ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน นักลงทุน ที่เน้นลงทุนแบบชาวสวน

ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน

ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน นักลงทุนที่มักจะมีการลงทุน ที่แตกต่าง จากผู้ลงทุนท่านอื่น ๆ เพราะการลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตันจะเป็นการลงทุน ที่สวนกระแสกับตลาดโลก หรือตลาดการลงทุน ที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงขณะนั้น และมีแนวคิดในการลงทุน ที่สวนทางกับคนทั้งโลก

  • แนะนำวิธีการลงทุนแบบเทมเปิลตัน
  • แนะนำวิธีการเลือกหุ้นแบบเทมเปิลตัน
  • ถอดวิธีและแนวคิดในการลงทุนแบบเทมเปิลตัน

แนวคิดลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตันเป็นแบบไหน

ต้องบอกก่อนว่าเซอร์จอห์น เทมเปิลตันนั้น เป็นคนที่มีแนวคิดในการลงทุน ที่แตกต่าง จากนักลงทุนท่านอื่น ๆ คือเซอร์จอห์น มักจะเลือกลงทุนสวนทางกับตลาดอยู่เสมอ เพราะเขามีแนวคิดในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่คล้ายกับการ ลงทุนแบบเบนจามิน เกรแฮม โดยวิธีของเขาคือ เขานั้นมักจะซื้อหุ้น

เมื่อผู้คนเลือกที่จะขายหุ้นกัน เพราะเขามีแนวคิดในการลงทุน แบบเน้นคุณค่า ซึ่งแนวคิดนี้ จะมีวิธีในการเลือกซื้อหุ้น โดยการรอซื้อหุ้นที่มีความมั่นคง หรือหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี เมื่อหุ้นตัวนั้น ๆ ราคาตกลง เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นที่มีพื้นฐานดีนั้น จะมีโอกาสในการที่ ราคาของหุ้นกลับมานิยม

หรือมีกำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพราะเหตุนี้ จึงทำให้เซอร์จอห์น เลือกซื้อหุ้นที่คนอื่นไม่ซื้อ หรือเลือกหุ้นที่คนอื่นเทียร์ขาย และจะเลือกขายในขณะที่คนอื่นเลือกซื้อนั่นเอง ซึ่งแนวคิดรูปแบบนี้ในช่วงแรก ๆ นั้น ไม่เป็นที่นิยมมากเท่าไหร่

ที่มา: Sir John Templeton: Early Life, Foundation [1]

ทำไมเซอร์จอห์น ถึงให้ความสำคัญกับการซื้อ เมื่อคนอื่นกลัว

สำหรับหลักการสำคัญที่เซอร์จอห์น นิยมใช้คือหลักการในการซื้อ เมื่อคนอื่นกำลังกลัว ซึ่งหลักการนี้ จะเป็นเหมือนกับตอนที่ หากผู้คนนิยมในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาก ๆ จะทำให้สิ่งของเหล่านั้น มีราคาที่เพิ่มสูง ซึ่งเมื่อความนิยมลดลง ราคาของมันก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งความคิดนี้ ก็เหมือนกับการลงทุนซื้อหุ้นนั้น ๆ

ในตอนนี้คนอื่นกลัว และเริ่มทยอยขายหุ้นนั่นเอง ซึ่งในยุคสมัยนั้น ผู้คนไม่ได้ให้ความสนใจ กับการมองคุณค่าที่แท้จริงในหุ้นตัวนั้น ๆ อย่างแท้จริง แต่เซอร์จอห์น ได้มองเห็นถึงความสำคัญ และอนาคตในการเติบโตในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้มากกว่าคนอื่น จึงทำให้เซอร์จอห์นนั้น ได้เลือกที่จะลงทุนกับหุ้น

โดยที่ซื้อหุ้นในขณะที่คนอื่นกลัว และเทขายหุ้นออกจนหมด จนทำให้มีหุ้นหลายตัว มีราคาที่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ จึงเป็นโอกาสให้เซอร์จอห์น ได้ลงทุนในตลาดหุ้น ที่มีราคาต่ำ แต่แอบแฝงไปด้วยความมั่นคง และรายได้ที่สม่ำเสมอ

ที่มา: เซอร์จอห์น เทมเปิลตัน [2]

เพราะเหตุใดเซอร์จอห์น ถึงเลือกลงทุน ในตลาดหุ้นต่างประเทศ

เหตุผลที่ว่าทำไมเซอร์จอห์น ถึงได้มีความเชื่อมั่น และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นต่างประเทศนั้น มีโอกาสที่จะเติบโตได้ จากการที่เขาได้ไปสำรวจ และการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก จึงทำให้เขาเลือกที่จะลงทุน กับหุ้นต่างประเทศ ที่มีมูลค่าที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงในตลาด และเลือกลงทุน

กับหุ้นในประเทศ ที่มีค่าเงินที่อ่อนค่ากว่านั่นเอง และเหตุผลนี้เอง จึงทำให้เซอร์จอห์นนั้น มีความเข้าใจในตลาด และความผันผวนของราคาในตลาดได้ดี และการมีความเข้าใจในเรื่องการลงทุน แบบเน้นคุณค่านี้ จึงทำให้เขานั้น มักจะเลือกซื้อหุ้น ที่มีราคาต่ำ แต่เลือกที่จะถือหุ้น ไว้ในระยะยาวนั่นเอง

อะไรคือแนวคิด การค้นหาหุ้นที่ราคาต่ำ ที่เทมเปิลตันเชื่อ

ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน

ถ้าพูดถึงแนวคิดในการค้นหาหุ้น ที่มีราคาต่ำ ตามความคิดของเซอร์จอห์น เขาจะใช้แนวคิดการเลือกหุ้น แบบเน้นคุณค่า ซึ่งเขาจะมองหาหุ้น ที่มีมูลค่าที่แท้จริง ในช่วงที่การตลาดมีความผันผวน หรือในช่วงที่ผู้คนนิยมขายหุ้นนั้น ๆ นั่นเอง ซึ่งเขานั้น จะมองไปที่ปัจจัยพื้นฐาน ในการลงทุนแบบเติบโตเป็นหลัก

โดยวิธีที่เขาใช้ในการมองหาหุ้น ในช่วงเวลานั้นคือ เขาจะมองหาหุ้นที่มีราคาที่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ แต่เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของหุ้นตัวนั้น ๆ เช่น การดูการบริหารงาน การดูการลงทุน และการดูที่คุณค่า ว่าหุ้นตัวนั้น ๆ จะมีโอกาส ในการเติบโต หรือพัฒนาต่อไปได้หรือไม่

ถ้าหากมีโอกาสเติบโต เซอร์จอห์นก็จะเลือกลงทุน หรือซื้อหุ้นตัวนั้นทันที และเลือกที่จะถือไว้ ในระยะยาว และรอจังหวะที่จะขาย เมื่อมีคนต้องการมาก ๆ จึงทำให้เขานั้นได้กำไรที่สูงนั่นเอง

วิธีเลือกหุ้น ในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจแบบเทมเปิลตัน

วิธีการลงทุน ในช่วงที่หุ้นนั้น เกิดความวิกฤต หรือเป็นช่วงขาลงของตลาดหุ้น ซึ่งการลงทุนกับหุ้นที่มีราคาสูง ก็มีความเสี่ยง หรือการลงทุนกับหุ้นที่มีราคาต่ำ ก็สามารถทำกำไรได้น้อยเช่นกัน โดยในที่นี้เซอร์จอห์นก็ได้ให้นิยามที่ว่า เราควรทำในช่วงที่คนกลัว และเราควรปล่อยในช่วงที่คนต้องการ

โดยใช้วิธีการลงทุนแบบสวนกระแส ที่ต้องเลือกหุ้น ที่มีพื้นฐานดี น่าลงทุน เพราะการดูหุ้นที่พื้นฐานที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลง เพราะราคาที่ลงทุนไปกับหุ้นนั้น จะเป็นการลงทุนที่มีราคาที่ต่ำ และมีการกระจายความเสี่ยง โดยการลงทุนกับหุ้นในหลาย ๆ ประเภท ซึ่งการกระจายความเสี่ยงแบบนี้

สามารถลดความผันผวนของราคาหุ้น และสามารถสร้างกำไรได้ ที่สำคัญคือ ผู้ลงทุนนั้นจะต้องลงทุน โดยการขายหุ้นในช่วงที่มีคนต้องการสูงด้วย เพราะช่วงที่มีคนต้องการสูง จะทำให้ช่วงเวลานั้น มีราคาที่ค่อนข้างที่จะสูง และสามารถสร้างผลกำไรให้มากอีกด้วย

ที่มา: The Top 10 Most Influential Stock Investors and Their Legendary Strategies [3]

เทมเปิลตันให้ความสำคัญ ในความถ่อมตน ในการลงทุนอย่างไร

เซอร์จอห์นได้ให้ความสำคัญ กับความถ่อมตนที่ว่า การมีความถ่อมตน และการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ หรือการเรียนรู้ในสิ่งใหม่อยู่เสมอ เป็นเหมือนกับข้อดีชนิดหนึ่ง ที่ผู้ลงทุนควรจะมี เพราะการอ่อนน้อมถ่อมตน หรือการเป็นน้ำไม่เต็มแก้วอยู่ตลอดเวลานั้น ถือนิสัยดีที่ผู้ลงทุนทุกคนควรมี

ซึ่งในความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น ก็จะทำให้มีเรื่องที่ผู้ลงทุนนั้น เข้าใจถึงศักยภาพของตนเอง และมีการทบทวนตัวเอง หรือมีความรอบคอบในการตัดสินใจ ในการลงทุน และนำการลงทุน ที่ได้ลงทุนไปกลับมาสรุปอีกรอบ ว่าในสิ่งที่ตนได้ลงทุนไปนั้น มีข้อผิดพลาดตรงไหน พร้อมทั้งยังช่วยให้ผู้ลงทุน

มีการคิดหรือไตร่ตรอง ในการลงทุนอีกครั้ง และช่วยลดอคติ หรือความเชื่อมั่นในตัวเองลง ซึ่งการลดความเชื่อมั่นในตัวเองนั้น ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ลงทุนนั้นได้กลับมาสอบถามดูกับตัวเอง เพื่อที่จะได้สามารถลงทุน ได้อย่างมีแบบแผนที่ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการขาดทุนอีกด้วย

ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน กับบทสรุป

ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน

สรุป ลงทุนแบบจอห์น เทมเปิลตัน เป็นการลงทุนในรูปแบบของการลงทุนสวนกระแส หรือการไม่ลงทุนตามความนิยมของตลาด ซึ่งในการลงทุนนั้น ก็จะมีการมองถึงมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้น ๆ และมีความเสี่ยงที่ต่ำลง จากการที่เลือกลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงด้วย

ในมุมมองของเทมเปิลตัน นักลงทุนควรทำอย่างไร เมื่อเกิดความกลัว

ในที่นี้มุมมองของเซอร์จอห์น ที่ได้ให้ไว้กับผู้ลงทุนยุคหลัง คือหลักการที่ว่า จงกลัวในขณะที่คนอื่นโลภ และจงโลภในขณะที่คนอื่นกลัว คือ ในขณะที่ตลาดหุ้นนั้นปรับตัวต่ำลง และราคาลดลง นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรที่จะซื้อหุ้นตัวนั้น ๆ และควรขายในขณะที่คนอื่นมีความต้องการมากที่ขึ้นนั่นเอง

เทมเปิลตันมีวิธีวัดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นอย่างไรบ้าง

เทมเปิลตันมีวิธีวัดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ด้วยการดูจากการประเมินของผู้ลงทุน โดยอาศัยประสบการณ์ และความรู้ ในการดูปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ในหุ้นตัวนั้น ๆ และยังดูที่ความนิยม และการผลิตสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่ต้องการในอนาคต

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง