
แนะนำ วอตช์ด็อกส์ ลีเจียน เกมที่ใครก็เป็นแฮกเกอร์ได้
- Chono
- 17 views
แนะนำ วอตช์ด็อกส์ ลีเจียน สุดยอดผลงานเกมแอ็กชัน ผสมผสานกับเกมแนวผจญภัย ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นแฮกเกอร์ได้ ซึ่งเกมนี้เป็นผลงานจากทีมผู้พัฒนา Ubisoft Toronto และวางขายบนแพลตฟอร์ม Steam โดยบริษัท Ubisoft ปล่อยให้จับจองเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 เราจะพาทุกท่านไปดูเนื้อเรื่อง และเคล็ดลับสำหรับมือใหม่
เนื้อเรื่องเกม Watch Dogs : Legion เริ่มต้นขึ้นในฐานทัพ DedSec สาขาที่อยู่ในเมืองลอนดอน โดยกองทัพนี้ ถูกนำทัพโดย Sabine Brandt และ Bagley (ปัญญาประดิษฐ์) อยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้มีการตรวจพบกลุ่มคนติดอาวุธ ที่กำลังวางระเบิดในรัฐสภา ทางเข้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่ เพื่อเข้าไปปลดชนวนระเบิด และได้รู้ว่า กลุ่มคนร้ายคือกลุ่มแฮกเกอร์นอกกฎหมาย
กลุ่มแฮกเกอร์นอกกฎหมายมีชื่อว่า Zero Day และถึงแม้ว่าจะขัดขวางการวางระเบิดในครั้งนี้ได้สำเร็จ แต่หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ DedSec ก็ถูกยิงด้วยโดรนของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และได้ทำการสั่งจุดชนวนระเบิดเพิ่มเติม ในบริเวณพื้นที่รอบๆ ตัวเมืองลอนดอน ทำให้ Sabine ต้องสั่งปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ และหลบซ่อนตัวหลังจากเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้
เวลาผ่านไปหลายเดือน ก็ได้ทำการสืบสวน และหาสาเหตุของการวางระเบิดในครั้งนี้ จึงพบว่า Nigel Cass ซีอีโอของ Albion และ Clan Kelley เป็นแกนนำกลุ่มอาชญากรรมรายใหญ่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ระเบิด เพื่อนำผู้คนที่ถูกเนรเทศ ในการปฏิบัติภารกิจค้ามนุษย์ และวางแผนที่จะครอบครองลอนดอน [1]
นี่คือตัวเกมในภาคที่ 3 ของแฟรนไชส์เกมวอตช์ด็อกส์ ซึ่งในด้านระบบเกมเพลย์ ก็ยังคงเป็นเกมแอ็กชัน Open World เหมือนกับภาคก่อนๆ มีภารกิจให้เลือกทำหลากหลายรูปแบบ แต่ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากที่สุด นั่นก็คือเกมนี้จะไม่มีตัวละครเอก ซึ่งผู้เล่นสามารถค้นหาตัวละครที่เป็น NPC เพื่อนำความสามารถมาใช้ในการทำภารกิจได้นั่นเอง
สำหรับแนวทางการเลือกทำภารกิจนั้น จะมีสองทางให้เลือก นั่นก็คือภารกิจบุกตะลุยซึ่งหน้า และภารกิจลักลอบเข้าไปในฐานทัพของศัตรู ด้วยการใช้ความรู้เกี่ยวกับการแฮกข้อมูล รวมไปถึงการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีให้เลือกใช้ ผ่านอุปกรณ์ (Gadget) ซึ่งผู้เล่นสามารถนำ Tech Point ในการอัปเกรดอุปกรณ์ตัวนี้ได้
การที่ผู้เล่นจะได้รับแต้มในการอัปเกรด จะต้องออกไปทำภารกิจ หรือตามหาตามจุดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเมืองลอนดอน และระบบเกมเพลย์ส่วนใหญ่ ที่เน้นการต่อสู้กับเหล่าวายร้าย แต่ก็ไม่ได้ดุเดือดอะไรมากนัก อาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้เล่นสายบู๊ แต่จะเป็นการเลือกตัวละครเข้ามาในทีม ที่คุณสามารถเลือกเป็น NPC ตัวใดก็ได้ภายในเกมนี้
ที่มา: เคล็ดลับการเริ่มเล่น [2]
หลังจากที่ผู้อ่าน ได้ศึกษารายละเอียดข้อมูลข้างต้น ที่ทางผู้เขียนได้แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ระบบเกมเพลย์ และเคล็ดลับในการเล่นเกมสำหรับมือใหม่ ซึ่งรายละเอียดเนื้อหาส่วนถัดไป ทางเราจะพาไปดูสเปคสำหรับเล่นเกมบนเครื่องพีซี และยกตัวอย่างความเห็นของผู้เล่น เพื่อให้ผู้อ่านดู ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อตัวเกม
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับสเปคเล่นเกมบนเครื่อง PC ที่ผู้เล่นจะได้เล่นเกมอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับภาพสวยงาม เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล หรือว่าใครที่ต้องการดูบทความรีวิวเกมแนวเดียวกัน หรือเกมที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายๆ กัน แต่จะเป็นการสวมบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ รีวิว สไปเดอร์แมน รีมาสเตอร์
และนี่ก็คือตัวอย่างความเห็นของเหล่านักเล่นเกม ที่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ Metacritic ในหมวดหมู่ของ PC Critic Reviews ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อความคิดเห็นหลักๆ เช่น ความเห็นเชิงบวก 29 (63%), ความเห็นแบบผสม 16 (35%) และความเห็นเชิงลบ 1 (2%) [3]
สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมแอ็กชัน ที่ผสมผสานการใช้งานเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการแฮกข้อมูลต่างๆ และการรวบรวมสมาชิกที่มากความสามารถ เพื่อก่อตั้งทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งตัวเกมในภาคนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดี และมีผู้เล่นหลายท่านเข้าไปร่วมสนุกกับตัวเกม จนทำให้เกมนี้ติดอันดับขายดีบนแพลตฟอร์มสตรีม
สำหรับผู้เล่นท่านใด ที่ต้องการเล่นเกมบนเครื่องพีซี แต่มีสเปคคอมไม่แรง ซึ่งเกมนี้ก็มีการรองรับสเปคขั้นต่ำสำหรับเล่นเกม อันดับแรกจะต้องมีใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 (เวอร์ชัน 64 บิต), ต้องมีโพรเซสเซอร์ขั้นต่ำ Intel Core i5 4460, หน่วยความจำ 8GB และต้องมีการ์ดจอเริ่มต้น NVIDIA GeForce GTX 970
สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องเล่น PlayStation ที่ตัวเกมรองรับการเข้าเล่นเกม แต่ต้องการที่จะเล่นเกมผ่านเครื่อง PC ซึ่งปัจจุบันนี้ ราคาตัวเกมเริ่มต้น ที่วางขายบนแพลตฟอร์มสตรีม จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,600 บาท และตัวเกมในแพ็กเกจ Deluxe Edition ราคา 1,870 บาท