ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน กับวิธีการเป็นชาวสวน ที่มีกำไร

ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน

ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน เป็นการลงทุน ในรูปแบบ ที่สวนทาง กับกระแสการลงทุน ในตอนนั้น หมายถึง การที่ผู้ลงทุน ทำการลงทุนซื้อหุ้น ในช่วงที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ เลือกที่จะขาย และจะขายหุ้นที่ถืออยู่ ในช่วงที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ เลือกที่จะซื้อ เพื่อหวังผลกำไร ที่มากกว่าที่คนส่วนใหญ่ซื้อ

  • ชี้แนวการลงทุนหุ้นแบบชาวสวน ให้ประสบผลสำเร็จ
  • แนะนำการลงทุนแบบชาวสวน
  • แนวคิดในการลงทุนแบบชาวสวนให้ประสบความสำเร็จ

หลักการของการลงทุนหุ้น แบบชาวสวน

ต้องบอกว่าการลงทุนแบบชาวสวน เป็นหลักการในการลงทุนชนิดหนึ่ง ที่นักลงทุนมือฉมังหลาย ๆ คน ใช้เป็นกลยุทธ์ ในการตัดสินใจตรงข้าม กับคนส่วนมากที่ลงทุน ในตลาดช่วงนั้น ๆ เรียกได้ว่าเป็นการกอบโกยโอกาส ในการเติบโตของหุ้นนั้น ๆ ที่มีราคาต่ำลง ในช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่

ไม่ได้ให้ความสนใจหุ้นตัวนั้น ๆ หรืออาจจะเทขายหุ้นตัวนั้น ๆ เมื่อราคาต่ำลง เพราะชาวสวนมักจะทยอยซื้อหุ้น ที่ไม่ได้รับความสนใจ และทำการรอเวลา ที่หุ้นนั้น ๆ จะได้กลับมามีราคาอีกครั้ง ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นการลงทุน และรอกอบโกยผลกำไร โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากนั่นเอง

แต่ในการลงทุนแบบชาวสวนนั้น ก็มีความเสี่ยงที่ตามมาอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน โดยที่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเป็นเรื่องของราคา ที่อาจจะลดต่ำลงมากกว่าตอนที่ซื้อ ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดขึ้นในการลงทุน กับหุ้นที่สวนกระแสแบบนี้ จึงทำให้วิธีนี้ไม่นิยม สำหรับมือใหม่มากนัก

ที่มา: 7 สไตล์การลงทุน แบบไหนเหมาะกับตัวคุณ [1]

เคล็ด(ไม่)ลับกับวิธีในการเป็นชาวสวนอย่างไรให้สำเร็จ

สำหรับผู้ที่อยากจะเป็นชาวสวน อย่างแรกชาวสวนต้องกล้า ที่จะซื้อหุ้น ณ ตอนที่ผู้อื่นกำลังขาย โดยที่ไม่เดินตามทาง ของคนกลุ่มใหญ่ เพราะการไม่ทำตามกลุ่มคนส่วนใหญ่ จะทำให้เราสามารถมองเห็น ในสิ่งที่แตกต่างกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งถึงแม้ว่าการที่เราไม่ทำตามคนอื่น ๆ จะมีผลเสีย ในเรื่องของความปลอดภัย

แต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องสามารถแบกรับได้ เพราะเมื่อคิดที่จะสวนทางกับคนกลุ่มใหญ่ นั่นแปลว่า เรานั้นมีการเข้าถึงข้อมูล ที่มากกว่าคนอื่น ๆ ทั้งในเรื่องของความรู้ หรือเรื่องของประสบการณ์ จากการทำสิ่งต่าง ๆ การที่นักลงทุน แบบชาวสวนส่วนใหญ่ กล้าที่จะซื้อหุ้น เพื่อรอเก็งกำไรแล้ว

สิ่งที่ต้องมีอีกสิ่งคือ ความอดทน ในด้านของการลงทุนประเภทนี้ ความอดทนจะเปรียบเสมือนกับการรอจังหวะต่าง ๆ หรือรอสถานการณ์ที่พอเหมาะ ในการจะกอบโกยโอกาส เพื่อสร้างผลกำไร ความอดทน ในการรอเวลา จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญ ของชาวสวนนั่นเอง

