รีวิวเกม Oceanhorn 2 ผจญภัยในดินแดนที่หายสาบสูญ
- Chono
- 10 views
รีวิวเกม Oceanhorn 2 เกมแอ็กชันผจญภัยแนวอินดี้ ที่นำเสนอการเล่นในภาคใหม่ ไฉไลกว่าเดิม เกมนี้ยังคงเป็นผลงานของทีมนักพัฒนาเกม Cornfox & Brothers Ltd และจัดจำหน่ายบนสตรีมโดย FDG Entertainment ซึ่งตัวเกมในภาคใหม่นี้ จะพาผู้เล่นออกไปสำรวจดินแดนที่หายสาบสูญ พร้อมกับการแก้ไขปริศนาที่เกิดขึ้นมาหลายพันปี มีข้อมูลดังต่อไปนี้
ซึ่งเกม Oceanhorn 2 : Knights of the Lost Realm เปิดให้บริการบนเครื่องเล่น PlayStation 5 ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 ต่อมาก็ได้เปิดตัวบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งทางผู้พัฒนาเกม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม Zelda และด้วยความหลงใหล จึงได้สร้างเกมแนวผจญภัย ที่มีภาพสวยงาม เกมเพลย์ยอดเยี่ยม
ในส่วนของเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย เกิดขึ้นในชายฝั่งอาร์เคเดีย ที่มีความชั่วร้ายปกคลุม ผู้เล่นจะต้องรวบรวมตราสัญลักษณ์ทั้ง 3 ตรา และรวบรวมชนเผ่าไกอาเข้าด้วยกัน เพื่อต่อกรก็ศัตรูที่ชั่วร้าย ซึ่งภายในเกมนี้ ผู้เล่นจะได้ออกสำรวจดินแดนต่างๆ ตั้งแต่หมู่บ้านชนบท ไปจนถึงป่าดงดิบอันไกลโพ้น
แผนที่ต่างๆ ที่ตัวละครของผู้เล่นได้ไปเยือนนั้น จะรายล้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หากเปรียบเทียบกับตัวเกมในภาคที่ 1 ที่ปล่อยให้เล่นเมื่อ 17 มีนาคม 2015 ตัวเกมในภาคนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดี นอกจากการออกสำรวจดินแดนต่างๆ แล้ว คุณยังได้เสพกลิ่นอายภาพกราฟิกอันงดงาม เสริมสร้างประสบการณ์ในการเล่นที่ดียิ่งขึ้น (14 สิงหาคม 2023) [1]
เกมแอ็กชันแนวผจญภัย ที่คุณจะได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจ ในการไปทำความรู้จักชาวบ้าน ที่อาศัยในดินแดนต่างๆ และออกสำรวจพื้นที่อันกว้างใหญ่ ทั้งผืนป่าและถ้ำค้างคาว หากคุณทำการสำรวจไปเรื่อยๆ คุณก็จะได้พบเจอกับเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่อสู้ อุปกรณ์ป้องกันการโจมตี เพื่อทำให้คุณเดินทางได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ภายในเกมยังมีคลังอาวุธ ที่จะช่วยให้คุณได้พบเจอกับเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก เครื่องมือที่ช่วยค้นหาเส้นทางลับ เพื่อปฏิบัติภารกิจในการไขปริศนา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวละครของผู้เล่น ซึ่งความสามารถพิเศษของคุณ จะสามารถใช้งานได้ทั้งไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง และวิชาในการรักษา
โดยรวมแล้ว ในส่วนของระบบเกมเพลย์ของเกมนี้ จะเน้นไปที่การออกสำรวจ นอกเหนือจากนั้น จะเป็นการเสพบรรยากาศภายในเกม กราฟิกที่สวยสดงดงาม ที่ทำออกมาคล้ายกับวิดีโอเกม The Legend of Zelda ที่เป็นแรงในการออกแบบเกมนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่มีความคล้ายคลึงกัน รูปแบบงานศิลป์ก็คล้ายคลึงกันกับเกม Breath of the Wild (2 กรกฎาคม 2025) [2]
สเปคขั้นต่ำสำหรับเล่นเกม
และนี่ก็คือการแนะนำสเปคสำหรับเล่นเกมบนเครื่อง PC ซึ่งได้ข้อมูลมาจากทางผู้พัฒนาเกม หรือว่าใครที่ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเล่นบนแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ทางผู้เขียนแนะนำไปก่อนหน้านี้ และสำหรับใครที่ต้องการดูบทความรีวิวเกมแนวอื่นๆ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ เกมสตรีม น่าเล่น
สำหรับตัวเกมในภาคที่สอง นับตั้งแต่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการบน Steam ซึ่งก็มีเว็บไซต์ SteamDB ได้บันทึกสถิติจำนวนผู้เล่น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2023 พบว่ามีจำนวนผู้เล่นทั้งหมด 85 ผู้เล่น และมีการถ่ายทอดสดเล่นเกมนี้บนแพลตฟอร์ม Twitch สูงถึง 2,303 ผู้ชม (2 สิงหาคม 2023) [3] แต่ปัจจุบัน ตัวเกมได้รับความนิยมบนเครื่องเล่น Nintendo มากกว่า
และนี่ก็คือตัวอย่างคำวิจารณ์ของผู้เล่น ซึ่งทางเราได้นำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Metacritic ในหัวข้อ Nintendo Switch Critic Reviews โดยแบ่งคำวิจารณ์ออกเป็น 3 หัวข้อหลักๆ ได้แก่ คำวิจารณ์เชิงบวก 7 (44%), คำวิจารณ์เชิงลบ 0 (0%) และคำวิจารณ์แบบผสม 9 (56%)
หนึ่งในผลงานเกมแอ็กชันผจญภัย ที่คุณจะได้สัมผัสความสนุก เพลิดเพลินไปกับการแก้ไขปริศนาต่างๆ เพื่อลุ้นรับรางวัลพิเศษ อีกทั้งยังได้รับคำวิจารณ์ในทางที่ดี จากเหล่านักเล่นเกม ซึ่งหากใครสนใจ และอยากเข้าไปลองสัมผัสความสนุก สามารถซื้อตัวเกมได้ที่แพลตฟอร์มสตรีม ในราคา 590 บาท
หลังจากที่ตัวเกมเปิดให้บริการทั้งมือถือ PC และเครื่องเล่น Nintendo ตัวเกมก็ได้รับคะแนนรีวิวจากแพลตฟอร์มมือถือ โดยเฉพาะมือถือที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 69/100 คะแนน และได้รับคะแนนจากแพลตฟอร์ม Nintendo Switch 71/100 คะแนน
