
รีวิวเกม Pumpkin Jack เกมอินดี้ ตะลุยดินแดนเหนือธรรมชาติ
- Chono
- 27 views

รีวิวเกม Pumpkin Jack เกมแอ็กชันแนวอินดี้ ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละคร “ปีศาจหัวฟักทอง” และจะต้องออกไปตะลุยดินแดนเหนือธรรมชาติ ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด และตามหาพ่อมด ที่สาปเขาให้กลายเป็นอสุรกาย เราจะพาไปดูรายละเอียดของตัวเกม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
โดยเกมนี้ เป็นผลงานจากทีมนักพัฒนาเกม Evil Raptor และจัดจำหน่ายโดยบริษัท Headup, Beep Japan ซึ่งเปิดให้เล่นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2020 รองรับการเล่นเกมผ่านเครื่องเล่น PlayStation 4, PlayStation 5, Windows, Nintendo Switch, Xbox One และ Xbox Series X/S ซึ่งจะมาในรูปแบบเกมผจญภัย ผสมผสานเกมแนวอินดี้
เนื้อเรื่องของเกมนี้ จะเกิดขึ้นภายในอาณาจักร Arc En Ciel ที่ผู้คนอาศัยอยู่อย่างสงบสุข จนทำให้ประชาชนบางกลุ่ม มีความรู้สึกเบื่อหน่าย อยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้มีปีศาจบุกโจมตีอาณาจักรแห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความสิ้นหวัง หลังจากผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย ซึ่งเป็นฝีมือของพ่อมดผู้ทรงพลัง และพ่อมดตนนี้ ได้สาปให้อาณาจักรแห่งนี้ กลายเป็นดินแดนแห่งราตรีนิรันดร์
และเมื่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักร ไม่พอใจกับวิถีชีวิตรูปแบบนี้ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อมดอีกครั้ง และพ่อมดให้คำสัญญาว่า จะยุติคำสาปของเขา และจะคืนความสงบสุขให้กับผู้คนอีกครั้ง แต่ต้องแลกมาด้วยการกำจัดปีศาจแทนตนเอง และตัวละครของผู้เล่น คือหนึ่งในผู้ถูกสาป ให้กลายเป็นปีศาจหัวฟักทอง ต่อสู้และหาวิธีแก้คำสาปนี้อีกครั้ง (6 ธันวาคม 2024) [1]
สำหรับเกม Pumpkin Jack ที่นำเสนอการเล่นแบบเกมแอ็กชัน คุณจะได้รับบทเป็นแจ็ค ผู้ถูกสาปให้กลายเป็นปีศาจหัวฟักทอง ที่ถูกเรียกออกมา เพื่อมากำจัดมวลมนุษยชาติ แต่กลับถูกกองทัพปีศาจขัดขวาง ทำให้เขากลับตัวกลับใจ และหันหน้าปกป้องมนุษยชาติ จากเหล่ากองทัพปีศาจ คุณจะต้องเก็บสะสมดวงวิญญาณ เพื่อทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้น
คุณจะต้องผ่านด่านต่างๆ ที่มีอุปสรรคมากมาย ซึ่งเกมนี้จะดำเนินเป็นเส้นตรง มีทั้งการต่อสู้ การขี่ม้าผีสิง หรือการวิ่งหนีรถราง ภายในเกมจะมีปุ่มโจมตีเพียงปุ่มเดียว แต่คุณจะได้รับการช่วยเหลือ จากฝูงอีกาปีศาจ ที่จะช่วยคุณโจมตีศัตรูในระยะไกล และเมื่อถึงช่วงสุดท้ายของตัวเกม คุณจะได้ต่อสู้กับปีศาจระดับบอส
สิ่งที่ทำให้เกมนี้ได้รับความสนใจ นั่นก็คือรูปแบบการเล่นที่มีความหลากหลาย แต่ละด่านจะมีกลไกอุปสรรคเฉพาะตัว เช่น ด่านที่ 1 คุณจะได้ขี่รถราง ซึ่งคล้ายกับเกม Donkey Kong ที่เปิดให้เล่นเมื่อปี 1981 หรือด่านที่ 2 คุณจะได้แข่งขันบนรถลาก ที่วิ่งผ่านไปยังปราสาทขนาดใหญ่ (23 ตุลาคม 2020) [2]
จุดเด่นของตัวเกม
จุดบกพร่องของตัวเกม

นับตั้งแต่ที่ตัวเกมเปิดตัวบนสตรีม ภายในเดือนตุลาคม 2020 อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ SteamDB พบว่าเกมนี้มีผู้เล่นเข้าไปร่วมสนุก 401 ผู้เล่น และกลายเป็นเกมที่ติดอันดับ 799 ของเกมที่ขายดีที่สุดบนสตรีม และก็มีเหล่าสตรีมเมอร์มากมาย ได้ทำการถ่ายทอดสดเล่นเกมบน Twitch ซึ่งพบว่ามีผู้คนเข้าไปรับชมมากถึง 69,388 ผู้ชม (23 ตุลาคม 2020) [3]
โดยตัวอย่างคำวิจารณ์ดังกล่าว ทางเราได้นำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Metacritic ในหมวดหมู่ PC Critic Reviews ซึ่งจะแบ่งคำวิจารณ์ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ คำวิจารณ์เชิงบวก 44% บทวิจารณ์แบบผสม 50% และบทวิจารณ์เชิงลบ 6% อีกทั้งตัวเกมยังได้รับคะแนนจากเว็บไซต์ไปทั้งหมด 71/100 คะแนน
สเปคขั้นต่ำสำหรับเล่นเกม
ซึ่งรายละเอียดดังกล่าว คือการแนะนำสเปคขั้นต่ำ สำหรับการเล่นเกมบนเครื่องพีซี ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows แต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป ทางแพลตฟอร์มสตรีม จะรองรับการเข้าเล่นผ่าน Windows 10 และเวอร์ชันที่ดีกว่าเท่านั้น หรือใครที่ต้องการดูบทความรีวิวเกมอื่นๆ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ เกมสตรีม น่าเล่น
สุดท้ายแล้ว เกมนี้อาจจะใช้เวลาในการเล่นเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มไปด้วยความสนุก เนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว แม้ว่าจะพบจุดบกพร่องเพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน ยังพบว่ามีผู้เล่นเข้าไปร่วมสนุกกับตัวเกม 576 ผู้เล่น
ท่านใดที่อ่านเนื้อหารีวิวเกม แล้วเกิดความสนใจอยากจะเข้าไปร่วมรับความสนุก สามารถเข้าไปสั่งซื้อตัวเกมได้ที่แพลตฟอร์ม Steam ซึ่งจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ 590 บาท ราคาแบบแพ็กเกจ No School Like The Old School Bundle 1,019.92 บาท และราคาแบบ Kao the Kangaroo 1,265.65 บาท

