
รีวิว The Sinking City เกมแอ็กชันผจญภัย จากนิยายสยองขวัญ
- Chono
- 18 views

รีวิว The Sinking City เกมแอ็กชันผจญภัย ซึ่งเป็นผลงานจากสตูดิโอ Frogwares ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Steam มากถึง 3 ภาคด้วยกัน และตัวเกมยังได้แรงบันดาลใจ มาจากหนังสือนิยายสยองขวัญ แนะยังได้นักเขียนนิยายสยองขวัญ มาเขียนเนื้อเรื่องให้กับตัวเกมอีกด้วย ซึ่งเราจะพาไปดูเนื้อเรื่อง และตัวอย่างบทวิจารณ์ของเหล่านักเล่นเกมรายละเอียด
ในส่วนของการออกแบบ ซึ่งทางผู้พัฒนาเกม ได้ โอเวิร์ด ฟิลลิปส์ เลิฟคราฟต์ นักเขียนนิยายชาวอเมริกัน ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องสยองขวัญ ได้ออกแบบเนื้อเรื่องให้กับเกมนี้ และทางสตูดิโอผู้ออกแบบตัวเกม ได้จินตนาการฉากเปิดตัวละคร ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาแน่น ซึ่งในการออกแบบในครั้งนี้ ได้ใช้ Unreal Engine 4 ในการสร้างเกม
เพราะทางผู้พัฒนาเกมเล็งเห็นว่า เทคนิคการใช้งาน Unreal Engine 4 ที่เกิดขึ้นภายในเกม Assassin’s Creed จากทาง Ubisoft มีการออกแบบฉากที่สวยงาม สมจริง พร้อมกับฉากประกอบ ที่อิงตามสถาปัตยกรรมนิวอิงแลนด์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นบล็อกต่างๆ ที่มีสิ่งก่อสร้างและบรรยากาศ ที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน
โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นสำหรับ Windows, PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch ในเดือนมิถุนายน 2019 และสำหรับเวอร์ชัน PlayStation 5 และ Xbox Series X/S จะเปิดให้เล่นในเดือนเมษายน 2021 และตัวเกมเวอร์ชันรีเมค (Remastered) จะเปิดให้เล่นภายในเดือนพฤษภาคม 2025 (2 กันยายน 2025) [1]
ตัวละครหลักภายในเกม Charles Reed เขาเป็นอดีตนักดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ และยังเป็นอดีตทหารผ่านศึก ซึ่งได้ผันตัวเป็นนักสืบเอกชน วันหนึ่ง เขาเดินทางไปยังโอ๊คมอนต์ ตามคำเชิญของศาสตราจารย์โยฮันเนส เพื่อค้นหาสาเหตุของภาพฝันร้าย ที่คอยรบกวนใจเขา ตั้งแต่ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือยูเอสเอสไซคลอปส์ล่ม
ในระหว่างที่เขากำลังสืบหาข้อมูล ระหว่างนั้นเขาก็ได้ไขคดีต่างๆ อีกหลายๆ คดี ที่ทำให้เขาเข้าไปพัวพัน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งทำให้เขารู้ว่า ศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง มีการวางแผนการชั่วร้าย และพยายามวางยาพิษผู้คนที่อยู่ในธนาคาร EOD เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร และได้รู้ว่า EOD คือกลุ่มคนลัทธิบูชาเทพเจ้าโบราณ
การค้นหาคำตอบของ Reed ในที่สุดก็พบว่า แผนการร้ายทั้งหมด คือฝีมือของผู้เฒ่าจากลัทธิประหลาด ที่ต้องการกวาดล้างมวลมนุษยชาติ และนี่ก็คือพล็อตเรื่องฉบับย่อ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกฉากจบได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ การยอมรับชะตากรรม, การละทิ้งโชคชะตา และการปฏิเสธทางเลือก เพื่อหลบหนีไปยังเมืองอื่น
ทางทีมงานผู้พัฒนาเกม Frogwares ได้แถลงการณ์บนแพลตฟอร์ม Twitter ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า พวกเขาไม่ใช่ทีมผู้สร้างเกม ที่วางจำหน่ายตัวเกมบนสตรีม และไม่แนะนำให้ซื้อตัวเกมเวอร์ชันนี้อีกด้วย นั่นก็เพราะว่า แท้จริงแล้ว ตัวเกมถูกวางจำหน่ายโดย Nacon ที่กำลังมีข้อพิพาทด้านกฎหมายกับทางสตูดิโอ
เหตุผลที่ทั้งสองสตูดิโอเกิดข้อพิพาทกัน เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่ทั้งสองเซ็นสัญญาร่วมกัน เพื่อสร้างเกมแอ็กชันสยองขวัญเกมนี้ขึ้นมาแต่ทาง Nacon ที่ได้รับมอบหมายในการจัดจำหน่ายเกม ได้จ่ายเงินล่าช้าให้กับสตูดิโอผู้พัฒนาเกมในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่กลับนำเงินไปสู้สตูดิโออื่น และลักลอบสร้างเกมแนว Lovecratian
ในด้านการทำธุรกิจ ทางสตูดิโอ Frogwares ได้ส่งเรื่องถามไปยัง Nacon หลายต่อหลายครั้ง เรื่องการประเมินยอดขาย แต่ทางบริษัทก็มีการบ่ายเบี่ยงเรื่องตัวเลข จนไม่สามารถวางแผนการตลาดไม่ได้ตามที่วางเอาไว้ สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ ก็คือยอดขายการันตีขั้นต่ำ จากการเซ็นสัญญากับทาง Epic Games ในช่วงปีแรก (27 กุมภาพันธ์ 2021) [2]

สำหรับตัวเกมในภาคที่หนึ่ง ที่ถูกถอดออกจากแพลตฟอร์ม Steam ทางผู้พัฒนาเกม ก็ได้วางจำหน่ายตัวเกมเวอร์ชันรีเมค ที่เปิดตัวภายในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 พบว่ามีผู้เล่นจำนวน 298 ได้เข้าไปร่วมเล่นเกมเวอร์ชันนี้ แต่การสำรวจของเว็บไซต์ SteamDB พบว่าเมื่อ 30 วันที่ผ่านมา ตัวเกมเวอร์ชันรีเมค มีผู้เล่นเหลือเพียงแค่ 111 คนเท่านั้น
ในส่วนของคะแนนรีวิว ที่ตัวเกมได้รับจากเว็บไซต์ต่างประเทศ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีสื่อเว็บไซต์ต่างๆ ได้ร่วมให้คะแนนรีวิวตัวเกม ได้แก่ Impulsegamer 90/100, GameSpace 85/100, The Games Machine 84/100, IGN 78/100, PC Invasion 80/100 และเว็บไซต์ PC Gamer ให้คะแนนรีวิว 66/100 คะแนน
สำหรับตัวอย่างคำวิจารณ์ ทางผู้เขียนบทความรีวิวเกม ได้อ้างอิงข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Metacritic ในหมวดหมู่ PC Critic Reviews ซึ่งแบ่งคำวิจารณ์ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ คำวิจารณ์เชิงบวก 36% คำวิจารณ์แบบผสม 64% และคำวิจารณ์เชิงลบ 0% (2025) [3] หรือใครต้องการดูบทความรีวิวเกมอื่นๆ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ เกมสตรีม น่าเล่น
สำหรับผู้อ่านท่านใด ที่ชื่นชอบเกมแอ็กชันผจญภัย ที่ผสมผสานกับเกมสยองขวัญแนวสืบสวนสอบสวน ให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่จะมอบความสนุกสนาน ร่วมแก้ไขคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบัน เกมนี้ได้ให้บริการตัวเกมในภาคที่ 2 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่แพลตฟอร์ม Steam
แม้ว่าตัวเกมต้นฉบับของภาคที่หนึ่ง จะถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มสตรีม แต่คุณสามารถเข้าไปร่วมรับความสนุก สำหรับตัวเกมในเวอร์ชันรีเมค ซึ่งจะวางจำหน่ายในราคา 1,139 บาท ราคาตัวเกมในแพ็กเกจ This War of Mine 1,385 บาท และราคาแบบเหมารวม 1,510.20 บาท
ซึ่งตัวเกมในเวอร์ชันรีเมค ทางผู้พัฒนาเกม ได้เพิ่มระบบใหม่ๆ เข้ามาในเกม ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบสภาพแวดล้อมแบบ 4K รายละเอียดที่คมชัดมากยิ่งขึ้น ต่อมาก็คือระบบการควบคุม การต่อสู้ ที่ทำออกมาให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น สุดท้ายก็คือ ระบบที่รองรับการสร้างเฟรมเรตแบบ FSR และ DLSS

