
หุ้นดีน่าลงทุน สำหรับมือฉมัง กับวิธีคัดหุ้น ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ
- LittleHydrangea
- 20 views
หุ้นดีน่าลงทุน สำหรับมือฉมัง การเลือกหุ้นที่ดี จะสามารถช่วยลดความเสี่ยง ในการลงทุน ในระยะยาว และสามารถสร้างผลกำไร หรือผลตอบแทนระยะสั้น ที่ทำให้สามารถมีทุน หรือผลกำไรในการลงทุน ในครั้งต่อไป ทำให้การเลือกหุ้นที่ดี และการมองตลาดของหุ้นออก จะมีส่วนช่วยในการลงทุนที่ได้กำไร
สำหรับวิธีการดูหุ้นดี คือ การวิเคราะห์การเติบโตของรายได้ และการวิเคราะห์ผลกำไรในตลาดนั้น ๆ ที่ถ้าวิเคราะห์ได้ตรงจุด จะมีส่วนช่วยในการลงทุน ทำให้การเติบโตของกำไร และรายได้ในหุ้นสูงกว่าตลาดปกติ ทำให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดได้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มักจะใช้วิธีการในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
โดยวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไปสู่ตลาด ซึ่งการลงทุนในนวัตกรรม จะสามารถขยายตลาด และสร้างความยั่งยืน ในอนาคต ในระยะยาวได้ จึงทำให้นักลงทุนมือฉมังหลาย ๆ ท่านได้ไปลงทุน เพื่อเจาะตลาดใหม่ ซึ่งการลงทุนในหุ้น และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้สามารถคาดการณ์ การเติบโตของรายได้
ได้โดยง่าย แต่ก็มีความผันผวนสูง เพราะเกิดจากความคาดหวังของตลาดเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเลือกหุ้น ควรดูจากการเติบโตของรายได้ และกำไร การลงทุนใน R&D การขยายตัวของธุรกิจ วิธีการบริหารเงินทุน และมีค่า P/E Ratio ที่สูง เพราะความคาดหวัง การเติบโตในอนาคต เป็นต้น
ที่มา: 7 หุ้น ยอดขายปัง กำไรเติบโตสม่ำเสมอ ปี 2568 [1]
ขอแนะนำหุ้น ที่คาดการณ์ว่า จะมีกำไรที่โดดเด่น ในปี 2568 จากการคาดการณ์ ในผลกำไร ที่ผ่านมาตลอด 5 ปี (โดย ณ ที่นี้ จะแสดงอัตรากำไรขั้นต้น ของปี 2567) ได้แก่ หุ้นBM ที่มีกำไรอยู่ที่ 16.10 หุ้นCOM7 อัตรากำไรอยู่ที่ 13.25 หุ้นDELTA อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.05
หุ้นSJWD อัตรากำไรอยู่ที่ 13.47 หุ้นTQM ที่มีกำไรอยู่ที่ 50.64 และหุ้นWINNER ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.34 ซึ่งนี่เป็นเพียงผลการคาดคะเนเพียงเท่านั้น ซึ่งหากนักลงทุน สนใจในการลงทุน ขอแนะนำ ให้อ่านรายละเอียดจาก Fund Fact Sheet และประเมินความเสี่ยง ด้วยตนเองก่อนการลงทุนเสมอ
ต้องบอกก่อนว่าสำหรับนักลงทุนมือฉมัง การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าปกตินั้น มักจะมาจากการลงทุน ในหุ้นที่มีราคาที่ลดลง เพราะนักลงทุนมักจะใช้โอกาสนี้ ในการช้อนซื้อหุ้น ที่คาดการณ์ว่าในอนาคต หุ้นนั้น ๆ จะมีผลตอบแทน เป็นอัตราที่น่าสนใจ โดยหุ้นที่มีราคาลดลง ที่น่าสนใจ ณ ตอนนี้
ขอเสนอ หุ้นAYUD หุ้นBOL หุ้นCHAYO หุ้นMEGA หุ้นSJWD หุ้นSPVI หุ้นTPCH และหุ้นTQM เป็นต้น เป็นหุ้นที่มีราคาลดลง แต่รายได้รวม ในตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เป็นบวก และมีอัตราที่เพิ่มขึ้น ตลอด 5 ปีที่ผ่าน ซึ่งแม้ว่าการลงทุนในหุ้น ที่มีราคาต่ำ นั้นเหมือนกับ การลงทุนซื้อของถูก
แต่หากนักลงทุน ที่สนใจการลงทุน ควรศึกษาข้อมูล และรายละเอียด ให้ถี่ถ้วน พร้อมทั้งดูเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนลงทุน ว่ายอมรับได้หรือไม่ เพราะการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ไม่ได้แปลว่าหุ้นที่แนะนำ ในข้างต้น ในอนาคตจะให้ผลตอบแทน ที่ดีเสมอ เพียงเท่านั้น
ที่มา: 8 หุ้นราคาปรับลดลง แต่ยอดขายและกำไรเติบโตโดดเด่น [2]
ในยุคเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่มีเหตุการณ์ ที่ทำให้ค่าของเศรษฐกิจต่าง ๆ นั้น มีราคาในการปรับตัวที่สูงขึ้น ทั้งจากสงคราม สภาพอากาศ และความขัดแย้งทางการเมืองต่าง ๆ ทำให้ต้นทุนในพลังงานธรรมชาตินั้น มีการปรับตัวที่สูงขึ้น จึงทำให้ผู้ลงทุนส่วนมาก หันมาลงทุนในพลังงานสะอาด
เช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานไฟฟ้า แทนการใช้พลังงานดั้งเดิม ที่ไม่ได้เป็นผลดีต่อธรรมชาติ อาทิเช่น การลงทุนในหุ้นของบริษัท ที่มีผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรถยนต์ Hybrid เป็นต้น ซึ่งหุ้นของบริษัท ที่น่าจับตามอง และน่าลงทุนในไทย ได้แก่ หุ้นพลังงานสะอาด บริษัทGULF
และหุ้นพลังงานสะอาด บริษัทBGRIM ส่วนหุ้นพลังงานสะอาด ในต่างประเทศ ได้แก่ หุ้นBEP หุ้นบริษัทพลังงานหมุนเวียนระดับโลก หุ้นNEE หุ้นบริษัทสาธารณูปโภค ในสหรัฐอเมริกา หุ้นENPH บริษัทที่พัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ในที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
ที่มา: โอกาสลงทุนหุ้นพลังงานสะอาด: หุ้นเด่นปี 2025 ที่นักลงทุนต้องรู้ [3]
ถ้าในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ผู้ที่จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด คือ ผู้ที่มีรายได้มั่นคงที่สุด ผู้ที่มีรายได้ที่เพียงพอ ต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าราชการ พนักงานประจำ ผู้ที่มีสินทรัพย์ ในเงินออมจำนวนมาก และผู้ที่มีธุรกิจ ทางด้านสาธารณูปโภคที่มั่นคง เป็นต้น
ซึ่งบุคคลที่กล่าวไปในข้างต้นนี้ เป็นเพียงตัวอย่าง ของบุคคล ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ในสภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย ที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน ทางด้านที่อยู่อาศัย และทางด้านธุรกิจต่าง ๆ จะมีภูมิคุ้มกัน ที่ดีกว่า คนที่มีสินทรัพย์ แต่ใช้แล้วหมดไป
ในยุคปัจจุบัน ที่การขยายตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดต้องนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาขายอยู่เสมอ ทำให้ตลาดนั้น ๆ มีการขยายตัว และมีการเติบโตขึ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะตลาดของเทคโนโลยี และการบริการ ที่สามารถตอบโจทย์คนในอนาคตได้ จะทำให้ธุรกิจเหล่านี้ มีความก้าวหน้ากว่าธุรกิจประเภทอื่น ๆ
ซึ่งธุรกิจที่แนะนำ ที่จะมีโอกาส ในการเติบโตอีก 5 ปีข้างหน้า ขอแนะนำเป็นธุรกิจ ประเภทของเทคโนโลยี ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ธุรกิจบริการร้านสะดวกซัก และธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งนี่เป็นเพียง ตัวอย่างของธุรกิจ ที่คาดการณ์ว่า เป็นธุรกิจที่มีโอกาสรุ่ง
และโอกาสในการเติบโตได้สูงในอนาคต ซึ่งก่อนจะลงทุน ขอแนะนำให้ศึกษา ในเรื่องของธุรกิจก่อนลงทุนเสมอ เพราะ การลงทุน เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกิจการไหน ก็เรียกได้ว่ามีความเสี่ยงสูงทุกการลงทุน
สรุป หุ้นดีน่าลงทุน สำหรับมือฉมัง จะเป็นหุ้นที่ต้องมีปัจจัยหลายอย่าง อาทิเช่น ราคาของหุ้น ระยะเวลา ในการเติบโตของหุ้น และผลกำไร ที่หุ้นให้ในการตอบแทน แก่ผู้ลงทุน ที่หุ้นนั้น ๆ ที่ได้ลงทุนไป ต้องได้กำไรที่ต้องคุ้มค่า และให้ความมั่นคง แก่ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
คงปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่า ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีนั้นได้เข้ามามีผลกับมนุษย์เป็นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจหรือหุ้น ในเรื่องของเทคโนโลยีนั้น มีเติบโตที่รวดเร็ว ซึ่งหุ้นที่แนะนำ เพราะคาดว่า จะมีการณ์เติบโต ในอนาคต ได้แก่ หุ้นMicrosoft หุ้นApple หุ้นGoogle และหุ้นAmazon เป็นต้น
สำหรับกลุ่มหุ้นต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีการเติบโต ที่สูงขึ้น ในอนาคต ขอแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเทคโนโลยี เพราะในปัจจุบัน เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่ผู้คนต้องใช้ ซึ่งหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ หุ้นNvidia หุ้นMicrosoft หุ้นGoogle เป็นต้น