
เรื่องที่ต้องรู้ ลงทุน กับการออม แบบไหนดีกว่ากัน
- LittleHydrangea
- 31 views
ลงทุน กับการออม ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน หรือว่าการออม ทั้ง 2 อย่าง นั้นดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าแนะนำ ขอแนะนำ เป็นการออม เพื่อลงทุน เพราะนอกจากจะสามารถมีเงินออม เพื่อใช้ในอนาคตแล้ว หากลงทุนไปด้วย ก็จะกลายเป็นเสือนอนกิน ได้เลยทีเดียว
ลงทุน กับการออม การลงทุน คือ การนำเงินของจนเอง ที่มาจากการออม นำไปซื้อหุ้น พันธบัตร หรือ กองทุนต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์ ให้เงินที่ลงทุนไป งอกเงยขึ้นมา และได้รับผลตอบแทน ที่มากกว่าการออม ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับ จะออกมาในรูปของดอกเบี้ย เงินปันผล และกำไร ในระยะยาว
การออม คือ การนำเงินของตนเอง ที่ได้จากการทำงาน และการเก็บสะสม ไปฝากในสถาบันทางการเงิน เป็นเงินที่สามารถใช้จ่าย ในชีวิตประจำวัน หรือสามารถถอนออกมาใช้ ได้ทันที หากฝากแบบฝากประจำ ตามที่สถาบันทางการเงินกำหนด ก็จะได้รับผลตอบแทน เป็นดอกเบี้ย
ซึ่งความแตกต่างของการลงทุน กับ การออมนั้น จะมีจุดแตกต่างกันตรงที่ การลงทุน จะเป็นการที่นำเงินไปลงทุนซื้อกองทุน หุ้น หรือ พันธบัตรรัฐบาล เพื่อเกร็งกำไร และขายเมื่อราคาขึ้น ซึ่งมีโอกาส ที่จะขาดทุน และไม่สามารถรักษาเงินทุนไว้ได้ ส่วนการออม เป็นเพียง การเก็บเงินสะสม ออมไว้เพื่อกินดอกเบี้ย เพียงเท่านั้น
ที่มา: การออมกับการลงทุน [1]
ในอดีตหากเรามีรายได้ จากการทำงาน ที่เหลือจากการใช้จ่าย คนส่วนมาก คงจะออมก่อน เก็บเงินไปฝากธนาคาร เพื่อกินดอกเบี้ย แต่ในปัจจุบัน เราสามารถลงทุนได้ง่าย ๆ แม้ว่าจะอยู่ที่บ้าน แล้วเงินเก็บ นำไปออมก่อน หรือลงทุนก่อนดีละถ้ามีเงินเก็บมากพอ ที่เพียงพอ ที่จะต่อยอด
และสามารถเป็นเงินเย็น ที่สามารถนำไปลงทุน เพื่อทำให้เงินนั้นงอกเงยได้ ขอแนะนำว่า การนำเงินออมมาลงทุน เพื่อให้เงินงอกเงย และเพิ่มทรัพย์ให้เรา จะเหมาะสมกว่า การออมเพียงอย่างเดียว เพราะในปัจจุบัน ที่มีอัตราเงินเฟ้อ ที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้ค่าเงิน ที่เราออมไว้
มีค่าเงินที่ลดลง แต่ในทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง หากยังศึกษาไม่ดี และยังไม่ รู้จัก การลงทุน ไม่แน่ใจว่าควรลงทุนแบบไหน หรือลงทุนใน ประเภท การลงทุน ใด อาจจะต้องมีการศึกษา หาข้อมูล และค่อยเริ่มลงทุน เพื่อให้ตนเองนั้น สามารถได้กำไร จากการลงทุน
ต้องบอกก่อนว่า จุดประสงค์หลักของการออม คือ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ ในอนาคต ความสำคัญของการออมส่วนใหญ่ จึงเป็นการรักษาความปลอดภัยของเงินต้น และรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
ส่วนการลงทุนนั้น มีจุดประสงค์หลัก คือ ลงทุน เพื่อทำให้เงินเพิ่ม และการลงทุน นั้นให้ผลตอบแทน เป็นเงินปันผล และหากลงทุน ในราคาต่ำ เมื่อขายออก ก็จะได้กำไร เป็นผลตอบแทน ในส่วนต่างของเงิน ที่เราได้ถือนั่นเอง
ที่มา: แนวคิดของ 3 สุดยอดนักลงทุน [2]
สำหรับผู้ที่อยาก เริ่มต้นการออม เพื่อเก็บไว้ลงทุน ปัจจุบัน ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงที่สุด คือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ (LH Bank) ที่ให้อัตราดอกเบี้ย สูงถึง 5.55% ต่อปี ซึ่งเบี้ยเริ่มต้น จะอยู่ที่ 0.25% ต่อปี แต่หากฝากเงินเกิน 1 ล้าน 9 แสนบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้าน จะได้รับดอกเบี้ย อยู่ที่ 5.55% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMB Thai) ที่ให้อัตราดอกเบี้ย สูงถึง 2.70% ต่อปี ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP Savvy) ได้รับดอกเบี้ย 1.80% ต่อปี ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกรุงไทย (Krungthai) ธนาคารกรุงศรี (Krungsri) และธนาคารกสิกรไทย (KBank) ได้รับดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี
แต่อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับนั้น จะไม่ได้ ได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์ สูงดังที่กล่าวขั้นต้นตลอด หรือทันที แต่จะได้รับเป็นขั้นบันได หรือแล้วแต่ที่ทางธนาคารกำหนด ในแต่ละปี
ที่มา: ฝากเงินให้คุ้ม รวม 8 บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 2568 [3]
ต้องบอกเลยว่า แม้จะเงินเดือนน้อย หรือใช้เดือนชนเดือน ก็สามารถออมได้ เพราะการออม ไม่ได้เป็นเรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว แต่การออมนั้น เป็นเรื่องของวินัยอีกด้วย หากออมที่ละน้อย แต่ออมบ่อย ๆ ก็สามารถนำเงินออม มาเป็นเงินลงทุน ในอนาคตได้
ซึ่งสูตรที่ใช้ ในการออมเงิน คือ เงินเดือน – เงินออม = ค่าใช้จ่าย เมื่อเราตั้งใจว่า จะเก็บเงิน ให้ได้ 10-20% ของรายได้ เราควรนำเงินเดือน และหักกับเงินออมก่อน จึงจะนำเงินนั้น มาเป็นค่าใช้จ่าย เท่านี้ แม้ว่าเงินเดือนจะน้อย เราก็สามารถออม และมีเงินเก็บ เพื่อการลงทุน ได้เช่นกัน
บัญชีออมและบัญชีใช้ ควรแยกกัน เพราะการแยกบัญชีกัน จะช่วยทำให้เรารู้รายรับ และรายจ่ายได้ง่าย ทำให้เราไม่สับสนถึงที่มาของเงินหรือ รายจ่ายต่าง ๆ โดยที่ไม่ต้องมานั่งจำ และ วางแผนการเก็บเงิน และใช้เงินได้อย่างมี สติ และเห็นภาพ
สรุป ลงทุน กับการออม การลงทุน และการออมนั้น คือ การนำเงินที่ได้ จากการทำงาน มาเก็บสะสม เพื่อใช้จ่ายในอนาคต หรือใช้จ่ายยามฉุกเฉิน แต่การลงทุนนั้น มีความเสี่ยง เพราะหากลงทุนไม่ดี อาจจะทำให้สูญเสียเงินต้นได้ เพราะฉะนั้นหากจะออม และนำเงินออม มาลงทุน ควรศึกษาข้อมูล และความเสี่ยงก่อนเสมอ
การเข้าใจถึงหลักการออมเงิน ทำให้เราวางแผนการเงินของเรา ในช่วงสุดท้ายของชีวิตได้ เพราะการออมเงินก่อน ทำให้เรามีต้นทุน มากกว่า คนที่ไม่ได้ออมเงิน โดยที่ช่วงเกษียณ จะไม่สามารถ หาเงินได้อย่างตอน อายุน้อย ทำให้ถ้าเริ่มออมก่อน จะมีความคล่องตัวมากกว่า
คำพูดที่ว่า ออมก่อน รวยก่อน นั้นเป็นเรื่องจริง เริ่มมาจากการความ สม่ำเสมอของการออม เพราะปัจจัย สำคัญของการออม ไม่ใช่อายุ หรือระยะเวลานาน แต่อยู่ที่ความสม่ำเสมอ ในการออมเงิน โดยที่ถ้าออมอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง จะทำให้มีเงินที่สามารถนำมาลงทุน หรือไว้ใช้จ่าย ในยามที่ฉุกเฉินได้