความบันเทิง มากกว่าการแข่งขันแบบจริงจัง