
แนวคิดของ Peter Lynch จากการเริ่มต้นในสิ่งที่รู้จัก
- LittleHydrangea
- 24 views
แนวคิดของ Peter Lynch นักลงทุน และผู้จัดการกองทุน ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในการลงทุนคนหนึ่ง ที่เริ่มลงทุน โดยเริ่มต้นมาจากการลงทุน ในสิ่งที่ตนเองรู้จักดี อาทิเช่น สิ่งอำนวยความสะดวก ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
แนวคิดในรูปแบบการลงทุนของลินซ์ จะแตกต่างจากรูปแบบการ ลงทุนแบบ Warren Buffett คือ การลงทุนของลินซ์ จะลงทุนกับหุ้นหรือบริษัทที่คุ้นเคย หรือเข้าใจในพื้นฐานของบริษัทนั้น ๆ อยู่แล้ว และจะเลือกหุ้น ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะเป็นการลงทุนกับบริษัท ที่มีสินค้า หรือผลิตภัณฑ์
ที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ซึ่งการลงทุนในหุ้นที่เรารู้จักนั้น จะทำให้เรามีโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่า การลงทุนกับหุ้นที่เราไม่ได้มีความรู้จัก และยังสามารถลดความเสี่ยง ในการลงทุนกับหุ้น ที่ไม่ได้มีความเข้าใจ ในหลักการของหุ้น หรือบริษัทนั้น ๆ อย่างเข้าใจ ทำให้อาจเกิดเป็นความเสี่ยงได้ในอนาคต
ซึ่งหุ้นในแนวคิดของลินซ์นั้น สามารถแบ่งหุ้นออกมาได้ 6 ประเภท ดังนี้ 1.หุ้นโตช้า 2. หุ้นโตปานกลาง 3.หุ้นโตเร็ว 4. หุ้นวัฏจักร 5. หุ้นฟื้นตัว และ 6.หุ้นมีสินทรัพย์มาก นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งแยกหุ้น ที่มีโอกาสในการทำกำไรได้ถึง 10 เท่า หรือเรียกว่า Tenbagger ซึ่งเป็นแนวคิดของลิ้นซ์อีกด้วย
ที่มา: ลงทุนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จอย่าง Peter Lynch [1]
สำหรับปีเตอร์ ลินซ์นั้น ใช้ปัจจัยอยู่หลายปัจจัย ในการคัดกรองหุ้น ที่มีโอกาสเติบโต โดยเน้นมองหุ้น กับบริษัท ที่มีโอกาสเติบโตได้ ในอนาคต มีความแข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูง โดยใช้ตัวเลขทางการเงิน เป็นการคำนวณเป็นหลัก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่ต่ำ
ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ของลินซ์ คือการดูอัตรา การเติบโตของรายได้ที่สูง และมีความสม่ำเสมอ โดยคิดว่าบริษัทนั้น ๆ จะมีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่ อีกทั้งยังมองอัตราส่วน ของราคาหุ้นต่อกำไร ไปพร้อมกับการเติบโตของบริษัท โดยการมองกระแสเงินสด และบริหารจัดการบริษัท
อีกทั้งยังมีปัจจัย ของอัตราส่วนของหนี้ ซึ่งเป็นการมองโครงสร้างพื้นฐาน ของบริษัทนั้น ๆ ว่ามีผู้ลงทุน ที่มีอัตราส่วนของหนี้ต่ำ และปัจจัยทางด้านของสินค้า และบริการ ที่มีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุน จะมาลงทุน กับบริษัทนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่
ที่มา: เลือกหุ้นสไตล์ ปีเตอร์ ลินซ์ [2]
สำหรับวิธีที่ปีเตอร์ ลินซ์ใช้ในการทำนายหุ้น คือการลงทุนในสิ่งที่รู้ เห็นชัดเจน หรือก็คือการลงทุนหุ้น ในสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันนั่นเอง เพราะปีเตอร์ ลินซ์เชื่อว่าคนธรรมดานั้น ก็สามารถประสบความสำเร็จ เหมือนกับบริษัทได้เช่นกัน อีกทั้งปีเตอร์ ลินซ์นั้น ยังใช้ตัวเลข หรือจำนวนกระแสเงินสด
ในการทำนายหุ้น ในบริษัทนั้น ๆ เพื่อดูว่าหุ้นตัวที่จะลงทุนนั้น มีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้น หรือมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ ในอนาคตนั่นเอง เพราะฉะนั้นปีเตอร์ ลินซ์ มักจะซื้อหุ้น ที่ตนเองมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และบริษัทเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อเข้าใจในองค์ประกอบพื้นฐานต่าง ๆ แล้ว
จึงทำให้การลงทุนนั้น มีโอกาสในการประสบความสำเร็จมากขึ้น เพราะฉะนั้นในการทำนายหุ้นของปีเตอร์ ลินซ์ จึงหมายถึงการใช้หลักการทางตัวเลข ในการทำนายหุ้นตัวนั้น ๆ และการจัดสรรงบประมาณ ในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกสถานะความแข็งแกร่ง และอนาคต ของบริษัท หรือหุ้นตัวนั้น ๆ
