
แนวทางการเล่น F1 25 เกมแข่งรถ Formula One
- ไข่น้อย
- 31 views
แนวทางการเล่น F1 25 เป็นวิดีโอเกมแข่งรถ ที่เป็นภาคต่อของ F1 24 ที่ภายในเกมนั้น จะมีการนำเสนอ การแข่งรถยนต์ Formula One ที่พร้อมมอบประสบการณ์ การแข่งรถในสนาม ที่ผู้เล่นจะได้ควบคุมรถ แบบสมจริง แถมยังมาพร้อมกับ กราฟิกที่สวยงามมาก และภายในเกมแข่งรถ Formula One ภาคนี้ ก็มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกมากมาย สำหรับรายละเอียด คำถาม แนวทางการเล่น จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามข้อมูลต่อจากนี้เลย
การพัฒนาเกมนี้ พัฒนาโดย Codemasters หรือบริษัทผู้พัฒนาวิดีโอเกม สัญชาติอังกฤษ และเป็นบริษัทในเครือของ Electronic Arts บริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่มีการบริหารงาน อยู่ภายใต้ แผนก EA Sports หรือผู้ที่จัดจำหน่ายเกมนี้
โดยได้กล่าวเอาไว้ว่า ตัวเกมภาคนี้ เป็นภาคที่ 18 ของซีรีส์เกมแข่งรถ F1 ที่ได้ถือลิขสิทธิ์ การแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน ในปี 2025 อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนวันที่เปิดให้บริการเกมนี้ คือวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 โดยเปิดให้กับแพลตฟอร์มสุดโด่งดัง ที่เข้าถึงผู้เล่นได้ง่าย [1]
ภายในเกมแข่งรถ ฟอร์มูล่าวัน 25 นี้ มีโหมดเนื้อเรื่องหลัก ที่จะมีชื่อโหมดว่า Braking Point 3 โดยจะเป็นโหมดเนื้อเรื่อง ที่จะมีการเล่าเรื่องราวต่อจากภาคก่อนหน้า ที่ในครั้งนี้ จะได้รับบทเป็นนักแข่งจากทีม Konnersport ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในสนามแข่ง
โดยการตัดสินใจของผู้เล่นนั้น จะมีผลต่อเนื้อเรื่องอีกด้วย สำหรับนักแข่งในโหมดเนื้อเรื่อง ของเกมฟอร์มูล่าวันภาคนี้ ก็จะมีให้เลือกสองคน ได้แก่ Aiden Jackson และ Callie Mayer
แนวทางการเล่นเกมนี้ ต้องบอกเลยว่า เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยาก เนื่องจากตัวเกมนี้ มาพร้อมกับความสมจริง ที่ไม่เหมือนกับ การเล่น Wreckfest ที่เน้นการทำลาย แต่ภายในเกมนี้ ผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจหลากหลายเรื่อง ก่อนที่จะได้เล่นจริง ทั้งเรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้ การตั้งค่าควบคุม การปรับแต่งรถ และอีกมากมาย
ส่วนโหมดการเล่น ที่เกมนี้ได้นำเสนอนั้น ก็จะมีดังต่อไปนี้ Time Trial, Grand Prix, F1 World, My Team, Career และที่ขาดไปไม่ได้ ก็คือโหมด Multiplayer Races ที่ภายในโหมดนี้ จะทดสอบทักษะการขับขี่ กับผู้เล่นหลายคน เพื่อชิงความเป็นที่หนึ่ง แต่ตำแหน่งสูงสุด [2]
ด้านกราฟิกของเกมนี้ สมจริงกว่าภาคก่อนอย่างแน่นอน เพราะทางผู้พัฒนาเกมนี้ ได้มีการปรับปรุงกราฟิกใหม่ โดยมีการใช้เทคโนโลยี ที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง Ray Tracing ที่ช่วยสร้างแสง เงา การสะท้อน และการส่องสว่างที่สมจริง ได้มากกว่าที่ผ่านมา
และนอกจากนี้ ตัวเกมยังสามารถรองรับ DLSS 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกราฟิกอีกด้วย แถมหากใครที่งบถึง มีหน้าจอเทพ ตัวเกมมีโหมดคุณภาพ และโหมดความละเอียด ที่สามารถปรับความละเอียดของภาพ และกราฟิก ได้มากถึง 8K 60Hz เลยทีเดียว
จุดเด่นภายในเกมนี้ มีหลากหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุด ก็จะเป็นเรื่องของ เทคโนโลยี Light Detection and Ranging หรือ LiDAR เป็นเทคโนโลยีการสแกนสามมิติ ที่สามารถจำลองสนามแข่งในชีวิตจริง ออกมาได้ใกล้เคียง และแม่นยำมากที่สุด
ซึ่งมันช่วยให้ผู้เล่น ได้รับประสบการณ์การเล่น ที่มีความใกล้เคียงกับการแข่งรถในสนาม มากที่สุดแล้ว แถมยังเป็นการยกระดับประสบการณ์ ของการแข่งรถ Formula One ที่สมจริงมากกว่า ภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมาอีกด้วย [3]
แพลตฟอร์มที่เกมนี้ ได้นำไปเปิดให้บริการนั้น อย่างที่บอกไปเลยว่า ได้นำไปเปิดให้กับ แพลตฟอร์มสุดโด่งดัง ซึ่งได้แก่แพลตฟอร์มเกมคอนโซล อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X/S ที่มีการจัดจำหน่ายตัวเกมผ่านทาง Store ของแต่ละแพลตฟอร์ม
และนอจากนี้ ยังสามารถรองรับ แพลตฟอร์ม PC หรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบ Windows โดยตัวเกมมีการจัดจำหน่าย และเปิดให้บริการผ่านทาง Application Steam ของทาง Valve Corporation
โดยสรุปของแนวทางการเล่นเกมนี้ ผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจสิ่งที่ได้บอกไปทั้งหมด จากหัวข้อที่บอกแนวทางการเล่น ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และใช้เวลาเรียนรู้ระบบภายในเกม ทั้งเรื่องของการเลือกใช้อุปกรณ์ การตั้งแต่การควบคุม และอีกมากมาย แต่สำหรับใครที่มีพื้นฐาน ของการขับรถในชีวิตจริง และพอที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องรถบ้าง บอกเลยว่าเกมนี้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
บทวิจารณ์ที่เกมนี้ได้รับนั้น จากที่ไปหาข้อมูล และได้ไปพบบน Steam เกมนี้บทวิจารณ์ส่วนมาก จะเป็นแง่บวก โดยผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เข้ามาวิจารณ์เกมนี้ ก็ต่างบอกกันว่า การเล่นสมจริง และทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แถมระบบต่าง ๆ ที่มีการ Update ก็เห็นผลอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของการใช้ Light Detection and Ranging หรือ LiDAR และอีกมากมาย
โดยบทวิจารณ์แง่บวก ที่เกมนี้ทำไปได้นั้น หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็มากถึง 87% เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% จึงทำให้มีข้อเสียบางประการ เช่นเรื่องของ AI ที่ยังคงเหมือนเดิม และไม่ได้ท้าทายอะไร
ระบบของเครื่องพีซี หรือระบบบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถรองรับเกมนี้ได้นั้น จะต้องใช้ระบบดังต่อไปนี้ โดยสิ่งที่จะต้องใช้อย่างแรก ก็คือ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 64 bit ที่จะต้องทำงานบน โพรเซสเซอร์ Intel Core i5 9600k
และจะต้องใช้งานควบคู่กับ การ์ดจอ NVIDIA RTX 2070 หรือรุ่นที่สูงกว่านี้ เพื่อที่จะประมวลผลตัวเกม ออกมาให้ลื่นไหลที่สุด และนอกจากนี้ ยังต้องใช้ RAM 16 GB แถมต้องมีพื้นที่ว่างพร้อมใช้งาน มากกว่า 100 GB เลยทีเดียว