
รีวิว ไฟนอลแฟนตาซี 7 ฉบับรีเมค น่าเล่นมากแค่ไหน?
- Chono
- 9 views
รีวิว ไฟนอลแฟนตาซี 7 เวอร์ชันรีเมค ซึ่งเป็นตัวเกมเวอร์ชันเก่า ที่ปล่อยให้เล่นในช่วงปี ค.ศ. 2013 แต่สำหรับเวอร์ชันฉบับแก้ไข และปรับปรุงมาอย่างดี จะมีความสนุกมากแค่ไหน เกมเพลย์แตกต่างจากภาคเก่าอย่างไร และบทวิจารณ์ของเหล่าผู้เล่น ที่ได้ลองเล่นเกมนี้ จะได้การวิจารณ์อย่างไรบ้าง เราจะพาไปรู้จักตัวเกม ก่อนที่ผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อ
สำหรับตัวเกมเวอร์ชันรีเมค ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Steam เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Square Enix นำเสนอการเล่น ในรูปแบบเกมแอ็กชันสวมบทบาท ปล่อยให้เล่นผ่านเครื่องเล่นเกม PlayStation 4 ในปีต่อมา ก็ได้ปล่อยเวอร์ชันปรับปรุงอีกครั้ง ที่รองรับการเล่นผ่าน PS5, PC, Nintendo และ Xbox
สำหรับเนื้อเรื่องของตัวเกมเวอร์ชันรีเมค จะเป็นเรื่องราวโฉมใหม่ทั้งหมด คุณจะได้รับบทเป็นตัวละคร Cloud Strife ทหารผู้มากความสามารถในการรบ ที่ได้รับความทรงจำมาจากสมาชิกบาร์เร็ตตวอลเลซ หนึ่งในแกนนำ Avalanche และได้รับมอบหมายให้สนับสนุน และร่วมปฏิบัติภารกิจระเบิดเตาปฏิกรณ์ ซึ่งเป็นของบริษัทชินระ (Shinra)
คุณต้องหยุดยั้งกลุ่มนายทุนที่มีอำนาจ ซึ่งได้ทำการยึดครองเมือง Midgar และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง โดยมีพลังปริศนาที่ไม่ทราบที่มา เป็นตัวกลางในการทำงานของระบบ และสิ่งนี้ ถือเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิต แต่หลังจากที่ทำลายเตาปฏิกรณ์ได้สำเร็จ กลับมีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นมากมาย ตัวผู้เล่นเองจะต้องเป็นคนที่ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด (17 เมษายน 2020) [1]
ตัวเกมไฟนอลแฟนตาซีภาคที่ 7 ฉบับรีเมค ทุกองค์ประกอบของระบบเกมเพลย์ ได้รับการออกแบบ และสร้างขึ้นมาใหม่ โดยใช้กราฟิกการทำงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีความแตกต่างกับตัวเกมเวอร์ชันต้นฉบับ อีกทั้งเรื่องราวยังประกอบไปด้วยส่วนขยายหลักๆ ในการพัฒนาตัวละคร และมีการเพิ่มเนื้อเรื่องที่โดดเด่นอีกมากมาย
ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ จะเป็นการต่อสู้แบบเรียลไทม์ เช่นเดียวกับตัวเกม Final Fantasy XV อีกทั้งมาพร้อมกับระบบ Active Time Battle ที่มีการปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันดั้งเดิม โดยจะค่อยๆ เติมเต็มอย่างช้าๆ หรือคุณสามารถเติมให้เต็มได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการโจมตี เมื่อเต็มแล้ว ตัวละครของผู้เล่น จะสามารถใช้ความสามารถพิเศษได้นั่นเอง (8 สิงหาคม 2025) [2]
สเปคขั้นต่ำสำหรับเล่นเกมบนพีซี
นับตั้งแต่ที่ตัวเกมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ทางเว็บไซต์ SteamDB ก็ได้บันทึกข้อมูลต่างๆ สถิติจำนวนผู้เล่นที่เข้ามาใช้บริการ ภายในเดือนมิถุนายน 2022 พบว่ามีผู้เล่นเข้าไปร่วมเล่นเกมกว่า 13,803 ทำให้ตัวเกมติดอันดับ 570 สินค้าขายดีบนสตรีม จนมาถึงยุคปัจจุบัน สถิติเมื่อ 30 วันที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่เล่นเกมนี้ 1,911 ผู้เล่น (17 มิถุนายน 2022) [3]
สำหรับตัวอย่างบทวิจารณ์ข้างต้น ทางผู้เขียนบทความ ได้อ้างอิงข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Metacritic ในหมวดหมู่ PlayStation 4 Critic Reviews โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อบทวิจารณ์ ได้แก่ บทวิจารณ์เชิงบวก 116 (92%), บทวิจารณ์เชิงลบ 0 (0%) และบทวิจารณ์แบบผสม 10 (8%) หรือใครอยากดูบทความรีวิวเกมอื่นๆ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ เกมสตรีม น่าเล่น
หลังจากที่ทางผู้ให้บริการเกม ได้ปล่อยตัวเกมให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัสความสนุก ความแปลกใหม่ของระบบเกมเพลย์ ก็มีเว็บไซต์ต่างประเทศ ที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเกม ได้เข้ามาให้คะแนนรีวิวภาพรวมหลายๆ เว็บไซต์ ได้แก่ 4Players ให้คะแนนรีวิว 82/100, Easy Allies ให้คะแนนรีวิวภาพรวมตัวเกม 9/10 และเว็บไซต์ Famitsu ให้คะแนนรีวิว 39/40 คะแนน
ซึ่งตัวเกมเวอร์ชันรีเมค ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ของแฟรนไชส์เกมแอ็กชันสวมบทบาท นอกจากจะได้รับความนิยมจากเหล่าแฟนคลับแล้ว ยังได้รับคะแนนรีวิวในทางที่ดี จากสื่อเว็บไซต์ต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งหากใครที่ต้องการจับจองเป็นเจ้าของเกมนี้ สามารถคลิกเข้าไปซื้อตัวเกมได้ที่ Steam ในราคาเริ่มต้น 1,391 บาท
ตัวเกมที่วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร นอกจากจะได้รับความนิยมจากเหล่าผู้เล่น ยังเปิดตัวอันดับสูงของชาร์ตเกมยอดฮิตอีกด้วย ซึ่งรายได้ของเกมในสัปดาห์แรก สามารถทำได้ประมาณ 60,000 ชุด และข้อมูลจากเว็บไซต์ขายเกมของเยอรมัน GAME ได้รายงานว่า เพียงแค่ไม่กี่วัน ตัวเกมสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 100,000 ชุด
ในปี 2019 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Game Critics Awards ในสาขา Best of Show, Best Console Game และ Best Role-Playing Game ต่อมาในปี 2021 ตัวเกมก็ได้รับการนำเสนอเข้าชิงรางวัล 24th Annual D.I.C.E., Outstanding Achievement in Animation และในปี 2022 ได้รับการเข้าชิงรางวัล The Steam Awards ในสาขา Best Soundtrack