ที่มา: ลงทุนแบบ Peter Lynch: เริ่มต้นจากสิ่งที่รู้จัก [3]
วิธีในการรับมือกับความกลัว และความโลภของลินซ์ คือ การทำการบ้าน และศึกษาหุ้นที่จะลงทุน โดยที่หุ้นตัวนั้น ๆ จะต้องเป็นหุ้นที่ลินซ์ มีความสนใจอยู่ และมีความเข้าใจในหลักการพื้นฐาน ของหุ้นตัวนั้น ๆ นอกจากนี้ยังต้องมีการดู และการศึกษาเพิ่มเติม ถึงโอกาสในการเติบโต ของหุ้นตัวนั้น ๆ
ว่าเหมาะสมแก่การลงทุนในระยะยาวหรือไม่ ซึ่งการศึกษาหุ้นตัวนั้น ๆ ที่จะลงทุน มาเป็นอย่างดี จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยง ในการลงทุน หรือก็คือความเสี่ยง ในการขาดทุนนั่นเอง เพื่อให้การลงทุน เหมาะสมกับสไตล์ของการลงทุน ของตัวเองมากที่สุด ลินซ์จึงจะไม่ลงทุนตามกระแส
หรือลงทุนสวนกระแส เพราะการลงทุนรูปแบบนี้ จะอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเขา ทำให้การศึกษาหุ้นที่สนใจนั้น มีความเสี่ยงที่น้อยกว่า และสามารถทำให้มองเห็นโอกาส ในการเติบโต และผลกำไรได้ชัดเจนนั่นเอง
เพราะการลงทุนในสิ่งที่รู้นั้น เป็นเหมือนภูมิคุ้มกัน ในการลงทุน เพราะความชอบ หรือความหลงใหล ในสิ่งที่ทำอยู่นั้น จะทำให้เราสามารถ ทำมันออกมาได้ดี ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยทำให้การลงทุน ที่เราได้ลงทุนไปแล้ว หรือลงแรงไปแล้ว จะตอบแทนผลกำไร ตามความตั้งใจของผู้ลงทุน
อีกทั้งการลงทุนในสิ่งที่รู้นั้น จะช่วยทำให้การลงทุนนั้น ๆ มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนนั้น สามารถมองเห็นพื้นฐานของเงินทุน และมองเห็นโอกาส ในการทำกำไร ได้อย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น ทำให้การมีความเข้าใจ ในหุ้นที่กำลังลงทุนนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก
ที่สำคัญการลงทุนในสิ่งที่เข้าใจนั้น จะช่วยลดอารมณ์ ในการตัดสินใจ เพราะการลงทุนอย่างเข้าใจนั้น จะทำให้เรามีเหตุผลในการลงทุนมากขึ้นนั่นเอง
เพราะลินซ์นั้นมองว่า คนทั่วไป มีความเข้าใจชีวิตประจำวัน และเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณค่า จึงทำให้คนทั่วไปนั้น มีความรู้ในเรื่องของธรรมชาติของคน ว่ามีความต้องการอย่างไร ต้องการอะไร อยากได้อะไร ซึ่งการลงทุนที่สามารถตอบโจทย์คนหมู่มากได้นั้น จะสามารถสร้างกำไรได้มากกว่า
จึงทำให้การเข้าใจในชีวิตประจำวันนั้น ถือว่าเป็นความรู้ที่มีคุณค่า มากกว่าการลงทุน ที่ได้ผลกำไรที่มาก ซึ่งผู้ลงทุนสามารถแนะนำความรู้ที่ได้ มาวิเคราะห์เชิงตัวเลข มาวิเคราะห์ความต้องการในชีวิตประจำวัน ของคนทั่วไป จะทำให้การลงทุนนั้น มีประสิทธิภาพ ได้ดีกว่านักวิเคราะห์
แต่ก็ใช้ว่าคนทั่วไปนั้น จะชนะนักลงทุนมืออาชีพไปเสียหมด เพราะการลงทุนนั้น ก็ต้องมีการศึกษาข้อมูล หรือเทคนิควิธีต่าง ๆ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อผลกำไรที่มากขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย
สรุป ในแนวคิดของ ปีเตอร์ ลินซ์ คือ แนวคิดให้คนที่มีการลงทุนกับหุ้น หรือผลิตภัณฑ์ ที่ตนเองเข้าใจ จะทำให้การลงทุนนั้น มีประสิทธิภาพ ในการลงทุนเป็นอย่างมาก อีกทั้งการเข้าใจในหุ้น และบริษัทที่เราลงทุน ก็จะช่วยทำให้ผู้ลงทุนนั้น สามารถมองเห็นถึงศักยภาพ ของบริษัทนั้น ๆ ในอนาคต ได้อีกด้วย
สำหรับแนวคิดของลินซ์นั้น สามารถแยกประเภทของหุ้น ออกมาได้ 6 ประเภท ได้แก่ 1. หุ้นโตช้า 2. หุ้นโตปานกลาง 3.หุ้นโตเร็ว 4.หุ้นวัฏจักร 5. หุ้นฟื้นตัว และ 6.หุ้นมีสินทรัพย์มาก นั่นเอง
หุ้น Tenbagger คือ หุ้นที่ให้ผลตอบแทน 10 เท่า ซึ่งลินซ์สามารถจำแนกหุ้นได้ โดยการมองหาบริษัท ที่มีโอกาสเติบโต ด้วยการมองตัวเลข การประเมินมูลค่าของหุ้น การติดตามข่าวสารของบริษัท และการอดทนรอจังหวะ ที่เหมาะสมในการขายหุ้นนั่นเอง