
รู้จัก Alfred Lin กับการสร้างมูลค่า สตาร์ตอัปพันล้าน
- LittleHydrangea
- 21 views
รู้จัก Alfred Lin ผู้ลงทุน ที่เน้นลงทุนกับบริษัท หรือ startup ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์แก่ผู้บริโภค ในยุคสมัยใหม่ ซึ่งเขามักจะเลือกลงทุน กับ Startup ที่มีมูลค่าต่ำ และกำลังเริ่มต้น ในการทำธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ในการใช้ชีวิตของมนุษย์
นักลงทุน ผู้มีวิสัยทัศน์ ในสตาร์ตอัปพันล้าน คุณอัลเฟรด หลินนั่นเอง ประวัติของคุณอัลเฟรดนั้น เขาเป็นลูกครึ่งไต้หวัน-อเมริกา เขาเริ่มสนใจในการทำธุรกิจ ตั้งแต่ช่วงมัธยม โดยเขาได้เริ่มต้นด้วย ธุรกิจตัดหญ้า แต่เขาก็ได้พบว่าเขาไม่สามารถทำไปตลอดเวลาได้ เขาจึงได้เปลี่ยนธุรกิจต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ
ต่อมาในช่วงมหาลัย พ่อแม่ของเขาอยากให้เขา มีความสามารถทางด้านของคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ในช่วงมหาลัยของอัลเฟรด เขาจึงได้เข้าเรียน ในสาขาทางสถิติ และนั่นเอง ที่ทำให้เขาได้เจอกับ Tony Hsieh เพื่อนร่วมมหาลัยของเขา
ต่อมาหลังจากจบมหาวิทยาลัย เขากับเพื่อนโทนี่ เช ได้มีความสนใจ ในการร่วมกันลงทุน สร้างธุรกิจสตาร์ตอัป ที่ชื่อว่า LinkExchange ขึ้น และต่อมา พวกเขาได้ขายธุรกิจนี้ ให้กับ microsoft ซึ่งสามารถทำกำไรได้ถึง 17 เท่า ให้กับพวกเขาเลยทีเดียว
ที่มา: Alfred Lin [1]
ในช่วงแรก การพิจารณาในการเลือกลงทุน ในธุรกิจสตาร์ตอัปของอัลเฟรด เขาได้พิจารณา จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้น ๆ ที่เลือกลงทุน ซึ่งต้องมีปัจจัย ที่เหมาะสำหรับการลงทุน ในระยะยาว ซึ่งปัจจัยนั้น คือปัจจัยที่เกี่ยวกับปัจจัยทางด้านการเงิน และการบริหารของผู้บริหาร ทำให้มาตรฐาน ในการเลือก
บริษัทที่อัลเฟรด สนใจเลือกลงทุนนั้น ค่อนข้างจะมีมาตรฐานที่สูง เพราะด้วยความที่ตัวเขาเอง ได้เคยทำธุรกิจสตาร์ตอัป จึงทำให้เขานั้น มีความรู้ และความเข้าใจ ในการมองดูภาพของสตาร์ตอัป ว่าสตาร์ตอัปนั้น ๆ ที่เขาจะลงทุน มีโอกาสที่จะพัฒนา หรือเติบโตได้ ในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้ เขายังมองที่
พื้นฐานของการบริหาร ว่าผู้บริหารนั้น มีวิสัยทัศน์ ที่มองถึงอนาคตของบริษัท และมีความมั่นคง และแน่วแน่ในหลักการของตัวเองหรือไม่ เพราะผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี เขาจะสามารถพัฒนาบริษัท และพาบริษัทพ้นวิกฤตต่าง ๆ ไปได้ เหมือนกับ ข้อคิดลงทุน Neil Mehta ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริหารเป็นหลัก
ที่มา: Alfred Lin [2]
ในความคิดของอัลเฟรด ความสำคัญของทีมก่อตั้งนั้น ต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ เพราะทีมก่อตั้ง ถือว่าเป็นเหมือนกับสารตั้งต้น ที่จะทำให้บริษัทนั้น ๆ มีการเติบโต หรือมีแรงจูงใจ ในการสร้างผลงาน หรือสินค้า ที่จะสามารถตอบโจทย์ ให้กับลูกค้าได้สูง ในอนาคต นี่จึงทำให้อัลเฟรด หลินให้ความสำคัญ
กับทีมบริหาร มากกว่าผลิตภัณฑ์ ในช่วงแรก โดยการที่เขานั้น จะเริ่มจากการสนับสนุนเงินทุน ให้กับทีมบริหาร เพื่อสรรค์สร้างสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ที่จะตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลา จึงทำให้ผู้ลงทุน ต้องมีความอดทน ในการลงทุนที่สูง
