รู้ลึก ประวัติ กีฬายิงธนู พร้อมข้อมูลน่ารู้แบบครบจบ

ประวัติ กีฬายิงธนู

ประวัติ กีฬายิงธนู เริ่มต้นจากการเป็นอาวุธ สำหรับการล่าสัตว์ และสงคราม ก่อนจะพัฒนามาเป็นกีฬาที่เน้นความแม่นยำ และสมาธิในปัจจุบัน กีฬานี้มีความน่าสนใจทั้งในด้านประวัติ อุปกรณ์ การแข่งขัน รวมถึงประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ เหมาะกับคนทุกวัย ที่มองหากีฬาที่ฝึกทั้งร่างกาย และใจในเวลาเดียวกัน

  • คำอธิบายเกี่ยวกับกีฬายิงธนู
  • ประวัติของกีฬายิงธนู
  • กติกาการแข่งขันกีฬายิงธนู

แชร์ความรู้เกี่ยวกับการยิงธนู

การยิงธนู คือการใช้คันธนูยิงลูกศรจากระยะไกล ซึ่งเคยใช้ในสงคราม หรือการต่อสู้ คันธนูมีลักษณะโค้ง และมีสายที่ขึงตึง เมื่อลูกศรถูกเสียบไว้กับคันธนู และสายถูกดึงจนตึง จะเกิดพลังงานสะสม เมื่อปล่อยสายลูกศรจะพุ่งออกไป ความแรง และระยะขึ้นกับทักษะของผู้ยิง ปัจจุบันพัฒนามาเป็นกีฬายิงธนู ที่ได้รับความนิยมในวงกว้างแล้ว [1]

กีฬายิงธนู ถือว่าเป็นกีฬา ที่จัดว่าต้องอาศัยความแม่นยำ และสมาธิค่อนข้างสูง เพราะต้องมีการเล็งเป้า เพื่อยิงลูกธนูให้เข้าเป้า ซึ่งมีผลต่อการนับคะแนน ของกีฬาชนิดนี้ ซึ่งนี่เองก็คือกติกา ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับ กติกา กีฬากระโดดน้ำ ที่จะนับคะแนนจากท่าทางเป็นหลัก

ข้อมูลทั่วไปของกีฬายิงธนู

  • ประเภทคันธนู: แบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ Recurve (โอลิมปิกใช้) และ Compound (มีรอกช่วยเล็งแม่นขึ้น)
  • ระยะยิง: ส่วนใหญ่ยิงที่ระยะ 70 เมตร (Recurve) และ 50 เมตร (Compound) แต่มีระยะอื่นๆ ตามระดับ
  • เป้ายิง: เป็นวงกลมซ้อนกัน มีคะแนนตั้งแต่ 1–10 ยิ่งเข้าใกล้จุดศูนย์กลาง ยิ่งได้คะแนนสูง
  • จำนวนลูกศร: ยิงรอบละ 3–6 ดอก ขึ้นอยู่กับรูปแบบการแข่งขัน
  • วิธีคิดคะแนน: มีทั้งแบบรวมคะแนนทั้งหมด และแบบนับแต้มเซต
  • ท่ายืน: ยืนมั่นคง กางขาพอดีกับไหล่ ดึงสาย เล็ง และปล่อยลูกศรให้แม่นยำ
  • อุปกรณ์: มีคันธนู ลูกศร ซองใส่ลูกศร อุปกรณ์ป้องกันแขนและนิ้ว
  • ความปลอดภัย: ต้องยิงในเขตปลอดภัย รอฟังสัญญาณก่อนเก็บลูกศร
  • การฝึก: เน้นฝึกเล็ง ควบคุมลมหายใจ และท่าทางให้มั่นคง
  • การแข่งขัน: มีแข่งในโอลิมปิก, ชิงแชมป์โลก และรายการระดับทวีปต่างๆ

บอกเล่าประวัติของกีฬายิงธนู

ประวัติการใช้ธนูในไทย ไม่มีหลักฐานชัดเจน ส่วนใหญ่พบในวรรณกรรม ธนูที่คนไทยรู้จักมักเป็นแบบง่ายๆ คล้ายของเล่นจริงจังกับกีฬายิงธนู เริ่มเมื่อประมาณ 25-30 ปีที่ผ่านมา จากการนำธนูไม้ไผ่คุณภาพดีเข้ามา และมีนักกีฬายิงปืนกลุ่มหนึ่ง ผลักดันให้กีฬาได้รับความสนใจมากขึ้น

จุดสำคัญคือในปี พ.ศ. 2512 สมเด็จเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ทรงยิงธนู ที่กรมการรักษาดินแดน ซึ่งช่วยเพิ่มความนิยมอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 จึงก่อตั้งสมาคมกีฬายิงธนูแห่งประเทศไทย อย่างเป็นทางการ มีสนามฝึกซ้อม และเริ่มจัดการแข่งขัน ตามมาตรฐานสากล

ที่มา: ประวัติกีฬายิงธนู [2]

ประโยชน์ของกีฬายิงธนู ที่หลายคนไม่เคยรู้

กีฬายิงธนูเป็นกิจกรรม ที่ไม่ได้มีดีแค่การฝึกความแม่นยำ แต่ยังช่วยพัฒนาร่างกาย และจิตใจในหลายด้าน ด้วยการเคลื่อนไหว และท่าทางที่เหมาะสม ทำให้กีฬานี้มีประโยชน์ มากกว่าที่หลายคนคิด ลองมาดูจุดเด่นที่สำคัญของกีฬายิงธนูกัน

  • ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน หัวไหล่ หลัง และหน้าท้อง เมื่อยิงธนูด้วยท่าทางที่ถูกต้อง จะช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และสร้างความแข็งแรงได้ดี
  • ฝึกสมาธิอย่างมาก เพราะต้องจดจ่อกับเป้าหมาย และควบคุมร่างกายให้นิ่งขณะเล็ง และปล่อยลูกศร
  • ช่วยเผาผลาญพลังงาน แม้ดูเหมือนใช้แรงน้อย แต่การเคลื่อนไหว และการเกร็งกล้ามเนื้อทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ
  • ส่งเสริมการทำงานของหัวใจและปอด เนื่องจากกล้ามเนื้อหลายส่วนทำงานร่วมกัน และต้องควบคุมลมหายใจให้เหมาะสมขณะยิง
  • ช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น ทั้งท่าทางการยืน กางขา และการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง ช่วยลดปัญหาท่าทางไม่ดี เช่นหลังค่อม และเพิ่มความมั่นใจในการเดิน

ที่มา: “ยิงธนู” กีฬาสารพัดประโยชน์ เสริมทักษะปรับบุคลิกภาพ [3]

กติกาการแข่งขันกีฬายิงธนู

ประวัติ กีฬายิงธนู

กีฬายิงธนูมีกติกาที่ชัดเจน เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรม และปลอดภัย ผู้เล่นต้องยิงลูกธนู ไปยังเป้าหมายซึ่งแบ่งเป็นวงกลมหลายชั้น แต่ละชั้นมีคะแนนแตกต่างกัน โดยการยิงในวงในจะได้คะแนนสูงสุด การแข่งขันจะแบ่งเป็นรอบๆ และในแต่ละรอบผู้เล่นจะมีจำนวนลูกศรจำกัดให้ยิง

โดยผู้เล่นต้องยืนในจุดยิงที่กำหนด ห้ามก้าวข้ามเส้น และต้องรอสัญญาณ จากกรรมการก่อนยิงทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีกติกาเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ เช่น ชนิดของธนูและลูกศร รวมถึงการแบ่งประเภทการแข่งขันตามระยะทาง เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเป็นระบบ

ความต่างของ กีฬายิงธนู vs กีฬายิงปืน

กีฬายิงธนูและกีฬายิงปืน เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความแม่นยำ และสมาธิสูง แม้จะดูเหมือนคล้ายกัน ที่เป็นการยิงเป้า แต่จริงๆ แล้วทั้งสองกีฬามีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องอุปกรณ์ วิธีเล่น และประสบการณ์ที่ผู้เล่นได้รับ มาดูความแตกต่างที่สำคัญกัน แบบแยกประเภทง่ายๆ

กีฬายิงธนู

  • ใช้อุปกรณ์หลักคือคันธนูและลูกศร
  • ต้องใช้แรงกล้ามเนื้อแขน และการควบคุมท่าทางอย่างละเอียด
  • การปล่อยลูกศรเป็นแบบเงียบ ไม่มีเสียงดัง
  • เน้นการฝึกสมาธิ และความนิ่งของร่างกายขณะเล็ง
  • กติกาเน้นความแม่นยำ และการควบคุมร่างกาย
  • มักแข่งขันในระยะยิงที่กำหนด และประเภทธนู เช่น รีเคิร์ฟ หรือคอมพาวด์

กีฬายิงปืน

  • ใช้อุปกรณ์หลักคือปืน และกระสุน
  • ต้องควบคุมลมหายใจ และนิ่งมือเพื่อเล็งเป้า
  • มีเสียงดังจากการยิงปืน
  • เน้นความแม่นยำในการยิง และการควบคุมจังหวะลมหายใจ
  • มีหลากหลายประเภทปืน และรูปแบบการแข่งขันมากกว่า
  • แข่งขันในระยะยิง และประเภทปืนต่างๆ เช่น ปืนสั้น ปืนยาว

บทส่งท้าย ประวัติ กีฬายิงธนู

ประวัติ กีฬายิงธนู เริ่มต้นจากการเป็นอาวุธสำหรับล่าสัตว์ และป้องกันตัวในยุคโบราณ ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกีฬาที่เน้นทักษะ ความแม่นยำ และสมาธิ ปัจจุบัน กีฬายิงธนูได้รับการยอมรับ ในระดับนานาชาติ มีการแข่งขันตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงโอลิมปิก เหมาะกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย ที่ต้องการฝึกความนิ่ง และความมีวินัยในตัวเอง

ความยากของกีฬายิงธนูคืออะไร ?

ความยากของกีฬายิงธนู อยู่ที่การควบคุมร่างกาย และจิตใจให้นิ่งที่สุด ในตอนเล็ง และปล่อยศร ต้องใช้สมาธิสูงมาก แม้ลมแรงนิดเดียว หรือมือสั่นก็ทำให้พลาดเป้าได้

อยากเป็นนักกีฬายิงธนู ต้องเริ่มอย่างไร ?

ถ้าอยากเป็นนักกีฬายิงธนู ควรเริ่มจากหาชมรม หรือสนามซ้อมใกล้บ้าน แล้วเรียนพื้นฐานกับโค้ชที่มีประสบการณ์ จากนั้นฝึกซ้อมสม่ำเสมอ พอเริ่มแม่นแล้วค่อยลงแข่ง เพื่อเก็บประสบการณ์

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง