ยกน้ำหนัก กติกา การเล่นที่ถูกต้อง และจุดเด่นที่น่าสนใจ

ยกน้ำหนัก กติกา การเล่นที่ถูกต้องคือ ต้องยกเหล็กขึ้นเหนือศีรษะ โดยมีกติกาหลัก คือ ผู้เล่นต้องยกน้ำหนักตามท่าที่กำหนด ได้แก่ ท่าสแนตช์, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก และท่าผสม ผู้ชนะคือผู้ที่ยกน้ำหนักรวมได้มากที่สุด จุดเด่น คือ เป็นกีฬาใช้พละกำลังเยอะ ต้องมีความแม่นยำ และมีเทคนิคในการควบคุมร่างกายอย่างสูง

รายละเอียดของการแข่งขัน กีฬายกน้ำหนัก
กีฬายกน้ำหนัก ในโอลิมปิก
วิธีการตัดสินผลแพ้ – ชนะ

รายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขัน กีฬายกน้ำหนัก

ยกน้ำหนักเป็นกีฬา ที่มีการแข่งขันกันมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ซึ่งการยกน้ำหนักสมัยใหม่ มีต้นกำเนิดมาจากการแข่งขันยกน้ำหนัก ในช่วงศตวรรษที่ 1891 การยกน้ำหนักเป็นหนึ่งในกีฬา ที่แข่งขันกันด้วยพละกำลัง และเทคนิคการยกเหล็ก โดยมีเป้าหมาย คือ การยกน้ำหนักให้ได้มากที่สุด ภายใต้กฎกติกาที่กำหนด เป็นกีฬาสากล ที่ปัจจุบันได้รับการบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิก

การแข่งขันยกน้ำหนัก ในโอลิมปิก

กีฬายกน้ำหนัก มีการจัดแข่งขันขึ้นครั้งล่าสุดคือ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 – 11 สิงหาคม ค.ศ. 2024 โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 120 คน แบ่งเพศชาย และหญิงจำนวนเท่าๆ กัน (7 สิงหาคม 2025) [1]

การแข่งขันยกน้ำหนักใน กีฬาโอลิมปิก ถือเป็นเวทีที่รวม นักยกน้ำหนักระดับโลก จากหลายประเทศ มาไว้ด้วยกัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และเทคนิคสูงสุด ของนักกีฬาแต่ละคน

การแข่งขันยกน้ำในโอลิมปิก มีกี่ประเภท?

ในกีฬาโอลิมปิก จะมีการแข่งขันยกน้ำหนักทั้งหมด 2 ประเภท หรือ 2 ท่า ได้แก่ ท่าสแนตช์ และท่าคลีนแอนด์เจิร์ก โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องยกน้ำหนัก 3 ครั้ง ในแต่ละท่า ซึ่งท่าสแนตช์คือ ต้องยกบาร์เบลขึ้นมาเหนือศีรษะ ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียว

ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก จะต้องยกทีละระดับ เริ่มจากการยกขึ้นมาตรงหน้าอก แล้วหยุด และค่อยยกขึ้นเหนือศีรษะ ยกค้างไว้จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณ (16 กรกฎาคม 2024) [2]

วิธีการตัดสินผลแพ้ – ชนะ ในกีฬายกน้ำหนัก

การตัดสินผลแพ้ – ชนะ ในกีฬายกน้ำหนัก จะดูจากน้ำหนักรวมสูงสุด ของนักกีฬา โดยคิดจากผลการยกที่ดีที่สุด ในแต่ละท่า คือ ท่าสแนตช์ และท่าคลีนแอนด์เจิร์ก อย่างละ 1 ครั้ง รวมเป็นคะแนนรวม หากนักกีฬายกน้ำหนักได้มากกว่า คู่แข่ง ก็จะเป็นผู้ชนะในรุ่นน้ำหนักนั้นไป

หากมีนักกีฬาที่ทำสถิติรวมเท่ากัน จะใช้น้ำหนักตัว เป็นเกณฑ์ตัดสิน โดยผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าน้ำหนักรวม และน้ำหนักตัวเท่ากันอีก จะดูจากการที่ใครใช้จำนวนครั้งยก น้อยที่สุด เพื่อหาผู้ชนะ และนอกจากนี้การยกน้ำหนัก ยังต้องเป็นไปตามกติกา หากยกไม่ผ่านจะไม่นับน้ำหนักในครั้งนั้น

ความเป็นมาของกีฬายกน้ำหนัก ในประเทศไทย

ประเทศไทยมีการก่อตั้ง สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และมีการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2501 โดยมีชื่อย่อ คือ TAWA ซึ่งวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมคือ เพื่อส่งเสริมกีฬายกน้ำหนัก, จัดให้มีการแข่งขัน ของสมาชิกในสโมสร และส่งเสริมพันธไมตรีระหว่างสมาคมยกน้ำหนัก ระดับสากล (10 สิงหาคม 2024) [3]

เผยประโยชน์และทักษะจำเป็น ในการเล่นกีฬายกน้ำหนัก

การยกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่มีประโยชน์ทั้งต่อ ร่างกาย และจิตใจ เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้มีความแข็งแรง ความทนทาน และเสริมสร้างพละกำลัง อีกทั้งยังช่วยพัฒนาท่าทาง การทรงตัว และระบบประสาท – กล้ามเนื้อ ให้ทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังช่วยสร้างวินัย ความอดทน และสมาธิ เพราะนักกีฬาต้องมีการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อความแม่นยำ ส่วนทักษะที่จำเป็น ในการเล่นกีฬาชนิดนี้ ได้แก่ ความแข็งแรงของ แขน นิ้ว ไหล่ และแกนกลางลำตัว, เทคนิคการยกที่ถูกต้อง, การควบคุมร่างกาย และจังหวะในการเคลื่อนไหว

หากฝึกอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ปลอดภัย และพัฒนาได้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับการเล่น สเกตบอร์ด กีฬาผาดโผน ที่ต้องมีทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายที่ดี

บทส่งท้าย ยกน้ำหนัก กติกา

จากข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ว่า การยกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่มีการแข่งขันในโอลิมปิก และเป็นกีฬาที่ต้องใช้เทคนิคการยกที่ถูกต้อง ซึ่งในการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 ท่าหลักๆ ได้แก่ สแนตช์ และคลีนแอนด์เจิร์ก นักกีฬามีโอกาสยกท่าละ 3 ครั้ง โดยการตัดสินจะนับน้ำหนักที่ดีที่สุด ของแต่ละท่ามาเป็นคะแนนรวม ผู้ที่ยกน้ำหนักรวมได้มากที่สุด จะเป็นผู้ชนะ

คนแบบไหนที่เหมาะแก่การเล่น กีฬายกน้ำหนัก?

คนที่เหมาะกับการเล่นกีฬายกน้ำหนัก คือ คนที่มีความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ มีความมุ่งมั่น อดทน และมีวินัย ในการฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอ รวมถึงมีสมาธิ และควบคุมร่างกายได้ดี ไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่ แต่ต้องมีทักษะขั้นพื้นฐาน และได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธี เป็นกีฬาที่เหมาะทั้งกับเพศชาย และเพศหญิงเลย

การยกน้ำหนักอันตรายหรือไม่?

การยกน้ำหนัก ไม่อันตรายหากได้รับการฝึกอย่างถูกวิธี และอยู่ภายใต้การดูแล ของผู้ฝึกสอน รวมถึงใช้ท่าทางที่เหมาะสม กับร่างกายของตนเอง แต่ถ้าหากยกผิดท่า หรือฝืนร่างกายมากเกินไป อาจทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น กล้ามเนื้อฉีก หรือเจ็บหลังได้ ดังนั้นควรเริ่มจากยกบาร์เบล ที่มีน้ำหนัก ที่พอเหมาะก่อน