ที่มา: Alfred Lin [3]
การให้ความสนใจ กับทีมบริหาร เป็นอันดับแรกของอัลเฟรด ทำให้การประเมินการทำงานนั้น เป็นส่วนสำคัญ ในการทำงาน ซึ่งจะช่วยทำให้ทีมบริหาร หรือผู้บริหาร สามารถมองเห็นคุณภาพ การทำงานของเขาเอง และสามารถรับรู้ได้ ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน และควรจะแก้ไข ที่ตรงไหน
โดยอัลเฟรด มีวิธีการในการประเมินดังนี้
แนวคิดในการขยายธุรกิจของอัลเฟรด มีบทบาทสำคัญ ต่อบริษัท ที่เขาเลือกลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะแนวคิดของเขา ทำให้เขาสามารถสร้างสินค้า ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างมีเหตุผล และมีหลักการนั่นเอง ซึ่งแนวคิดในการขยายธุรกิจ อย่างมีวินัยของอัลเฟรด มองว่าหากมีการขยายตัว
ของธุรกิจที่มากจนเกินไป จะทำให้หลังบ้านของธุรกิจนั้น ๆ อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ในอนาคต ซึ่งอัลเฟรดได้มองเห็นถึงปัญหานี้ และได้แก้ไข โดยการลดความเสี่ยง จากการเติบโตของบริษัท ที่รวดเร็วเกินไป เพราะการที่บริษัท มีการเติบโตที่รวดเร็วเกินไป อาจจะส่งผลเสีย ต่อระบบหลังบ้านได้นั่นเอง
เพราะเขาเชื่อว่า ความสำคัญของวัฒนธรรมในองค์กรนั้น ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญ ในการสร้างความสัมพันธ์ หรือการสื่อสารที่ดี ในการทำงานของบริษัท จึงทำให้อัลเฟรด มองว่าวัฒนธรรมในองค์กรนั้น ๆ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะวัฒนธรรมในองค์กร สามารถช่วยคัดกรองคนที่ใช่
ในการทำงานให้กับบุคคลนั้น ๆ ที่ต้องมีการทำงานร่วมกัน ในระยะยาว ซึ่งวิธีการนี้ ก็จะช่วยทำให้เห็นว่าคนแต่ละคนนั้น มีแนวคิด หรือวางแผนอนาคตในองค์กรอย่างไร ซึ่งจะช่วยคัดกรอง คนที่อยากทำงานในบริษัทระยะยาว และระยะสั้น พร้อมทั้งยังช่วยลดการเติบโต ที่อาจจะรวดเร็วเกินไปของบริษัท
เพราะถ้าหากวิสัยทัศน์ของพนักงาน ไม่ตรงกับบริษัท ก็มีโอกาส ที่จะทำให้พนักงาน แต่ละคนของบริษัทนั้น มีความคิดที่แตกแยก ออกไปในทางอื่นเช่นกัน และไม่สามารถทำงานร่วมกันได้นั่นเอง
สรุป รู้จักกับอัลเฟรด หลินนักลงทุนผู้ชื่นชอบในการลงทุน ในธุรกิจสตาร์ตอัป โดยมองที่ปัจจัยพื้นฐานที่ดี และการมีความมั่นคงทางด้านการเงิน พร้อมทั้งวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และพนักงานในบริษัท เพื่อมองภาพในอนาคต ที่บริษัทนั้น ๆ จะสามารถไปต่อได้
บทเรียนที่อัลเฟรดได้รับจากโทนี่ คือ เรื่องของการบริการลูกค้า ที่การบริการเป็นเหมือนกับการสร้างความเชื่อมั่น หรือความไว้ใจ ให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะใช้วิธีการ ในการโฆษณาสินค้า หรือแนะนำการใช้งานต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ ให้มีความรู้สึกที่ดี ต่อสินค้าของบริษัท
เพราะอัลเฟรดมีความคิดว่า หุ้นบางตัว ในบริษัท ที่มีศักยภาพในการเติบโตน้อยนั้น มีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นได้ แต่การเติบโต อาจจะไม่หวือหวา เท่ากับหุ้นตัวอื่น ๆ แต่หุ้นตัวนั้น ๆ ก็ยังสามารถเติบโตได้ดี และอาจจะเติบโตได้สวย ในอนาคตเช่นกัน