ในตอนนี้ มีหุ้นตัวไหน ที่ไม่มีคนสนใจ แต่ยังมีพื้นฐานที่น่าลงทุนอยู่

สำหรับกระแสปัจจุบัน มีหุ้นเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่มีพื้นฐานที่น่าลงทุน เพราะเรียกได้ว่า ในปัจจุบัน นักลงทุนส่วนมาก นิยมที่จะลงทุน แบบชาวสวนเป็นส่วนใหญ่ จึงเรียกได้ว่า แม้จะไม่ค่อยมีคนให้ความนิยมมากนัก แต่ก็มีนักลงทุน แบบชาวสวนสนใจอยู่มากเช่นกัน

และจากการติดตามสถานการณ์ ของหุ้นในประเทศ พบว่ามีหุ้นที่ ปรับราคาลดลง จากปัจจัยลบชั่วคราว แต่ก็ยังมีพื้นฐานที่ดี ซึ่งหุ้นตัวนั้น คือ หุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานเชื้อเพลิง (PTT) และหุ้นที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ของประเทศนั่นเอง ถึงแม้ว่าหุ้นพลังงานเชื้อเพลิง จะมีราคาที่ลดตัวลงมากกว่าในอดีต

แต่จากราคาของน้ำมัน ที่เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการคมนาคม ตัวธุรกิจนั้น ๆ จึงถือว่ามีพื้นฐานที่ดี เพราะว่าเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อทุก ๆ ประเทศ จึงทำให้เป็นธุรกิจที่ขาดไม่ได้ ซึ่งกล่าวได้ว่าหุ้นในพลังงานเชื้อเพลิง ยังมีความมั่นคง มีพื้นฐานที่ดี และน่าลงทุนอยู่เสมอนั่นเอง

ปัจจัยใดที่ชาวสวน ควรถือหุ้น และไม่ขายตามกระแส

ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน

เมื่อพูดถึงปัจจัยที่จะช่วยชาวสวน ในการประกอบการตัดสินใจ ว่าจะถือหุ้นตัวนั้นเอาไว้ต่อ หรือควรขายตามกระแสนั้น มีปัจจัยอยู่ไม่กี่ข้อ ได้แก่ 1. ศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้น ๆ ที่ถือหุ้นอยู่ว่า บริษัทนั้น ๆ แข็งแรงหรือไม่ และศึกษาถึงเหตุผล หรือเหตุการณ์ ที่ทำให้ราคาของหุ้นตก

เพราะการศึกษาพื้นฐาน ของบริษัทนั้น ๆ จะทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า บริษัทนั้น ๆ มีพื้นฐานทางด้านการเงินที่ดี และมีแนวโน้มในการเติบโตที่ยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งเมื่อมองเห็นโอกาสในอนาคต หรือโอกาสในการเติบโต ในตลาดอื่น ๆ หรือการขยายตลาดในอนาคต ก็ควรที่จะถือไว้ และช้อนซื้อเพิ่ม

เพราะข้อมูลที่เราได้รับ จะทำให้เรามีความเชื่อมั่นในบริษัทสูง และทำให้เราเลือกที่จะลงทุน และวางใจกับบริษัท หรือตัวของผู้บริหารของบริษัทนั้น ซึ่งก่อนจะซื้อหุ้น ควรมีการศึกษาข้อมูลของบริษัทอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องการจัดแจง เรื่องของการเงิน และการแสดงหลักฐานทางด้านการเงินอย่างชัดเจน

ที่มา: บริษัทซื้อหุ้นคืน ทำไมนักลงทุนต้องสนใจ [2]

หุ้นที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่คาดว่าสามารถสร้างรายได้ ได้แบบเงียบ ๆ

สำหรับหุ้นที่เติบโตอยู่อย่างเงียบ ๆ มักจะไม่ใช่หุ้นที่อยู่ ในกระแสหลัก ซึ่งอาจจะเป็นหุ้นที่ค่อย ๆ เติบโต และให้ผลกำไรอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ดังตัวอย่าง เช่น หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค หุ้นในกลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม และหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

สำหรับหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค จะเป็นหุ้นในกลุ่มที่มีความมั่นคง ค่อนข้างสูง เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้ และมีความต้องการในครัวเรือนสูง เช่น น้ำ ไฟฟ้า และแก๊ส เป็นต้น ถึงแม้หุ้นตัวนี้ จะไม่ได้มีการเติบโตที่หวือหวา แต่ก็เรียกได้ว่าแลกมากับความมั่นคง ในรายได้ และมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต

ชาวสวนส่วนใหญ่ มักจะได้กำไร ในการซื้อ และขายหุ้นเท่าไหร่

ต้องบอกก่อนว่าการซื้อหุ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจ ในหุ้นตัวนั้น ถือได้ว่าเป็นข้อดี ที่ทำให้ผู้ลงทุน ในรูปแบบชาวสวนนั้น สามารถซื้อหุ้นได้ในจำนวนมาก ในราคาที่ต่ำกว่าปกติ แต่การขายหุ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังซื้อ ก็ขึ้นอยู่กับความนิยม ของหุ้นตัวนั้น ซึ่งไม่สามารถทราบกำไรที่แน่ชัดได้

เพราะว่าค่าของหุ้นนั้น มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา แต่ในด้านของปัจจัย ที่ทำให้เกิดกำไรนั้น สามารถระบุได้ เพื่อเป็นแนวทาง ในการประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่จะลงทุนซื้อหุ้น ที่คนส่วนใหญ่ไม่ซื้อ หรือไม่นิยมกันในขณะนั้น อย่างแรกต้องตรวจสอบ ว่าหุ้นที่ได้ถืออยู่ มีพื้นฐานที่แข็งแรง หรือไม่

และทำการกระจายความเสี่ยง ว่าหุ้นที่ลงทุน มีการกระจุกตัว อยู่ในกลุ่มเดียวกันไหม ซึ่งมูลค่าพื้นฐานของหุ้น ที่มีพื้นฐานดี มักจะเป็นหุ้นที่พร้อมจะเติบโต และรอการกลับมาอยู่เสมอ แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลา ในการถือครอง และค่อยขาย ในเวลาที่เหมาะสม

ที่มา: แก้พอร์ตหุ้นติดลบ ทำยังไงให้ไม่ติดดอย [3]

ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน กับบทสรุป

ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน

สรุป ลงทุนในหุ้น แบบชาวสวน เป็นการลงทุนซื้อหุ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ ไม่มีความสนใจที่จะซื้อหุ้นตัวนั้น และเก็บหุ้นตัวนั้นไว้ เพื่อเก็งกำไร และขายออก ในขณะที่คนส่วนใหญ่นั้น หันกลับมาสนใจ ซึ่งการลงทุน ในรูปแบบนี้ เหมาะกับนักลงทุน ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เท่านั้น

ความเสี่ยงในการลงทุน ในหุ้น ในรูปแบบชาวสวน เป็นยังไง

สำหรับ การลงทุน ในหุ้น แบบชาวสวนนั้น จะมีความเสี่ยงอยู่หลายรูปแบบ เช่น ความเสี่ยงในเรื่องของสภาพคล่อง ทางด้านการเงิน ความเสี่ยง ในระยะเวลา ในการถือครองหุ้น ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความเสี่ยงจากเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด ที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างการถือหุ้น หรือการล้มของแพลตฟอร์มได้

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ เลือกที่จะขายหุ้น แทนที่จะเก็บ เป็นเพราะอะไร

เพราะว่าคนส่วนใหญ่ มักจะเลือก ที่จะทำตามกระแส หรือกลไกของตลาด ที่มักจะมีความผันผวนเป็นอย่างมาก และคนส่วนใหญ่ ยังมักจะมีความกลัว ที่จะขาดทุน หรือกลัวที่จะได้กำไรน้อย จึงทำให้นักลงทุนบางคน ต้องรีบขายหุ้นที่ตัวเองถือมานานนั่นเอง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง