ลงทุนแบบ Warren Buffett ลงทุนยังไง ให้ประสบความสำเร็จ

ลงทุนแบบ Warren Buffett

ลงทุนแบบ Warren Buffett นักลงทุนผู้ได้ชื่อว่ารวยเป็นอันดับ 1 ของโลก เมื่อปี 2008 ณ ปัจจุบัน ก็ยังสามารถรักษามาตรฐาน ด้วยความรวยเป็นอันดับ ติดท็อป 5 ของโลก นักลงทุนผู้ซึ่งเป็นครู ของใครหลาย ๆ คน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ลงทุนในกลยุทธ์ แบบเน้นคุณค่า

  • แนะนำแนวคิดการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • นำเสนอกลยุทธ์การลงทุนแบบบัฟเฟตต์
  • เคล็ดไม่ลับของการลงทุนของบัฟเฟตต์

แนวคิดการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คืออะไร

วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือชายที่ใครหลาย ๆ คน รู้จักในฐานะเศรษฐีระดับท็อป 5 ของโลก ที่เคยขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดมาแล้ว เมื่อปี 2008 เขาเป็นนักลงทุนที่ มีกลยุทธ์ในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) กล่าวคือ เขาจะลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท ที่มีราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้น ๆ

เพราะเขาเชื่อว่าตลาดหุ้นนั้น มักจะมีความผันผวนตลอดเวลา ซึ่งอาจจะมีการผันผวนเล็กน้อยในระยะสั้น แต่ในระยะยาว ราคาของหุ้นนั้นจะแสดงมูลค่าที่แท้จริงออกมา และเขายังมักจะถือหุ้น ในบริษัทต่าง ๆ ที่เขาเชื่อมั่นในระยะยาว นานเป็นทศวรรษ นอกจากนี้เขายังมักจะบริหารความเสี่ยง

โดยการเก็บเงินสดสำรองไว้ เพื่อรับมือในเรื่องที่ไม่คาดคิด และยังเน้น การลงทุน แบบกระจายความเสี่ยง ในหลายอุตสาหกรรม มากกว่าการฝากความหวังไว้กับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งอีกด้วย ซึ่งหุ้นที่ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐี ติดระดับโลกได้แก่ Coca-Cola, American Express, GEICO และ Apple นั่นเอง

ที่มา: Warren Buffett ชายที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในโลกจากการลงทุนหุ้น [1]

กลยุทธ์การลงทุนแบบคุณบัฟเฟตต์ ที่เป็นตำนาน

สำหรับแก่นแท้ ในกลยุทธ์ของคุณบัฟเฟตต์นั้น เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ซับซ้อนเลย เพราะความคิดของเขา คือเขาซื้อหุ้น ที่ไม่ได้แปลว่าหุ้น แต่เขาซื้อหุ้น เพื่อเป็นเหมือนการเป็นเจ้าของธุรกิจ คือเขาจะคิดว่า การจะซื้อหุ้นสักตัว ถ้าเขาเป็นบริษัท หุ้น หรือบริษัทที่เขาซื้อไปนั้น จะทำกำไรได้มากหรือไม่

จะให้ผลตอบแทนที่ดีหรือไม่ และนอกจากนี้เขาจะเน้นดูบริษัท ที่จะมีมูลค่าระยะยาว คือบริษัทนั้น ๆ ที่เขามีหุ้น เขาจะถือครองยาว และคิดเสมอว่าบริษัทนั้น ๆ จะสร้างผลตอบแทนที่มาก หรือน้อยแค่ไหนในอนาคต โดยใช้การประเมินมูลค่าบริษัท และวิเคราะห์กระแสเงินสด และมักจะซื้อในตอนที่มูลค่า

ต่ำกว่ามูลค่าจริง และจะทนต่อความผันผวนของราคา เพื่อรอคอยความสำเร็จ ในระยะยาว ที่สำคัญ เขามักจะหาบริษัท ที่มีคู่แข่งทางการค้า แต่ยังสามารถได้เปรียบ และเอาชนะคู่แข่งทางเศรษฐกิจได้ อาทิเช่น Coca-Cola และ Apple นั่นเอง

ที่มา: How to Invest Like Warren Buffett [2]

กลยุทธ์และแนวคิดการลงทุน ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่น่าจับตา

  1. การมองหุ้นให้เป็นธุรกิจ คือมองว่าเรา ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักลงทุน แต่มองว่าเรา เป็นเจ้าของร่วม กับธุรกิจนั้น ๆ
  2. การเพิ่มการลงทุน คือเพิ่มการลงทุน แบบการกระจายความเสี่ยง แต่ก็ไม่ควรกระจายความเสี่ยง ที่มากเกินไป เพราะก็ทำให้เกิดความเสี่ยง ได้เช่นกัน
  3. การลดการหมุนเวียนของพอร์ต โดยการถือหุ้นในระยะยาว เพื่อลดอัตราการหมุนเวียนในพอร์ต ซึ่งจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย หรือค่าดูแลก็จะน้อยลงเช่นกัน
  4. การมีมาตรฐาน ในการเลือกหุ้น คืออย่างบัฟเฟตต์ มักจะเลือกลงทุน ในหุ้นที่มีพื้นฐาน ของธุรกิจน่าสนใจ ซึ่งเขาจะไม่ได้ให้กำไร หรือมาตรฐานการดูหุ้น เป็นไปตามราคาของหุ้น ณ ตอนนั้น ๆ แต่เขาจะใช้การวิเคราะห์ และพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับแทน
  5. การคิดแบบความน่าจะเป็น คือการลงทุน ควรเน้นที่ตัวของบริษัท และชั่งน้ำหนักถึงพื้นฐาน อัตราการเติบโต และความน่าจะเป็น ของกำไรที่จะได้ ในอนาคต
  6. การเข้าใจในเกมจิตวิทยา คือนักลงทุน หรือนักธุรกิจนั้น จะต้องรู้และเข้าใจ และมีการจัดการกับอารมณ์ เพราะอารมณ์นั้น ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ ของพวกนักลงทุนเลยก็ว่าได้
  7. การไม่สนใจการคาดการณ์ ในการตลาดของคนอื่น แต่สนใจในข้อมูลที่ตนเองศึกษาและได้รับมา และค่อยตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่
  8. การรอสนามเต็ม คือผู้ลงทุน ควรคิดเสมอว่า การที่เราจะซื้อหุ้น แต่ถ้ามีเพียง 20 ตัว ที่จะลงทุนได้ คุณจะลงทุนอะไรบ้าง และเราค่อยเริ่มลงทุน ในหุ้นที่ได้ทำการศึกษา และสนใจเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: 8 Ways to Think Like Warren Buffett [3]

ลงทุนแบบเคล็ดไม่ลับ ของบัฟเฟตต์ ลงทุนยังไง

ลงทุนแบบ Warren Buffett

การประชุมผู้ถือหุ้น ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาได้เปิดเผยถึงความลับ ของความสำเร็จ ที่ทำให้เขาได้เข้าใกล้ความสำเร็จ และมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ในทุก ๆ ปี เพราะว่าเขานั้น มีกฎ 1 ข้อ ที่สำคัญ นั่นคือ “อย่าขาดทุน” และนี่คือ 4 คำถาม ที่คุณควรไว้ใช้ถามตัวเอง เมื่อคุณจะลงทุน

