แฮนด์บอล จุดกำเนิด ที่มาพร้อมกับวิธีเล่นสมัยใหม่

แฮนด์บอล จุดกำเนิด ของกีฬาประเภททีม เกิดขึ้นเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 ในประเทศเยอรมัน และในช่วงปี ค.ศ. 1904 แฮนด์บอลก็ได้กลายมาเป็นกีฬา ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และมีหลักในการเล่น ที่อ้างอิงมาจากกีฬา ฟุตบอล กติกาพื้นฐาน ในการแข่งขันจะมีทั้งหมด 2 ทีม เดิมทีในแต่ละทีม จะต้องประกอบไปด้วยผู้เล่นทั้งหมด 11 คน แต่ปัจจุบันลดเหลือเพียงแค่ 7 คน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่น

แฮนด์บอลในประเทศไทย
ทักษะพื้นฐาน ในการเล่นแฮนด์บอล
แฮนด์บอล ในโอลิมปิก

กีฬาแฮนด์บอล ในประเทศไทย

แฮนด์บอลหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งแฮนด์บอล ถูกนำเข้าในประเทศไทย เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1939 โดยอดีตอธิบดีกรมพลศึกษา ที่มีชื่อว่า อาจารย์กอง วิสุทธารมย์ ซึ่งในช่วงแรกยังคงใช้กฎกติกาแบบเก่า ที่มีผู้เล่น 11 คน

แต่หลังจากได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น และได้ถูกบรรจุเข้าสอนในโรงเรียนฝึกหัดครูพลานามัย และในวิทยาลัยต่างๆ ก็ทำให้ปรับเปลี่ยนมาใช้กฎกติกา การแข่งขันสากลแทน (2023) [1]

ความเรียบง่ายของแฮนด์บอล กีฬาประเภททีม

แฮนด์บอลเป็นกีฬา ที่มีกฎกติกาการเล่น ที่เรียบง่าย และใช้อุปกรณ์ในการเล่นน้อย ซึ่งอุปกรณ์หลักของการเล่นกีฬาชนิดนี้ คือ ลูกบอล ที่ทำมาจากหนัง หรือวัสดุสังเคราะห์ เป็นลูกบอลที่มีขนาดพอดีมือ สามารถถือได้ด้วยมือข้างเดียว และสนามที่ใช้ในการแข่งขัน

จะมีขนาดใหญ่กว่า สนามบาสเกตบอลเล็กน้อย อุปกรณ์ป้องกัน จะใช้ได้แค่สนับ ที่ใส่ตามข้อต่างๆ ของร่างกาย และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือ รองเท้ากีฬาคุณภาพดี ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะแก่การเล่นกีฬา บนพื้นสนามในร่ม ที่ต้องมีการเปลี่ยนทิศทาง อย่างรวดเร็วอยู่บ่อยครั้ง

ทักษะพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ ก่อนเริ่มเล่นแฮนด์บอล

การส่งลูก – รับลูก และเลี้ยงลูก ต้องฝึกการส่งลูกด้วยมือทั้งสองข้าง อย่างแม่นยำ รู้วิธีรับลูกบอลอย่างมั่นคง และปลอดภัย รวมถึงต้องควบคุมลูกบอลได้ตลอดเวลา
การเคลื่อนที่ เช่น การวิ่ง การหลบหลีก และการหยุด อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างจังหวะการเล่นที่หลากหลาย
การยิงประตู เรียนรู้เทคนิคการยิงในหลายรูปแบบ เช่น กระโดดยิง ยิงจากระยะไกล และยิงจากระยะใกล้
การป้องกัน ฝึกยืนตำแหน่งต่างๆ ที่ปิดทางส่ง และฝึกการแย่งบอล อย่างถูกต้องตามกติกา

กีฬาแฮนด์บอล ในโอลิมปิก

แฮนด์บอลถูกจัดแข่งขัน ในโอลิมปิกครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1936 ที่กรุงเบอร์ลิน ในประเภททีมชาย ก่อนที่จะมีการเพิ่ม และจัดแข่งขันประเภททีมหญิง ในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี ค.ศ. 1976 (10 ตุลาคม 2025) [2] เป้าหมายหลักของการแข่งขัน กีฬาแฮนด์บอล คือ การทำประตูให้ได้มากกว่า ทีมฝ่ายตรงข้าม

ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้เล่นจะต้องส่งลูกบอลด้วยมือ วิ่ง จ่าย และยิง เข้าไปยังประตูของทีมคู่แข่ง เพื่อทำคะแนน ในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกัน ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำประตูได้เช่นเดียวกัน

ประโยชน์ที่ผู้เล่นจะได้รับจากการเล่นแฮนด์บอล คืออะไร?

