ลงทุนแบบคาร์ล ไอคาห์น ตัวพ่อนักล่ากิจการ
- LittleHydrangea
- 10 views
ลงทุนแบบคาร์ล ไอคาห์น เป็นการลงทุน ในรูปแบบของการมองบริษัท ที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคาตลาด โดยที่เขาจะเข้าไปร่วมลงทุน และทำการถือหุ้น เปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าผู้อื่น โดยที่จะทำการเสนอชื่อตัวเอง เข้าไปทำการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างบางอย่าง ในบริษัทที่ลงทุนแทน
แนวคิดของคาร์ล จะเป็นการลงทุน ที่ไม่ได้ลงทุนตามกระแส และไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าของหุ้น หรือบริษัทที่เลือกลงทุน เพราะแนวคิดของคาร์ล จะใช้วิธีในการมองมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ที่เลือกลงทุนว่า บริษัทนั้น ๆ มีโอกาสเติบโต ในอนาคต เพิ่มเติมหรือไม่แทน และวิธีการมองมูลค่าที่แท้จริง
ของบริษัทนั้น ๆ โดยสามารถมองได้หลายวิธี ซึ่งคาร์ลได้ใช้วิธีการเหล่านี้ ในการมองมูลค่า ว่าบริษัทนั้น ๆ มีโอกาสเติบโต ในอนาคตหรือไม่ ซึ่งต้องดูจากรากฐาน ของบริษัท ว่ามีรากฐาน ที่แข็งแรง และมีผู้บริหาร ที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมทั้งมีทีมงาน ที่มีแนวคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอหรือไม่ โดยที่คาร์ลจะใช้วิธีการ
ในการกว้านซื้อหุ้นที่มีมูลค่าต่ำหลายร้อยตัว และทำการผลักดันตัวเอง โดยการเสนอชื่อตัวเอง ในบอร์ดบริหาร เพื่อให้ตัวเขานั้น มีอำนาจในการจัดการบริษัท ที่กำลังมีการบริหาร ที่ย่ำแย่ จึงทำให้เขามีโอกาส ในการพลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส โดยการเข้าไปแทรกแซง ในการทำงานของบริษัทนั่นเอง
ที่มา: Who Is Carl Icahn [1]
สำหรับวิธีในการเลือกหุ้น หรือเลือกบริษัท ในการลงทุนของคาร์ลนั้น เขาจะใช้วิธีในการมองหุ้น หรือบริษัทที่เขาต้องการจะลงทุน จากมูลค่าของบริษัทนั้น ๆ หรือมองจากหุ้นตัวนั้น ๆ และทำการพิจารณา พร้อมทั้งวิเคราะห์ ว่าหุ้นตัวนั้น ๆ มีโอกาสเติบโตต่อไปได้ ในอนาคตได้หรือไม่
โดยที่หากมีโอกาสเติบโตได้ ในอนาคต และเขาสามารถถือหุ้น ในบริษัทนั้น ๆ ได้ในเปอร์เซ็นต์ ที่มากกว่าคนอื่นในบริษัท คาร์ลก็จะเลือกหุ้นตัวนั้น ในการลงทุนเป็นอันดับแรก ๆ ซึ่งคาร์ลจะทำการกวาดซื้อหุ้น ในตอนที่หุ้นของบริษัทนั้น ๆ มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าจริงของมัน
และมองหาวิกฤตของหุ้นตัวนั้น ว่ามีวิกฤตที่เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งเมื่อเขาถือเปอร์เซ็นต์ในหุ้น มากกว่าคนอื่น เขาก็จะสามารถเข้าไปจัดแจง หรือแทรกแซงการทำงาน ของพนักงานในนั้นได้ พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ ในบริษัท หรือหุ้นตัวนั้น ๆ ได้นั่นเอง
ตัวพ่อแบบไอคาห์นนั้น มีแนวคิดที่แตกต่าง จากพวกลงทุนท่านอื่น คือ ไอคาห์นมักจะเลือกลงทุน ในหุ้น หรือในบริษัท ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าจริง เพราะจะทำให้การลงทุนนั้นต่ำ และเมื่อเขาได้ถือหุ้นตัวนั้น มากกว่าคนอื่น เขาก็จะเข้าไปแทรกแซงการบริหาร ของบริษัทนั้น ๆ และทำให้กิจการของบริษัทนั้น ๆ ดี
ก่อนที่จะขายออก เมื่อราคาหุ้น ถึงเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ เช่น กรณีของสายการบิน Trans World Airlines (TWA) เมื่อปี 1985 ที่เขาเข้าซื้อหุ้นในราคาต่ำ และเข้าไปแทรกแซงการบริหาร พร้อมทั้งทำให้หุ้นของบริษัทขึ้นสูง จนเขาสามารถขายหุ้นออกไป และได้กำไรเข้ากระเป๋า 469 ล้านดอลลาร์
และทำการทิ้งบริษัทนั้น ซึ่งจากกรณีที่ได้ยกตัวอย่าง ทำให้สายการบิน TWA กลับมีหนี้ถึง 540 ล้านดอลลาร์ จนปัจจุบัน กลายเป็นสายการบิน ที่ไม่มีใครรู้จักนั่นเอง
ที่มา: “คาร์ล ไอคาห์น” นักล่ากิจการขาโหดที่หันมาชูธง ESG [2]
เหตุผลที่ว่าทำไม คุณคาร์ล ไอคาห์นนั้น ถึงได้ให้ความสนใจ ในบริษัทที่มีมูลค่าต่ำ เพราะเขามักจะมีแนวทางในการเข้าไปซื้อหุ้น ของบริษัทนั้น ๆ ที่มีมูลค่าตลาด ต่ำกว่ามูลค่าจริง พร้อมทั้งจะทำการเสนอชื่อของตนเอง และให้ตัวแทนของเขา ไปเป็นหนึ่งในผู้บริหาร ในกิจการนั้น ๆ
