
ชวนรู้จักกับ โปโล ต้นกำเนิด ของการแข่งขันกีฬาบนหลังม้า
- หัวใจสีเขียว
- 12 views
โปโล ต้นกำเนิด ของการแข่งขันกีฬา บนหลังม้าที่มีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 6 เป็นกีฬาที่จะช่วยฝึกทักษะการขี่ม้า และการรบของทหารชั้นสูง ซึ่งในเวลาต่อมากีฬาชนิดนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปสู่ เอเชียกลาง จีน และอินเดีย ในยุคล่าอาณานิคม รวมถึงถูกเผยแพร่ในยุโรป โดยอังกฤษเป็นคนนำเข้ามา และพัฒนาเป็นกีฬาสากล ทำให้ในปัจจุบันโปโล ได้กลายเป็นกีฬาหรูที่ได้รับความนิยม ในหมู่ชนชั้นสูงทั่วโลก
โปโลเป็นกีฬา ที่มีอุปกรณ์หลักในการเล่น คือ ลูกบอล และไม้ ซึ่งจะต้องแข่งขันกันบนหลังม้า เป็นหนึ่งในกีฬาพื้นบ้าน ที่มีความเก่าแก่ และได้รับการยอมรับในโลกตะวันตกเป็นอย่างมาก โปโล มักจะถูกเรียกว่าเป็น กีฬาของกษัตริย์ เพราะกลุ่มคนที่เล่นมักจะเป็นสังคมชนชั้นสูง และที่สำคัญโปโลยังเป็นกีฬา
ที่ถูกบรรจุไว้ภายในโอลิมปิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 – 1930 ผู้ที่เล่นกีฬาโปโล จะต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านการขี่ม้า และมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ (7 กันยายน 2025) [1]
สาเหตุที่ทำให้โปโล เป็นกีฬาของกลุ่มคนชนชั้นสูง เพราะว่ากีฬาชนิดนี้มีค่าใช้จ่ายเยอะ เช่น ต้องเลี้ยงดูม้า และฝึกม้าหลายตัว ต้องมีอุปกรณ์เฉพาะทาง และค่าดูแลทีมงาน ต้องมีสนามขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี การเล่นกีฬาโปโลจะต้องอาศัยทักษะการขี่ม้าอย่างชำนาญ ซึ่งต้องฝึกฝนเป็นประจำ ในอดีตกีฬานี้เป็นที่นิยมในหมู่กษัตริย์ และขุนนาง จึงกลายเป็นกีฬาของคนชนชั้นสูง
โปโลเป็นกีฬาประเภททีม ในแต่ละทีมจะประกอบไปด้วย ผู้เล่นทั้งหมด 4 คน โดยแต่ละคนจะทำหน้าที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น กองหลัง กองหน้า และกองกลาง เป็นต้น ม้าที่ใช้ในการแข่งขันจะต้องถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เชื่อฟังผู้ขี่ มีความว่องไว และแข็งแรง อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นจะเป็นไม้ด้ามยาว
และลูกบอลพลาสติก วิธีการแข่งขันคือ ผู้เล่นทั้ง 2 ทีม จะต้องพยายามใช้ไม้ตีลูกบอลไปด้านหน้า หรือตีส่งให้กับเพื่อนร่วมทีม เป้าหมายคือการยิงลูกบอล ให้เข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม ระยะเวลาที่ใช้ในการแข่งขัน จะถูกแบ่งออกเป็นช่วงๆ หรือเรียกว่า Chukka
ซึ่งแต่ละ Chukka จะมีเวลาการเล่น 7 นาที ภายใน 1 เกมจะมี 4 – 6 Chukka โดยในระหว่างนั้น ก็จะมีเวลาให้ผู้เล่นได้พัก เพื่อเปลี่ยนม้าด้วย (2021) [2]
ประเพณีที่น่าสนใจ ในกีฬาโปโล คือ ประเพณีย่ำหญ้า เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างพักเบรค ผู้คนที่มารับชมการแข่งขันทุกคน จะได้มีส่วนร่วมในการเขี่ยหญ้าภายในสนาม ทำให้พื้นที่ขรุขระกลับมาเรียบ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการแข่งขันครั้งต่อไป
ซึ่งการแข่งขันกีฬาโปโลล่าสุด ในประเทศไทย ถูกจัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 1 – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันระหว่าง ทีมบรูไนโปโล และทีมอาห์ มิบาร์ ซึ่งผลของการแข่งขันครั้งนี้ทีมที่ชนะได้แก่ ทีมบรูไนโปโล ด้วยคะแนน 11 ต่อ 7.5 (19 กุมภาพันธ์ 2025) [3]
ในกีฬาโปโล ม้าที่ในการแข่งขันจะสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว ประมาณ 50 – 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นม้าที่มี ความคล่องตัวสูง และตอบสนองได้เร็ว ต่อการควบคุมของผู้ขี่ ซึ่งนอกจากความเร็วแล้ว ม้าโปโลยังต้องสามารถหยุด เร่ง หรือเลี้ยว ได้อย่างฉับไว
เพื่อให้เหมาะกับกีฬา ที่มีการเล่นที่รวดเร็ว และเปลี่ยนทิศทางบ่อยภายในสนามแข่งขัน ส่วนตัวผู้ขี่ก็จะต้องมีความเชี่ยวชาญ ในด้านการขี่ม้า และมีร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงมีความรู้ในเรื่องของการควบคุมม้าด้วย
สรุปโปโลเป็นหนึ่งในกีฬาเก่าแก่ ที่มีวิธีการเล่นคือ ใช้ไม้ตีลูกบอลเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำคะแนน ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยม และแพร่หลายไปทั่วโลก กีฬาชนิดนี้จะต้องเล่นบนสนามหญ้า ขนาดใหญ่ และแบ่งเกมออกเป็นช่วงๆ เรียกว่า Chukka ม้าโปโลสามารถวิ่งได้เร็วถึง 50 – 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และมีความคล่องตัวสูง เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ต้องใช้ทั้งทักษะการขี่ม้า และทักษะความแม่นยำสูง
โปโลเป็นกีฬาที่ใช้ม้า ในการแข่งขัน ซึ่งต้องอาศัยแรงของม้าค่อนข้างเยอะ ทั้งการวิ่ง การหยุด และการเลี้ยว ด้วยสาเหตุเหล่านี้อาจจะทำให้ม้าเหนื่อย และบาดเจ็บได้ง่าย จึงต้องมีการเปลี่ยนม้าระหว่างเกม เพื่อรักษาสมรรถภาพ และความปลอดภัยของม้า รวมถึงรักษาความต่อเนื่อง และคุณภาพของเกม ซึ่งโดยปกติแล้วผู้เล่นแต่ละคน จะมีการเตรียมม้าหลายตัวไว้ เพื่อใช้ในการแข่งขันแต่ละช่วง
นักกีฬาโปโลที่ดี ควรมีทักษะการขี่ม้าที่ยอดเยี่ยม มีความคล่องตัว และควบคุมม้าได้แม่นยำ ต้องมีความเร็ว และความอดทนสูง รวมถึงมีทักษะการใช้ไม้ สามารถตีลูกบอลอย่างแม่นยำ เช่นเดียวกับการเล่นกีฬา ฮอกกี้ กติกา นอกจากนี้ยังต้องมีความสามารถในการทำงานเป็นทีม และมีสมาธิ พร้อมรับมือสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในสนาม