วิธีเล่น หมากรุก แบบพื้นฐานทั้งไทย และสากล

วิธีเล่น หมากรุก

วิธีเล่น หมากรุก เป็นการใช้ไหวพริบ และกลยุทธ์บนกระดาน 8×8 ช่องที่มีตัวหมากหลากหลายชนิด จุดประสงค์หลักคือการจับคิงฝ่ายตรงข้ามให้ได้ เกมนี้มีประวัติยาวนาน และมีรูปแบบเล่นทั้งแบบไทย และสากลที่แตกต่างกัน ซึ่งหมากรุกก็เป็นกีฬาที่มีวิธีการเล่นแตกต่างจาก วิธีเล่น คาราเต้ อย่างมาก ทั้งในเรื่องของการใช้กำลัง และการใช้การวิเคราะห์

  • ประวัติของกีฬาหมากรุก
  • กติกาการเล่นหมากรุกสากล
  • เปรียบเทียบหมากรุกไทยและหมากรุกสากล

ประวัติของกีฬาหมากรุก

หมากรุกมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดียตั้งแต่หลายพันปีก่อน โดยเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในสมัยพระรามล้อมเมืองลงกา ชาวอินเดียเรียกหมากรุกว่า “จตุรงค์” เพราะใช้ตัวหมากที่แทนทัพ 4 ประเภท ได้แก่ ช้าง ม้า เรือ และทหารราบ (เบี้ย) พร้อมมีพระราชาเป็นจอมทัพ เล่นบนกระดาน 64 ช่องแบบตาราง

ในยุคแรก หมายถึงการเล่นจตุรงค์ที่ต่างจากหมากรุกปัจจุบัน โดยเล่นกัน 4 คน ถือหมากรุกคนละชุดแทนกองทัพของ 4 ทิศทาง และมีการเดินหมากที่ต้องใช้ลูกบาศก์ (เหมือนการทอยลูกเต๋า) เพื่อกำหนดตัวหมากที่เดิน

ต่อมาราว พ.ศ. 200 มีมหาอำมาตย์ชื่อสัสสะ ปรับรูปแบบการเล่นให้เหลือผู้เล่น 2 คน ลดจำนวนหมากรุกฝ่ายละชุด และเลิกใช้ลูกบาศก์ มาใช้การวางแผนคิดวิเคราะห์แทน ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของหมากรุกแบบที่เล่นกันในปัจจุบัน

ที่มา: หมากรุก [1]

ข้อมูลทั่วไปของกีฬาหมากรุก

  • รูปแบบกระดาน: ใช้กระดาน 8×8 ช่อง
  • ตัวหมาก: ฝ่ายละ 16 ตัว มีหลายชนิด เช่น คิง, ควีน, ม้า
  • เป้าหมายเกม: จับคิงฝ่ายตรงข้ามไม่ให้หนีได้
  • กติกา: เป็นมาตรฐานสากลเดียวกันทั่วโลก
  • ทักษะที่ใช้: ต้องคิดวางแผนและวิเคราะห์สูง
  • ระดับการแข่งขัน: มีทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพ
  • การรับรอง: ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการโอลิมปิก
  • ประโยชน์: ช่วยพัฒนาความจำและแก้ปัญหา
  • เวลาเล่น: มีการจำกัดเวลาต่อเทิร์นในการแข่งขัน
  • รูปแบบเกม: มีหลายแบบ แต่สากลนิยมที่สุด

กติกาของหมากรุกสากล

วิธีเล่น หมากรุก

กระดานหมากรุกมีขนาด 8×8 ช่อง มีการระบุแถวด้วยตัวเลข 1-8 และคอลัมน์ด้วยตัวอักษร A-H สลับสีขาวดำ ตัวหมากแบ่งเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายสีขาว และฝ่ายสีดำ ฝ่ายสีขาวเริ่มวางเรือตรงตำแหน่ง 1A ส่วนฝ่ายสีดำวางเรือตรง 8A ตัวหมากจัดเรียงตามลำดับ เรือ ม้า บิชอป ควีน คิงส์ บิชอป ม้า เรือ ส่วนเบี้ย (พอว์น) จะวางในแถวถัดไป

กติกาสำคัญช่วงต้นเกม

  • การเข้าป้อม เป็นการแลกที่เดินเรือกับคิงส์ เพื่อป้องกันคิงส์และเพิ่มความปลอดภัย โดยต้องไม่เคยเคลื่อนที่มาก่อน ไม่มีหมากกีดขวาง และคิงส์ไม่ถูกคุกคามในระหว่างเดิน
  • การกินผ่าน หากเบี้ยฝ่ายหนึ่งเดินสองช่องแรกและไปอยู่ข้างๆ เบี้ยฝ่ายตรงข้าม เบี้ยฝ่ายตรงข้ามสามารถกินผ่านเบี้ยตัวนั้นได้ในตานั้นเท่านั้น หากไม่ใช้สิทธิ์จะเสียโอกาสนี้

การจบเกม

  • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูก “รุกจนมุม” คือคิงส์ถูกโจมตีและไม่มีทางหนี
  • เสมอกันในกรณีต่างๆ เช่น ฝ่ายที่ต้องเดินไม่สามารถเดินได้แต่ไม่ถูกคุกคาม (ตาอับ), รูปหมากซ้ำตำแหน่งเดิม 3 ครั้ง, ทั้งสองฝ่ายตกลงเสมอกัน, หรือไม่มีการกินหมากหรือเดินเบี้ยเป็นเวลา 50 ตาติดต่อกัน
  • เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอยอมแพ้

ที่มา: หมากรุกสากล กติกาที่จำเป็นต้องรู้ในการแข่งขัน [2]

อธิบายเกี่ยวกับตัวหมาก ในหมากรุก

หมากรุกเป็นเกมกระดานที่มีประวัติยาวนานและเป็นที่นิยมทั่วโลก เพราะต้องใช้ทั้งไหวพริบและกลยุทธ์ในการเล่น แต่ละตัวหมากบนกระดานมีบทบาทและวิธีเดินที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ความเข้าใจในหน้าที่ของแต่ละตัวจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เล่นเกมนี้ได้อย่างสนุกและมีโอกาสชนะมากขึ้น

  • คิง (King) คิงเป็นตัวหมากที่สำคัญที่สุดในเกม หากคิงถูกโจมตีจนไม่มีทางหนี เกมจะจบทันที คิงไม่สามารถถูกกินได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีโดยเดินหนี หรือใช้ตัวหมากอื่นบังหรือกินตัวที่กำลังคุกคาม คิงเดินได้ครั้งละ 1 ช่องในทุกทิศทางรอบตัว
  • ควีน (Queen) ควีนถือเป็นตัวหมากที่เดินได้ไกลและหลากหลายที่สุด เพราะสามารถเดินได้ทุกทิศทาง ทั้งแนวตรงและแนวเฉียง ไปจนสุดกระดาน
  • เรือ (Rook) เรือเดินได้ในแนวตรง 4 ทิศทาง คือ ซ้าย ขวา หน้า หลัง และเดินได้ไกลสุดกระดานในทิศทางเหล่านั้น
  • บิชอป (Bishop) บิชอปมีฝ่ายละ 2 ตัว โดยแต่ละตัวจะยืนบนสีต่างกัน (สีขาวและสีดำ) เดินได้เฉพาะแนวทแยงมุมทั้ง 4 ทิศทาง และสามารถเดินไกลจนสุดกระดาน
  • ม้า (Knight) ม้าเดินแบบรูปตัว “L” คือเดินสองช่องทางหนึ่งแล้วเลี้ยวเดินอีกหนึ่งช่อง (2 ต่อ 1) และสามารถกระโดดข้ามตัวหมากตัวอื่นได้โดยไม่ติดขัด
  • เบี้ย (Pawn) เบี้ยมีจำนวนมากสุด ฝ่ายละ 8 ตัว เดินไปข้างหน้าได้ทีละ 1 ช่องเท่านั้น แต่กินหมากฝ่ายตรงข้ามได้เฉพาะในช่องทแยงหน้า ซ้ายหรือขวา ไม่สามารถกินตรงหน้าตัวเองได้

ที่มา: แนะนำ ตัวหมากในหมากรุกสากล พร้อมวิธีการเดิน [3]

บอกต่อ วิธีเล่น หมากรุก สากล ให้เก่งเหมือนเซียน

  • การเล่นหมากรุกหลายรูปแบบช่วยเพิ่มทักษะ เพราะหมากแต่ละแบบมีเอกลักษณ์และเทคนิคคล้ายกัน เช่น หมากฮอสกับหมากรุกสากลมีวิธีเดินและการบังคับกินที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ผู้เล่นหมากฮอสสามารถเรียนรู้หมากรุกได้ง่ายขึ้น
  • การดูการเล่นของผู้เล่นเก่งๆ แบบไม่ตั้งใจเรียนรู้ แต่แค่สังเกตซ้ำๆ ช่วยให้เราเข้าใจและพัฒนาฝีมือได้โดยไม่รู้ตัว
  • เซียนหมากรุกไทยส่วนใหญ่ฝึกฝนอย่างหนัก เล่นหมากนับแสนกระดานในชีวิตเพื่อพัฒนาความชำนาญ วันละหลายสิบกระดาน เล่นติดต่อกันหลายสิบปีจนเป็นมืออาชีพ
  • การ “ถอดหมาก” คือการวิเคราะห์และศึกษาการเดินหมากจากเกมจริงหรือในตำราของเซียน เพื่อเรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิค การถอดหมากแบบกลุ่มช่วยให้แก้ไขข้อผิดพลาดได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น นักหมากรุกธรรมดาที่พัฒนาฝีมือจนเป็นแชมป์จากการถอดหมากและศึกษาตำราเซียน
  • การฝึกทักษะหมากรุกต้องเข้าใจทั้งช่วงต้นและช่วงปลายเกม ช่วงต้นช่วยให้ได้เปรียบ ฝ่ายตรงข้าม ส่วนช่วงปลายช่วยวางแผนการเดินเพื่อใช้ความได้เปรียบไล่ตีหรือป้องกันไม่ให้เสียเปรียบ

ที่มา: วิธีการเล่นหมากรุกสากล(ให้เก่ง) [4]

ความต่างของ หมากรุกไทย และหมากรุกสากล

หมากรุกไทยและหมากรุกสากลเป็นเกมกระดานที่ใช้ความคิดและกลยุทธ์ แต่ละแบบมีความแตกต่างในหลายด้าน ตั้งแต่ตัวหมาก กติกา และวิธีเล่น การเข้าใจความแตกต่างช่วยให้เล่นเกมได้ถูกต้องและสนุกมากขึ้น

หมากรุกไทย

  • จำนวนตัวหมากและกระดาน ใช้ตัวหมากฝ่ายละ 16 ตัว วางบนกระดาน 8×8 ช่อง เช่นเดียวกับสากล แต่การวางตำแหน่งและชื่อเรียกตัวหมากต่างกัน เช่น ขุน (คิง), เม็ด (ควีน), เรือ, ม้า, เบี้ย
  • วิธีเดินของตัวหมาก ตัวหมากมีการเดินเฉพาะ เช่น เม็ดเดินทแยงได้ทีละช่องเท่านั้น เบี้ยเดินไปข้างหน้าแต่กินแนวเฉียงหน้า มีลักษณะเดินและกินที่ต่างจากหมากรุกสากล
  • กติกาพิเศษ ไม่มีการเข้าป้อมแบบสากล การกินหมากต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และไม่มีกติกาการกินผ่าน (en passant)
  • การสิ้นสุดเกม เน้นการจับ “รุกฆาต” หรือจับขุนฝ่ายตรงข้าม เกมอาจจบแบบเสมอหรือลาออก แต่กติกาเสมอยังไม่ละเอียดเท่า

หมากรุกสากล

  • จำนวนตัวหมากและกระดาน ใช้ตัวหมากฝ่ายละ 16 ตัว บนกระดาน 8×8 ช่องเช่นกัน โดยตัวหมากประกอบด้วย คิง, ควีน, เรือ, บิชอป, ม้า และเบี้ย
  • วิธีเดินของตัวหมาก ตัวหมากเดินได้หลากหลาย เช่น ควีนเดินได้ไกลทุกทิศทาง บิชอปเดินทแยงยาว ม้าเดินแบบตัว L และเบี้ยเดินไปข้างหน้าแต่กินทแยงหน้า
  • กติกาพิเศษ มีการเข้าป้อม (castling) เพื่อป้องกันคิง และการกินผ่าน (en passant) ที่เป็นกติกาพิเศษเฉพาะ
  • การสิ้นสุดเกม เกมจบเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูก “รุกฆาต” หรือเมื่อเกิดสถานการณ์เสมอตามกติกา เช่น ตาอับ, รูปซ้ำ 3 ครั้ง, หรือไม่มีการเดินเบี้ยและกินหมาก 50 ตาติดต่อกัน

วิธีเล่น หมากรุก โดยสรุป

วิธีเล่น หมากรุก คือการใช้ความคิดและกลยุทธ์เพื่อควบคุมตัวหมากบนกระดานให้สามารถจับคิงฝ่ายตรงข้ามได้ เกมมีทั้งแบบไทยและสากลที่มีกติกาและวิธีเดินแตกต่างกันเล็กน้อย แต่จุดประสงค์ยังเหมือนกันคือการเอาชนะด้วยแผนการที่รอบคอบและชาญฉลาด

อยากเล่นหมากรุกเป็น ต้องเริ่มฝึกจากอะไร ?

ถ้าอยากเล่นหมากรุกเป็น ต้องเริ่มจากการเข้าใจกติกาพื้นฐานและวิธีเดินของตัวหมากแต่ละตัวก่อน แล้วฝึกเล่นบ่อยๆ เพื่อรู้จักวางแผนและคิดล่วงหน้า สุดท้ายลองดูการเล่นของคนเก่งๆ เพื่อเรียนรู้เทคนิคและไอเดียใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ง่ายขึ้น

หมากรุกประเภทไหน นิยมใช้แข่งในเอเชี่ยนเกมส์ ?

หมากรุกที่นิยมใช้แข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์คือหมากรุกสากล เพราะเป็นมาตรฐานสากลที่คนทั่วโลกเล่นกัน กติกาชัดเจนและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทำให้เหมาะสำหรับการแข่งขันระดับใหญ่

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง