เรียนรู้วิธีการ ปีนหน้าผา กีฬาผาดโผน ที่มาพร้อมกับความท้าทาย

ปีนหน้าผา กีฬาผาดโผน

ปีนหน้าผา กีฬาผาดโผน ที่ต้องใช้ทั้งกำลังความยืดหยุ่น ไหวพริบ และสมาธิ ในการปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของบนผนัง หรือหน้าผา ซึ่งในปัจจุบันมีให้ปีน ทั้งในสถานที่ร่ม และกลางแจ้ง การปีนหน้าผาเป็นกีฬา ที่ต้องใช้ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อสูง โดยเฉพาะแขน นิ้ว ขา และแกนกลางลำตัว เป็นต้น

  • กีฬาปีนหน้าผา ในโอลิมปิก
  • วิวัฒนาการของ การปีนหน้าผา
  • ประโยชน์ของการปีนหน้าผา

กีฬาปีนหน้าผา ในโอลิมปิก

การปีนหน้าผา เป็นกีฬาที่ถูกบรรจุเข้ามาในโอลิมปิก เมื่อปี ค.ศ. 2020 และเป็นหนึ่งในกีฬา ประเภทเอ็กซ์ตรีม ที่มีผู้เล่นอยู่ทั่วโลก โดยการแข่งขันของกีฬาชนิดนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ Lead Climbing, Speed และ Bouldering

ซึ่งในแต่ละรูปแบบก็จะมีหลักในการปีน และกฎกติกา ที่แตกต่างกันออกไป แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การปีนไปสู่จุดสูงสุด ที่ถูกกำหนดไว้ (28 กุมภาพันธ์ 2020) [1]

วิวัฒนาการของกีฬาปีนหน้าผา 

ปีนหน้าผา เป็นกีฬาที่พัฒนามาจากการปีนเขา ในช่วงศตวรรษที่ 19 และได้มีการคิดค้นอุปกรณ์เสริม ที่มีความแข็งแรง ไว้เป็นตัวช่วยในการปีนหน้าผาขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1910 จนเวลาต่อมาในปี ค.ศ. 1950 การปีนหน้าผาได้กลายมาเป็นกีฬาที่จริงจัง และมีการกำหนด กฎกติกาการเล่นอย่างเป็นทางการขึ้น ซึ่งในปัจจุบันสามารถฝึกฝนการปีนหน้าผา ได้จากสถานที่จำลองในที่ร่ม

เจาะลึกรายละเอียดของการปีนหน้าผา ในแต่ละรูปแบบ

  • Speed จะมีมาตรฐานความสูงอยู่ที่ 15 เมตร ผู้ปีนต้องมีทั้งทักษะความเร็ว และความแม่นยำที่สูง 
  • Bouldering เป็นการปีนผนังเตี้ย มีความสูงไม่เกิน 4.5 เมตร ต้องปีนโดยไม่ใช้เชือก หรืออุปกรณ์ช่วยปีน มีเบาะรองด้านล่าง เพื่อรองรับการตก
  • Lead Climbing เป็นการปีนผนัง ที่มีความสูงมากกว่า 15 เมตร ผู้ปีนต้องมีทั้งความแข็งแรง ทางด้านร่างกาย ความอึด และทักษะการวางแผนที่ดี

ประโยชน์ของการปีนหน้าผากีฬาผาดโผน คืออะไร?

ปีนหน้าผา กีฬาผาดโผน

การปีนหน้าผา จะทำให้ร่างกาย และหัวใจ มีความแข็งแรงมากขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกาย ได้รับการบริการ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง กล้ามเนื้อแขน ไหล่ หน้าอก หลังและต้นขา อีกทั้งยังช่วยให้ระบบหัวใจ และหลอดเลือดทำงานได้ดี

การปีนหน้าผาเป็นการออกกำลังกาย แบบคาดิโอ เช่น การวิ่ง หรือการเดิน (1 พฤศจิกายน 2023) [2] ที่สำคัญการปีนหน้าผายังช่วยลดความเครียด เพิ่มความสดชื่น ให้กับร่างกาย ช่วยคลายความวิตกกังวล และยังได้ฝึกสมาธิอีกด้วย

รู้หรือไม่ว่านิ้วคือกล้ามเนื้อสำคัญ ในการปีนหน้าผา

นิ้ว เป็นกล้ามเนื้อสำคัญในการปีนหน้าผา เพราะการปีนผาจะต้องใช้นิ้ว ในการยึดเกาะ ซึ่งบางจุดที่สามารถเกาะได้ ก็มีขนาดที่เล็กมาก จึงต้องใช้พลังงานที่นิ้วเยอะ นิ้วเป็นอวัยวะที่ต้องรับน้ำหนักทั้งหมด ของร่างกาย ต้องใช้ทั้งแรงยืด และ แรงบีบ

หากใครที่มีนิ้วที่อ่อนแรง ก็จะทำให้หลุดจากผนัง หรือหน้าผาได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าอวัยวะส่วนอื่น ของร่างกาย ยังไหวอยู่ก็ตาม และเนื่องจากการปีนหน้าผา เป็นกีฬาที่ค่อนข้างท้าทาย และ อันตราย จึงมีข้อจำกัดสำหรับคนบางกลุ่ม ที่ไม่ควรเล่น ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

ปวดหัวง่าย มีโรคเกี่ยวกับการทรงตัว มีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูก อย่างเช่น นิ้วล็อก หรือเอ็นอักเสบ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ หรือคนที่กลัวความสูงอย่างรุนแรง หากไม่สามารถควบคุมอาการได้ ก็ไม่ควรเล่น เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในการปีนหน้าผา มีอะไรบ้าง?

  • ชุดสำหรับปีนเขา ซึ่งควรเป็นชุดที่เคลื่อนไหวได้ง่าย และสามารถระบายอากาศได้ดี เช่นเดียวกับการเล่นกีฬา Zorbing คือ
  • รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วสบาย มีความกระชับกับเท้า ที่พอเหมาะ และยึดเกาะกับพื้นได้ดี
  • ชอล์ก เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ และช่วยดูดซับเหงื่อบนมือ
  • สายนิรภัย ที่ใช้ในการรัดเอว และผู้เข้ากับตัวเชือกอย่างมั่นคง
  • เบลย์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมเชือก ซึ่งจะมีทั้งแบบท่อ และแบบเบรกช่วย
  • เชือกสำหรับปีนเขา อุปกรณ์สำคัญที่นักปีนเขาทุกคนต้องมี
  • คาราบิเนอร์ เป็นห่วงที่ทำมาจากโลหะ มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
  • หมวกปีนเขา ใส่เพื่อป้องกันการกระแทกจาก หิน หรือวัสดุ ที่ตกลงมาจากด้านบนขณะที่กำลังปีนเขา

ที่มา : การเริ่มต้นปีนผา (2025) [3]

บทส่งท้าย ปีนหน้าผา กีฬาผาดโผน

จากข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ว่า การปีนหน้าผา เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งกำลัง ความยืดหยุ่น และไหวพริบ ในการปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ของผนัง หรือหน้าผา อีกทั้งยังต้องมีทักษะการวางแผนที่ดี กีฬาชนิดนี้จะเน้นการใช้พลังจาก มือและนิ้ว ในการยึดเกาะ พร้อมกับการทรงตัว การปีนหน้าผาเป็นกีฬาที่ช่วยพัฒนาทั้ง ร่างกาย และจิตใจ จนในปัจจุบันได้รับความนิยมทั่วโลก และได้ถูกบรรจุอยู่ในโอลิมปิกด้วย

การปีนหน้าผาในร่มกับกลางแจ้ง แตกต่างกันอย่างไร?

การปีนหน้าผาในที่ร่ม มักจัดขึ้นในสถานที่ ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ เช่น ฟิตเนส หรือยิม โดยจะมีผนังจำลอง และเส้นทางชัดเจน มีความปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนการปีนกลางแจ้ง จะต้องปีนบนหน้าผาจริง ซึ่งมีความท้าทายมาก เพราะต้องรับมือกับสภาพอากาศ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และมีเส้นทางที่ไม่แน่นอน

นักปีนเขาต้องมีทักษะอะไรบ้าง นอกจากร่างกายที่แข็งแรง?

นอกจากร่างกายที่แข็งแรง นักปีนเขาจะต้องมีทักษะการวางแผนที่ดี และอ่านเส้นทางให้เป็นด้วย เพื่อเลือกวิธีการปีนที่ดีที่สุด และจะต้องมีสมาธิ การตัดสินใจ และไหวพริบที่ดี ที่สำคัญต้องมีความกล้า ความอึด และรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ แม้ในตอนที่เจอกับสถานการณ์ ที่กดดัน การปีนเขาจะช่วยพัฒนาทักษะมากมายหลากหลายด้าน รวมถึงยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ได้เป็นอย่างดีด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง