รีวิว สตาร์ วอร์ส เจได การเดินทางของนักรบเจไดรุ่นใหม่
- Chono
- 20 views
รีวิว สตาร์ วอร์ส เจได สุดยอดผลงานเกมแอ็กชัน ผสมผสานเกมแนวผจญภัย ที่ยังคงดำเนินเรื่องราวต่อจากภาคก่อนๆ ซึ่งเป็นผลงานจากทีมผู้พัฒนาเกม Respawn และจัดจำหน่ายโดยบริษัท Electronic Arts โดยเรื่องราวจะดำเนินหลังจากผ่านไป 5 ปี และยังเป็นการออกผจญภัยของอัศวินเจไดรุ่นใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับตัวเกม ดังนี้
สำหรับเนื้อเรื่องของตัวเกมในภาคนี้ จะดำเนินเรื่องหลังจากเวลาผ่านไป 5 ปี หลังจากการทำลายโฮโลครอนเจได ได้แก่ เมอร์ริน, กรีซ ดริทัส, เซเร จุนดา ที่ได้แยกทางกับแคล เคสติส เพื่อต่อสู้กับจักรวรรดิ ในฐานะนักรบฝ่ายต่อต้าน ซึ่งอยู่ภายใต้การบัญชาโดย ซอว์ เกอร์เรรา พวกเขาไปเข้าแทรกซึมเข้าสู่โลกโครัสซังต์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิ
การที่พวกเขาเข้าแทรกซึมเมืองหลวง เพื่อที่จะขโมยข้อมูลทางการทหาร แต่หนึ่งในผู้กล้ากลับรู้สึกท้อแท้ เมื่อดีรู้ว่า จักรวรรดิพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทัพ อีกทั้งยังได้ขยายอาณาเขตไปทั่วกาแล็กซี การเผชิญหน้า ระหว่างนักรบฝ่ายต่อต้านและจักรวรรดิ ทำให้เกิดการสูญเสีย แต่หนึ่งในนักรบสามารถหลบหนีออกมาได้
แคล เคสติส กลับมาพบกับกรีซบนโคโบห์ เพื่อซ่อมแซมแมนทิศ ในขณะที่กำลังค้นหาชิ้นส่วนจำเป็น แคลก็ได้พบเจอกับ ZN-A4 ที่เคยรับใช้อัศวินเจไดรุ่นก่อน ทำให้แคลได้พบเจอเดแกนติดอาวุธในรถถังแบคตา ความหวังที่อัศวินเจไดจะต้องรับมือกับจักรวรรดิ ทำให้พวกเขาต้องหลบหนีผ่านเส้นทางลับ เพื่อรวบรวมกลุ่มอัศวินเจได ก่อนสงครามครั้งใหม่จะมาถึง [1]
ไม่ว่าตัวเกมภาคก่อนหน้านี้จะมีระบบเกมเพลย์อย่างไร ตัวเกมในภาคนี้ก็ได้หยิบยกเอามาใช้ เพื่อเพิ่มความสนุก สิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับตัวเกมเวอร์ชันนี้ นั่นก็คือ Stance หรือรูปแบบการโจมตีของแคล ที่ในภาคนี้ จะนำเสนอระบบการต่อที่หลากหลายมากขึ้น และอาวุธใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา Lightsaber ที่ทำงานควบคู่กับปืนบลาสเตอร์ และ Crossguard
ผู้เล่นสามารถเลือกรูปแบบการต่อสู้ 2 รูปแบบเท่านั้น และยังสามารถเปลี่ยนจุด Checkpoint แต่รูปแบบการต่อสู้ จะถูกแบ่งออกเป็นค่าสถานะ เพื่อให้ผู้เล่นดูว่า ตัวละครกับค่าสถานะ เหมาะสมกับการต่อสู้ประเภทไหน สามารถเลือกได้ว่า ตัวละครของคุณจะเน้นการโจมตีรุนแรง โจมตีระยะไกล ซึ่งจะขึ้นอยู่ที่การเลือกของผู้เล่น
และสิ่งที่ผู้เล่นหลายท่านสัมผัสได้ นั่นก็คือระบบเกมเพลย์ของตัวเกมในภาคนี้ มีระบบการควบคุมที่ง่ายกว่าภาคแรก ถึงแม้ตัวเกมจะให้กลิ่นอายของเกมแนว Soulslike ส่งผลให้ผู้เล่นมือใหม่คิดว่าเกมนี้เล่นยาก แต่สำหรับผู้เล่นที่เคยผ่านการเล่นเกม Dark Souls, Sekiro จะมองว่าเกมนี้เล่นง่ายกว่า เพราะมีระบบการต่อสู้คล้ายๆ กัน [2]
ในส่วนของปัญหาที่ผู้เล่นพบเจอ ก็คือส่วนของเทคนิคภายในเกม ไม่ว่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชันพีซี PlayStation 5 หรือ Xbox Series ต่างพบเจอปัญหามากมาย แม้ว่าทางผู้พัฒนาจะมีการอัปเดตแพตซ์ใหม่หลายๆ ครั้ง แต่ตัวเกมก็ยังประสบปัญหาอาการค้าง กระตุก การโหลดภาพนาน และ AI ฝั่งศัตรูที่ยืนติดฉาก
แต่สิ่งที่เลวร้ายมากที่สุด นั่นก็คือปัญหาของเฟรมเรต ซึ่งตัวเกมในภาคนี้ อัตราเฟรมเรตที่ไม่นิ่งพอ แม้จะปรับภาพในระดับ Performance Mode โดยเฉพาะการปรับภาพบนเครื่อง PC ที่ดูเหมือนว่าจะพบเจอปัญหาเฟรมเรตหนักเป็นพิเศษ ซึ่งผู้เล่นหลายท่าน ก็ยังคงตั้งตารอให้ผู้พัฒนาเกม เร่งแก้ไขปัญหาในส่วนนี้
และอีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอ จะพบในส่วนของระบบเกมเพลย์ ระบบการล็อกเป้าศัตรู ที่ยังคงสร้างความสับสนแก่ผู้เล่นหลายท่าน โดยเฉพาะเวลาต่อสู้กับศัตรูหลายๆ ตัวพร้อมกัน และในส่วนของการเดินแล้วตกหน้าผา เพราะเกมนี้จะมีระบบการกระโดดและปีนป่าย ซึ่งทางผู้พัฒนาไม่ได้สร้างระบบนี้ให้มีประสิทธิภาพมากพอ [3]
สำหรับเกม STAR WARS Jedi: Survivor ที่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มสตรีม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ก็มีผู้เล่นทั่วโลก ต่างเข้ามาร่วมเล่นเกมมากถึง 67,855 คน ส่งผลให้เกมนี้ติดอันดับเกมขายดี ซึ่งรายละเอียดส่วนถัดไป ทางผู้เขียนจะพาไปดูตัวอย่างบทวิจารณ์ พร้อมกับแนะนำสเปคสำหรับเล่นเกมบนเครื่องพีซี มีรายละเอียดข้อมูลดังต่อไปนี้
สำหรับรายละเอียดตัวอย่างบทวิจารณ์ ทางผู้เขียนได้นำข้อมูลมาจากหมวดหมู่ PC Critic Reviews ของสื่อเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น บทวิจารณ์เชิงบวก 18 (72%), บทวิจารณ์แบบผสม 7 (28%) และบทวิจารณ์เชิงลบ 0 (0%) โดยมีตัวอย่างบทวิจารณ์เชิงบวกดังนี้
และนี่ก็คือข้อมูลสำคัญ สำหรับใครที่ต้องการเล่นเกมบนเครื่องพีซี (เครื่องคอมพิวเตอร์) ซึ่งนี่เป็นข้อมูลจากผู้พัฒนาเกม เพื่อให้ผู้เล่นทุกท่าน สามารถเข้าเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือใครที่ต้องการดูบทความรีวิวเกมแอ็กชันแนวอื่นๆ ที่ทางผู้เขียนได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ รีวิว สไปเดอร์แมน รีมาสเตอร์
หากใครเป็นผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ส ตัวเกมในภาคนี้ ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบเกมเพลย์ที่สร้างความสนุกสนาน เนื้อเรื่องชวนติดตาม และยังมีพร้อมกับภาพกราฟิกสวยงามอลังการ หากใครที่ต้องการซื้อตัวเกมในภาคนี้ สามารถเข้าไปจับจองตัวเกมได้ที่ Steam ในราคาเริ่มต้น 1,890 บาท
สำหรับคะแนนรีวิว ที่ตัวเกมได้รับจากสื่อเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวเกมต่างๆ และสำหรับคะแนนที่ตัวเกมในภาคนี้ได้รับ ได้แก่ Game Informer ให้คะแนนรีวิว 9.25/10, GameSpot ให้คะแนนรีวิวทั้งหมด 8/10, PC Gamer (US) ให้คะแนนรีวิวภาพรวมตัวเกม 80/100 คะแนน
ข้อดีหรือจุดเด่นของตัวเกมในภาคนี้ จะเป็นระบบเกมเพลย์ ที่ให้ความสนุกสนานและความท้าทายแก่ผู้เล่น ต่อมาในส่วนของเนื้อเรื่อง ต้องขอบอกเลยว่าตัวเกมในภาคนี้ มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และชวนให้ติดตาม สุดท้ายก็คือในส่วนของภาพและกราฟิก ที่ทางผู้สร้างได้ออกแบบมาอย่างสวยสดงดงาม