ซึ่งเหตุผล ที่คาร์ล ไอคาห์นนั้นได้ เข้าไปมีบทบาท ในบริษัทในฐานะผู้บริหารนั้น คือ เขานั้นต้องการพัฒนาบริษัท ให้มีมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มความน่าสนใจ และตัดทอนหุ้น ที่ไม่ได้มีความจำเป็นกับบริษัท หรือหุ้นที่ได้ขาดทุนไปแล้วออกทั้งหมด ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้คาร์ล ไอคาห์น สามารถสร้างรายได้
จากบริษัทที่มีมูลค่าต่ำ มากกว่ามูลค่าจริง สามารถทำกำไรได้ มากกว่าการลงทุนที่เขานั้น ใช้เงินลงทุนไป พร้อมทั้งจะดูถึงความสามารถในอนาคต และค่อยขายหุ้นทิ้ง ซึ่งจะแตกต่างกับการ ลงทุนแบบ Bill Gross หรือนักลงทุนคนอื่น ๆ
สิ่งที่นักลงทุนนั้น สามารถเรียนรู้จากแนวคิดของไอคาห์น คือ วิธีคิดและการทำงานของเขา ในตอนที่เขาทำงาน และใช้วิธีคิด โดยการซื้อหุ้น ที่ไม่ใช่เทรนตามกระแส พร้อมทั้งเลือกลงทุนในหุ้น ที่จะให้ผลลัพธ์ ที่สูง แต่ใช้การลงทุนที่ต่ำ ซึ่งวิธีนี้ นักลงทุนทั่วไปนั้น สามารถนำมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งได้เรียนรู้ วิธีการเข้าไปมีส่วนร่วม กับการลงทุนของบริษัทนั้น ๆ ที่นักลงทุนเลือกลงทุน ที่ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่นักลงทุนทั่วไป สามารถทำตามได้ และยังสามารถเข้าไปบริหาร การทำงาน หรือตัดทอนหุ้นบางตัว ที่ไม่มีความจำเป็นกับบริษัทออก ด้วยปัจจัยที่ว่าการถือเปอร์เซ็นต์หุ้น ที่มากกว่าคนอื่น ๆ
โดยที่นักลงทุนทั่วไปนั้น สามารถนำวิธีการ หรือหลักการเหล่านี้ ไปใช้ในการลงทุนได้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการลงทุน โดยการติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ การศึกษาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากการลงทุน และเรื่องเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในการลงทุน สู่ความสำเร็จของนักลงทุนทุกคนนั่นเอง
ที่มา: คาร์ล ไอคาห์น นักล่ากิจการ [3]
กลยุทธ์ Active investor ของไอคาห์นนั้น จะเป็นกลยุทธ์ในการลงทุน ที่จะใช้การเข้าไปมีส่วนร่วม กับการลงทุน หรือในแนวคิดของไอคาห์น คือ การที่เขานั้น จะเข้าไปมีส่วนร่วม กับบอร์ดบริหาร หรือการทำงานในบริษัท ซึ่งกลยุทธ์ Active investor นี้ ก็จะมีข้อดี และข้อเสีย แตกต่างกันไป
โดยข้อดี คือเขาจะมีส่วนช่วย ให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความโปร่งใส ในเรื่องของการแสดงรายได้ ทางการเงิน และมีความโปร่งใส ในการบริหารที่มากขึ้น จากการดูแล หรือบริหารของเขานั่นเอง ส่วนข้อเสีย คือเขาจะมีความขัดแย้ง กับบอร์ดบริหารบางคน ที่ไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่เหมือนกัน
ทำให้อาจจะเกิด เป็นความขัดแย้งภายในได้ และยังทำให้เกิดการสูญเสีย ผลประโยชน์ทางการเงิน อีกทั้งยังมีความเสี่ยง ทางด้านการเงิน เพราะการลงทุนกับบริษัท ที่ไม่ได้มีความสามารถในการบริหาร มักจะทำให้บริษัทนั้น ๆ เกิดข้อเสียได้
สรุป ลงทุนแบบคาร์ล ไอคาห์น เป็นการลงทุน ที่เรียกว่าการลงทุนแบบ Active investor หรือการเข้าไปมีส่วนร่วม กับบริษัทที่ตนนั้นได้ลงทุน โดยจะถือเปอร์เซ็นต์ ที่เหนือกว่าคนอื่น ๆ และเข้าไปแทรกแซง การทำงาน เพื่อที่จะปรับปรุงการบริหาร เพื่อทำให้การลงทุนมีมูลค่าทางกำไรมากยิ่งขึ้น
ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ที่มีผลทำให้บริษัทต่าง ๆ ที่มีมูลค่าต่ำนั้น เริ่มมีการพิจารณาตัวเอง ในเรื่องของความโปร่งใส ทางด้านของการเงิน และการปรับปรุงประสิทธิภาพ ทางด้านการบริหาร เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าในตัวเองให้มากขึ้น
สำหรับการลงทุนที่ประสบผลสำเร็จของไอคาห์น คือ Trans World Airlines (TWA) เป็นการใช้เงินกู้ ขายบริษัทเพื่อนำมาชำระหนี้ อีกทั้งขายสินทรัพย์ ที่ทำให้เขาได้กำไรอย่างมหาศาลนั่นเอง