ประโยชน์ที่จะได้รับ จากการเล่นแฮนด์บอล ได้แก่ ทักษะการใช้มือ เนื่องจากกีฬาชนิดนี้จะใช้มือในการเล่นเป็นหลัก เช่น ส่งบอล เลี้ยงบอล ขว้างบอล และรับลูกบอล ต่อมาคือเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และความเร็ว ในการเคลื่อนไหวร่างกาย และสุดท้ายคือ ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม

เพราะในการแข่งขันจะต้องมีการประสานงาน สื่อสาร และทำความเข้าใจกัน ระหว่างเพื่อนร่วมทีม เพื่อสร้างโอกาสในการทำคะแนน จากการยิงประตูของฝ่ายตรงข้าม (12 สิงหาคม 2024) [3]

ความแตกต่างระหว่างแฮนด์บอล กับฟุตบอล

แฮนด์บอล และฟุตบอล เป็นกีฬาประเภททีม ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การทำประตูให้ได้มากกว่าคู่แข่ง แต่กีฬา 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกันชัดเจน ในด้านของรูปแบบการเล่น โดยแฮนด์บอลใช้มือในการส่ง รับ และยิงลูก ส่วนฟุตบอลใช้เท้าเป็นหลัก และห้ามใช้มือเด็ดขาด ยกเว้นผู้รักษาประตู

สนามแฮนด์บอล จะมีขนาดเล็กกว่า สนามฟุตบอลมาก และมีผู้เล่นในสนามเพียง 7 คน ต่อ 1 ทีม ในขณะที่ฟุตบอลมีผู้เล่น 11 คน ต่อ 1 ทีม การแข่งขันแฮนด์บอลจะใช้เวลาทั้งหมด 60 นาที โดยแบ่ง 2 ครึ่ง ส่วนฟุตบอลใช้เวลาแข่งขัน 90 นาที แบ่ง 2 ครึ่งเช่นเดียวกัน

บทส่งท้าย แฮนด์บอล จุดกำเนิด

สรุปแฮนด์บอล เป็นกีฬาที่จุดมีกำเนิดอยู่ที่ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเดิมทีเป็นเพียงกีฬาทั่วไป ที่นิยมเล่นกันกลางแจ้ง ก่อนที่จะได้รับการพัฒนาเป็นกีฬา ที่มีการจัดแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยมีอุปกรณ์หลักในการเล่น คือ ลูกบอล และมีเป้าหมายหลักคือ การยิงลูกบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำคะแนน

แฮนด์บอลเป็นกีฬา ที่มีการปะทะหรือไม่?

แฮนด์บอลเป็นกีฬาที่มีการปะทะเล็กน้อย เช่น ในกรณีที่ผู้เล่นใช้ร่างกายบัง หรือแย่งบอล จากคู่แข่ง สามารถทำได้ตามกติกา ที่กำหนด แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงมากเกินไป เช่น ผลัก ดึง หรือทำร้ายฝ่ายตรงข้าม เป็นต้น

กีฬาแฮนด์บอลสามารถเริ่มเล่นได้ ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

กีฬาแฮนด์บอลสามารถเริ่มเล่นได้ ตั้งแต่อายุประมาณ 6 – 7 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เด็ก เริ่มมีการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว และเข้าใจในกฎกติกาง่ายๆ ได้ดี กีฬาชนิดนี้จะช่วยส่งเสริมพื้นฐานการเล่นกีฬา และให้ความสนุกสนาน ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่การแข่งขัน ในระดับที่สูงขึ้นตามวัย