  1. คุณรู้และเข้าใจ ในธุรกิจนั้น ๆ ดีพอแล้วหรือยัง ซึ่งก็คือ ถ้าคุณจะซื้อหุ้น คุณต้องดูว่า คุณนั้นสามารถ ถือหุ้นนั้น เป็นเวลา 10 ปีได้หรือไม่
  2. ธุรกิจที่คุณสนใจ มีความยั่งยืน และมีความได้เปรียบในคู่แข่งหรือไม่ ตัวอย่างเช่นแบรนด์ทรงอิทธิพลอย่าง Coca-Cola เป็นต้น ที่เป็นแบรนด์ที่มีความยั่งยืน น่าเชื่อถือ และมีคู่แข่งที่หลากหลาย
  3. ผู้บริหาร ในบริษัทนั้น ๆ มีคุณธรรม และความสามารถหรือไม่ เพราะว่าเรานั้นจะไม่สามารถทำข้อตกลงที่ดี กับผู้บริหารที่ไม่ดีได้
  4. ราคาที่จะซื้อ นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ คือคุณต้องมองหาบริษัท ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง แต่ก็ต้องเป็นบริษัท ที่เติบโตได้ดี และมีรายได้สม่ำเสมอ

ข้อควรระวังในการวิเคราะห์หุ้น แบบบัฟเฟตต์ มีอะไรบ้าง

ต้องบอกว่า แม้ว่าการวิเคราะห์หุ้น แบบบัฟเฟตต์ จะมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อที่ควรระวังด้วยเช่นกัน คือ การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ที่ถ้าจะทำจริง ๆ นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก และขึ้นอยู่กับหลายสมมติฐาน และนอกจากนี้การที่ยึดติดกับบริษัทใด บริษัทหนึ่งมากเกินไป ยังเป็นการพลาดโอกาส

ในการกระจายความเสี่ยง และถึงแม้ว่าการกระจายความเสี่ยงจะสำคัญ หากมีการกระจายความเสี่ยงที่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้พลาดโอกาส ที่จะได้กำไรที่สูงขึ้นเช่นกัน อีกทั้งยังต้องมีการปรับตัวให้ทัน กับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และเทคโนโลยีอีกด้วย

วิธีการเลือกธุรกิจที่มี Economic Moat คือ

การเลือกบริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง พื้นฐานที่ดี สามารถผลิตสินค้า และบริการ ได้ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ทั้งยังมีมูลค่า ที่สามารถเพิ่มขึ้นได้ ในอนาคต นอกจากนี้ยังต้องเป็นแรนด์ ที่ลูกค้าอาจจะต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเลือกไปใช้บริการของคู่แข่ง เช่น Coca-Cola ที่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีผู้บริโภคสูงอีกด้วย

ลงทุนแบบ Warren Buffett กับบทสรุป

ลงทุนแบบ Warren Buffett

สรุป ในการลงทุนแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ลงทุนจะต้องลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นสำคัญ เพราะการลงทุนแบบบัฟเฟตต์ มักจะเป็นการลงทุน ที่ดูที่ตัวบริษัท และดูที่ตัวของสินค้า คู่แข่งทางการตลาด และยังดูที่ผู้บริหารเป็นหลักอีกด้วย

กฎการลงทุนของบัฟเฟตต์มีอะไรบ้าง ที่เป็นกฎหลัก

กฎหลักของบัฟเฟตต์ มีอยู่ 5 ข้อ ด้วยกัน คือ 1.การลงทุนแบบระยะยาว 2.การเข้าซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริง 3. การถือหุ้นตราบเท่าที่มูลค่าของธุรกิจยังดีเยี่ยม 4. การมองหาข้อเสนอที่น่าสนใจ เมื่อนักลงทุน คนอื่นเทขาย 5. การอย่ากลัว หากแผนการลงทุนในรอบแรกนั้นผิดพลาด

บัฟเฟตต์มีแนวคิด ในการใช้ชีวิตอย่างไร

บัฟเฟตต์นั้นมีแนวคิดในการใช้ชีวิต แบบเรียบง่าย ชัดเจน มีสติ และอดทน โดยเขามักจะสอนว่า การลงทุน ก็เหมือนกับการใช้ชีวิต ที่ต้องศึกษาข้อมูลจากคนอื่นก่อน และค่อยตัดสินใจกระทำสิ่งนั้น ๆ ด้วยตนเอง แต่ก็อย่าลืมที่จะอดทน ต่อความผันผวนระยะสั้น เพื่อผลกำไรในระยะยาวอีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง