
ลงทุนแบบ John Bogle บิดาแห่งกองทุนดัชนี
- LittleHydrangea
- 9 views
ลงทุนแบบ John Bogle คือ นักลงทุนที่คิดค้นการลงทุนแบบ Passive Fund ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบของการถือหุ้นในระยะยาว ที่ช่วยทำให้นักลงทุนนั้น สามารถลงทุนกับหุ้น ที่มีการตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แต่ต้องใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน ทำให้ตอบโจทย์นักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
แนวคิดการลงทุนแบบจอห์น ซี. โบเกิล คือ แนวคิดของการลงทุนในรูปแบบของ Passive Fund หรือการสร้างกองทุนเชิงรับ คือการที่ผู้ถือหุ้นสามารถถือหุ้นตัวนั้น ๆ ในระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งแนวคิดการลงทุนแบบการสร้างกองทุนเชิงรับ หรือ Passive Fund นั้น สามารถช่วย
ให้นักลงทุนมือใหม่ สามารถนำวิธีการนี้ ไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการลงทุนรูปแบบนี้ จะสามารถช่วยในการสร้างความมั่นคง ให้กับผู้ลงทุนได้ และยังทำให้การลงทุนนั้น มีความเสี่ยงที่น้อยลง แต่ยังให้กำไรที่ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งแนวคิดของจอห์น โบเกิล ในสายตาของนักลงทุนรายอื่น
ในอดีตนั้น ไม่เป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่ เพราะใช้เวลานาน และในอดีตเน้นการลงทุนแบบ Active Fund หรือการลงทุนในกองทุนแบบเชิงรุกมากกว่า แต่หนึ่งในคนที่คิดว่าลงทุนแบบโบเกิลนั้น คุ้มค่า และสร้างความนิยมให้การลงทุนรูปแบบเชิงรับ ได้แก่ Warren Buffett นั่นเอง
ที่มา: รู้จัก John C. Bogle ‘ฮีโรนักลงทุน’ ของชาวอเมริกัน – Episode 04 [1]
การลงทุนในหุ้นดัชนีนั้น ถือว่าเป็นหุ้น ที่มีไม่มีความซับซ้อนมากนัก จึงทำให้เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการจะศึกษาการลงทุน ซึ่งในการลงทุนในหุ้นดัชนี ของคุณจอห์นนั้น มักจะแนะนำให้ลงทุน ในรูปแบบของการลงทุนดัชนี ในระยะยาว เพราะเขาเชื่อว่าการลงทุนในระยะยาว จะทำให้ความเสี่ยงต่ำ
และช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของความผันผวนของตลาดหุ้น ที่มักมีความผันผวนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การลงทุนรูปแบบนี้ ก็ยังเหมือนกับทฤษฎีการ ลงทุนแบบ Warren Buffett อีกด้วย เพราะ Warren Buffett ก็มีความเชื่อว่า การลงทุนในหุ้นดัชนี แบบระยะยาว
จะทำให้ผู้ลงทุนนั้น มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง และทำให้สามารถกระจายความเสี่ยง ในการลงทุนได้ โดยการลงทุนหลาย ๆ กองทุน อีกทั้งยังสามารถทำให้ได้กำไร ที่ใกล้เคียงกับราคาในตลาดมากที่สุด นี่จึงถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ที่จอห์น โบเกิลนั้นได้แนะนำให้กับผู้ลงทุนหน้าใหม่
ที่มา: รวมคำแนะนำเกี่ยวกับ กองทุนดัชนี [2]
การลดต้นทุนในการลงทุน ในรูปแบบการลงทุนระยะยาวแบบจอห์นนั้น มีวิธีการ และวิธีคิดที่เรียบง่าย และสามารถเข้าใจได้ง่าย คือ การที่ผู้ลงทุนนั้น นำเงินไปลงทุนกับหุ้นดัชนี ที่มีค่าต้นทุนที่ต่ำ และประกอบกับการถือหุ้นตัวนั้นไว้ ในระยะยาว เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถลดต้นทุนในการลงทุนได้
โดยการลดต้นทุน ในการซื้อขายหุ้นที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ที่จะต้องเสียในการลงทุน หรือค่าธรรมเนียม ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน ซึ่งจากหลักการนี้ จะพบว่าการถือหุ้นในระยะยาวนั้น จะช่วยลดความเสี่ยง ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
อีกทั้งยังช่วยในการกระจายความเสี่ยง โดยสามารถนำเงินที่เหลือ จากการลงทุนตัวแรก มาลงทุนกับหุ้นตัวอื่น ที่มีผลอัตราการตอบแทน ในกำไรที่สม่ำเสมอ และมีความมั่นคงที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ตามแบบความคิดของจอห์น โบเกิลนั่นเอง
ที่มา: 5 Pieces of Advice From John Bogle [3]
เหตุผลที่จอห์น โบเกิลไม่แนะนำให้ลงทุนบ่อย ๆ เพราะการลงทุนที่บ่อยครั้งนั้น จะมีเรื่องของค่าธรรมเนียมในการลงทุน หรือค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขายเกิดขึ้น ทำให้เมื่อมีการซื้อ-ขายจำนวนมาก ก็จะสูญเสียเงินในส่วนของค่าธรรมเนียมไปด้วย จึงเกิดความฟุ่มเฟือย
อีกทั้งการลงทุนบ่อย ยังทำให้ผู้ลงทุนนั้นเกิดความวิตกกังวล และเกิดความสับสน ทำให้อยากดูพอร์ตหุ้นอยู่บ่อยครั้ง จึงมักจะส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ลงทุน ซึ่งมีผลต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะการที่ผู้ลงทุนนั้นขาดสมาธิ หรือขาดความแน่วแน่ จะทำให้การลงทุนนั้นมีความคลาดเคลื่อน
ทำให้ขาดโอกาส ในการลงทุนในระยะยาว เพราะการลงทุนในระยะสั้นนั้น มักจะทำให้เสียโอกาส ในการลงทุน ในหุ้นที่มีโอกาส ในการทำกำไร ในระยะยาวได้มากกว่า และยังมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า การลงทุนระยะสั้นนั่นเอง
ในรูปแบบการลงทุนของจอห์น โบเกิลมีข้อดีอยู่ ที่การถือหุ้นในระยะยาว จะสามารถช่วยลดความเสี่ยง ในเรื่องของความผันผวนของตลาด ที่มีความขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผลกำไรที่จะได้นั้นมีค่าที่แน่นอน และมีโอกาสในการสร้างผลกำไร ได้มากกว่าการลงทุนระยะสั้น
ทั้งยังช่วยลดค่าธรรมเนียม ในการซื้อ-ขายหุ้น หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ในการลงทุน และมีวิธีการลงทุนที่ง่าย และมีความคล่องตัว ที่มากกว่าอีกด้วย การลงทุนในระยะยาว จึงเหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ ที่กำลังคิดจะมาลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะมือใหม่ ที่มีความสนใจที่จะลงทุนกับสินทรัพย์ หรือกองทุนรวมดัชนี
โดยวิธีการนี้จะช่วยทำให้ลดความสับสน ของผู้ลงทุนว่าควรขายเมื่อไหร่ หรือขายตอนไหน ทำให้การวางแผนการลงทุนนั้น มีประสิทธิภาพ และมีผลกำไรที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น
ตามหลักแนวคิดของโบเกิล ควรวางแผนการกระจายความเสี่ยง โดยวิธีการลงทุน ในกองทุนดัชนี ที่มีมูลค่าที่ต่ำ ซึ่งจะทำให้เหลือเงินทุน ในการจะไปลงทุน กับกองทุนรวม หรือหุ้นดัชนีตัวอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เป็นการกระจายความเสี่ยงได้ โดยที่ไม่ต้องนำเงินไปกอง กับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ
และยังสามารถการกระจายความเสี่ยงได้ โดยการซื้อหุ้นเพิ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยงได้อีกด้วย ซึ่งการลงทุนในระยะยาว ตามแนวคิดของโบเกิลนั้น สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี เพราะวิธีนี้สามารถช่วยลดผลกระทบ ที่มักจะเกิดจากความผันผวนของตลาด และสามารถหลีกเลี่ยงการซื้อขายมากจนเกินไป
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดค่าธรรมเนียม ในการซื้อ-ขาย ที่มากขึ้น ทั้งนี้ยังทำให้ผู้ลงทุนนั้นมีทุน เพื่อเป็นเงินสำรอง ในสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นอีกด้วย
สรุป การลงทุนแบบ John Bogle เป็นการลงทุนในรูปแบบที่เรียบง่าย และมีความเสี่ยงที่น้อย แต่มีกำไรที่สม่ำเสมอ และมั่นคง ด้วยหลักการ Passive Fund ซึ่งเป็นการซื้อหุ้น และถือไว้ในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมือใหม่ มีความเข้าใจ และลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ดีอีกด้วย
กองทุนดัชนีตามแนวคิดของโบเกิล มีความแตกต่างจากกองทุนทั่วไป คือ กองทุนดัชนีของโบเกิลนั้น จะเป็นกองทุนดัชนีที่เป็นแนวทางแบบกองทุนเชิงรับ ซึ่งสามารถถือระยะยาวได้ และยังมีผลกำไรที่แน่นอน และใกล้เคียงกับตลาด แต่กองทุนอื่น ๆ จะเป็นกองทุนเชิงรุก ที่จะเน้นการลงทุน ในระยะสั้นมากกว่า
กองทุนของโบเกิล จะเป็นกองทุนที่เป็นแนวทางแบบกองทุนเชิงรับ โดยที่มีมูลค่าที่ต่ำ และเน้นการถือหุ้น ในระยะยาว และปล่อยให้หุ้นโตเอง จะแตกต่างจากบัฟเฟตต์ ตรงที่ แม้บัฟเฟตต์จะเน้นเป็นการลงทุน ระยะยาว แต่จะเน้นแบบที่เป็นกองทุนเชิงรุก โดยเลือกการมองในมูลค่าที่แท้จรืงของหุ้น