
เกมวิ่งแข่ง บนสตรีม เมื่อการแข่งไม่ได้จำกัดแค่เรื่องความเร็ว
- Spawn
- 16 views
เกมวิ่งแข่ง บนสตรีม เป็นแนวเกมที่อาจติดภาพจำของเกมเอาฮา ด้วยการเล่นที่สามารถสนุกได้ จากการกดไม่กี่ปุ่มก็จบ แต่ความจริงแล้วมันคือสนามที่ทดสอบมากกว่าสปีด ซึ่งเกมแนวนี้จึงแตกแขนงออกหลายรสชาติ ตั้งแต่เกมปาร์ตี้วุ่น ๆ ไปจนถึงเกมทำเวลาจริงจัง ที่ทุกเสี้ยววินาทีคือการตัดสินชะตา
เกมวิ่งแข่ง บนสตรีม คือ เกมแข่งขันที่มีการออกแบบสนามแข่งหลากหลายสไตล์ บางเกมเอาฮาให้ขำจนตกขอบจอ บางเกมกดดันด้วยการต้องหนีตายจากฉากที่เปลี่ยนตลอดเวลา หรือบางเกมจริงจังกับการจับเสี้ยววินาทีเพื่อทำสถิติใหม่ ซึ่งทำให้เกมแนวนี้มีฐานแฟนคลับหลากหลาย
โดยสิ่งที่ทำให้เกมแนวนี้ อาจพิเศษกว่าใคร คือการผสมระหว่างการใช้ความเร็ว และไหวพริบ ในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มันจึงกลายเป็นประเภทเกมที่ทั้งมือใหม่ก็เข้าถึงง่าย และสายฮาร์ดคอร์ก็ยังเจอความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งทำให้ความสนุกของมันไม่ได้อยู่ที่เส้นชัยอย่างเดียว
แม้จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม เกมแข่งขัน เหมือนกันแต่ เกมวิ่งแข่งบนสตรีม กลับมีเสน่ห์และกลไกที่ต่างจากเกมแข่งทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยสามารถสรุปความต่างหลัก ๆ ได้ดังนี้
เกมวิ่งแข่งบนสตรีม
เกมแข่งขันทั่วไป (เช่น เกมแข่งรถ/เกมกีฬา)
เกมวิ่งแข่งบน Steam มีพัฒนาการชัดเจนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา จากเกมอินดี้ที่เน้นไอเดียแปลกใหม่ จนกลายเป็นเกมปาร์ตี้ไวรัลที่มีผู้เล่นนับแสน เทรนด์หลัก ๆ ที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายได้ ดังนี้
ยุคทดลอง (2010–2015)
จุดเริ่มจาก SpeedRunners ที่ปูทางเกมวิ่งแบบ PvP พร้อมโหมด Ranked และได้รับความนิยมจนถึงขั้นมี ESL Tournament ตามมาด้วยเกม Refunct ที่หยิบแนวคิด การเล่นทำเวลา มาใช้ผ่านด่านสั้น ๆ เน้น flow และการรีสตาร์ตที่รวดเร็ว
ยุคปาร์ตี้ & Chaos (2016–2020)
แนวคิดเกมบ้า ๆ เริ่มเฟื่องฟูจาก Clustertruck ที่โดดเด่นด้วยระบบ Workshop ให้ผู้เล่นสร้างด่านเอง ขณะที่ Runbow และ Bloody Trapland 2 เน้น multiplayer สุดป่วน สร้างความฮาให้กับกลุ่มเพื่อน ก่อนจะตามมาด้วย Hot Lava ที่เป็นเกม co-op เข้าถึงง่าย
ยุคไวรัล & Community (2020–2025)
กระแสเกมวิ่งแข่งถูกดันสู่ระดับใหม่ด้วย Ghostrunner ที่จริงจังกับการทำเวลาและมียอดขายทะลุ 2.5 ล้านชุด ตามด้วย Stumble Guys เกมปาร์ตี้ฟรีบน PC ที่สร้างกระแสไวรัล ทำสถิติผู้เล่นทะลุ 43,000 คน ทำให้แนวนี้ยังมีพลังสดใหม่อย่างต่อเนื่อง
แนวเกมวิ่งแข่งบนสตรีม ไม่ได้มีเพียงสไตล์เดียว แต่แตกแขนงออกเป็นหลายรสชาติให้เลือกตามนิสัยการเล่น ซึ่งเพื่อให้เห็นภาพรวมชัด ๆ จึงขอแบ่งออกได้เป็น 3 หมวดหมู่หลัก ดังนี้
สำหรับสาย เกมวิ่งแข่ง สายปาร์ตี้ คือรสชาติที่ทำให้เกมวิ่งแข่งดังขึ้นมาในวงกว้าง เพราะไม่ได้แข่งกันเอาจริงเอาจังเท่านั้น แต่เต็มไปด้วยความป่วนและเสียงหัวเราะ เล่นกับเพื่อนกี่รอบก็ไม่เบื่อ ความสนุกอยู่ที่ใครจะรอดไปถึงเส้นชัย มากกว่าการวัดว่าใครคือโปรตัวจริง กับรายชื่อเกมฮิตต่อไปนี้
ถ้าคิดว่าเกมวิ่งแข่งมีไว้แค่เอาฮา ต้องลองสาย เกมวิ่งแข่ง ทำเวลา เพราะแก่นหลักคือการทำเวลาให้เร็วที่สุด ทุกการกดต้องแม่นยำและต่อเนื่อง การพลาดเพียงเสี้ยววินาทีหมายถึงเสียสถิติใหม่ไปทันที เป็นหมวดที่ดึงดูดทั้ง speedrunner มืออาชีพและผู้เล่นที่ชอบวัดฝีมือกับตัวเอง ด้วยเกมต่อไปนี้
สาย เกมวิ่งออโต้ ไซด์สโครลล์ คือการวิ่งที่ตัวละครวิ่งเอง ผู้เล่นทำได้เพียงกดจังหวะให้แม่น กระโดด หลบ หรือสไลด์ ถ้าพลาดแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวคือเกมโอเวอร์ จุดขายคือความกดดันแบบต่อเนื่อง และความรู้สึก flow ที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นได้ถูกต้อง ประกอบไปด้วยเกมที่ต้องลอง ต่อไปนี้
แนวเกมวิ่งแข่งบน Steam แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การแข่งขันไม่ใช่เรื่องความเร็วเพียงอย่างเดียว แต่คือการเอาตัวรอดกับสิ่งกีดขวาง การปรับตัวกับสนามที่ไม่แน่นอน และการปะทะกับผู้เล่นอื่น ๆ ไปพร้อมกัน มันจึงกลายเป็นแนวเกม ที่เข้าถึงง่ายแต่ลึกพอให้เล่นซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ
บนคอนโซล เกมแข่งมักจะโฟกัสที่ความ polished และระบบการแข่งขันที่ตายตัว ขณะที่บน Steam จุดแข็งคือความยืดหยุ่น เช่น การมี Workshop, mod หรือ community ที่ช่วยสร้างด่านใหม่ได้เรื่อย ๆ เกมแนวนี้จึงไม่ตายง่ายและมักมีชีวิตต่อเนื่องยาวนานกว่าฝั่งคอนโซล
แม้จะไม่ใช่ eSports เต็มรูปแบบเหมือน MOBA หรือ FPS แต่หลายเกมก็พัฒนาไปถึงขั้นมีการแข่งขันจริง SpeedRunners เคยมี Ranked และจัด ESL Tournamen ที่ชุมชนแข่งขันกันทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าแนวนี้ มีการแข่งขันจริงจังในแบบของมันเอง