
Ostrich Racing คือ อะไรได้รับความนิยมในประเทศไหน?
- หัวใจสีเขียว
- 10 views
Ostrich Racing คือ การแข่งขันขี่นกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นกีฬาที่มีอยู่จริง และได้รับความนิยม แค่ในบางพื้นที่ของโลก โดยเฉพาะในประเทศแถบแอฟริกา และบางรัฐ ของสหรัฐอเมริกา เช่น แอริโซนา หรือ ฟลอริดา เป็นต้น กีฬาชนิดนี้เป็นการนำสัตว์ มาใช้ในกิจกรรมสันทนาการ รวมถึงใช้ประโยชน์ในการเดินทางด้วย
การขี่นกกระจอกเทศ กับการขี่ม้า จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่ว่าการขี่นกกระจอกเทศ จะควบคุมได้ยากกว่า เพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่มี คอ และขา ที่ยาวมาก อีกทั้งยังสามารถวิ่งได้เร็วถึง 70 กิโลเมตร ภายใน 1 ชั่วโมง การแข่งขันขี่นกกระจอกเทศ ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก
ในสหรัฐอเมริกา และแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2435 ก็มีการเปิดฟาร์มนกกระจอกเทศขึ้น ที่แจ็กสันวิลล์ ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในรัฐ (26 สิงหาคม 2025) [1]
นกกระจอกเทศ เป็นนกชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปแอฟริกา ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว นกกระจอกเทศตัวผู้ จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า นกกระจอกเทศตัวเมีย เท้าของทั้ง 2 ข้าง ของสัตว์ชนิดนี้ จะมีนิ้วเพียงแค่ 2 นิ้ว คือ นิ้วกลาง และนิ้วนาง
เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 2 – 2.5 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 160 กิโลกรัม อีกทั้งยังสามารถมีอายุขัยอยู่ได้นานถึง 65 – 75 ปี นกกระจอกเทศจะบินไม่ได้เหมือนนกทั่วไป แต่จะวิ่งได้เร็ว อีกทั้งยังมีความสามารถเฉพาะตัว คือ หลบหลีกสัตว์กินเนื้อได้อย่างรวดเร็ว กระโดดเตะได้ และยังอยู่ร่วมกับฝูงม้าลาย รวมถึงยีราฟได้ด้วย (10 สิงหาคม 2025) [2]
การแข่งขันขี่นกกระจอกเทศ มักจะจัดขึ้นในงานเทศกาลต่างๆ ในบางพื้นที่ของโลก เช่น Chandler Ostrich Festival ที่รัฐแอริโซนา เป็นเทศกาลนกกระจอกเทศ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2532 โดยภายในงานมีผู้คนเข้าร่วมเฉลิมฉลองมากถึง 350,000 คน
การแข่งขันขี่นกกระจอกเทศจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ แบบที่หนึ่ง แบบหลังตรง เป็นการขี่บนหลังนกกระจอกเทศ ซึ่งต้องอาศัยทักษะการทรงตัว และการควบคุมที่ดี รูปแบบนี้จะบังคับได้ค่อนข้างยาก ผู้ขี่ต้องมีความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในการขี่มาก่อน และแบบที่สอง คือ แบบใช้รถลาก ผู้แข่งขันจะอยู่บนรถลาก ที่ผูกติดกับนกกระจอกเทศ ควบคุมได้ง่าย คล้ายกับการบังคับรถม้า
ในทุกวันที่ 3 เดือนมีนาคม ของทุกๆ ปี คือ World Wildlife Day หรือวันสัตว์ป่า และพืชพันธุ์โลก เป็นวันที่ก่อตั้งขึ้น หลังจากมีการก่อตั้งภาคีนุสัญญาไวเตส ซึ่งจุดประสงค์หลักของ อนุสัญญาไซเตส คือการสร้างความมั่นใจ ในการค้าระหว่างประเทศ เกี่ยวกับพืชป่า และสัตว์ป่า
ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอด ของสิ่งอื่นๆ ในธรรมชาติ โดยเฉพาะเหล่าสัตว์ป่า หรือพืชป่า ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (18 กุมภาพันธ์ 2022) [3]
การขี่นกกระจอกเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันค่อนข้างแตกต่าง จากการขี่ม้า หรือสัตว์อื่นๆ ทั้งในด้านพฤติกรรม และขนาด เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเริ่ม ขี่นกกระจอกเทศ จำเป็นต้องมีทักษะสำคัญหลายด้าน ดังนี้
การแข่งขันขี่นกกระจอกเทศเป็นกีฬา ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องนั่งบนหลังนก เพื่อแข่งกันเข้าสู่เส้นชัย มักจัดในงานเทศกาล เพื่อความบันเทิง เช่น ในแอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา กีฬาแนวนี้มีความเร็ว ให้ความท้าทาย และความตื่นเต้นสูง แต่นกกระจอกเทศ เป็นสัตว์ที่ควบคุมได้ค่อนข้างยาก และมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ผู้ขี่ต้องมีทักษะการทรงตัว และความเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์อย่างดี ก่อนเริ่มแข่งขัน
หากไม่อยากได้รับบาดเจ็บ จากการขี่นกกระจอกเทศ ควรสวมอุปกรณ์นิรภัย เช่น หมวกกันกระแทก และฝึกฝนการทรงตัว รวมถึงเรียนรู้วิธีการล้มอย่างปลอดภัย และเรียนรู้พฤติกรรม ของนกก่อนเริ่มขี่ หากจะให้ดีควรมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดทั้งการฝึก และการแข่งขัน
ในการแข่งขันขี่นกกระจอกเทศ ส่วนใหญ่มีการจำกัดน้ำหนัก ของผู้เข้าแข่งขัน เพื่อความปลอดภัยของทั้ง ผู้ขี่ และนกกระจอกเทศ ซึ่งน้ำหนักผู้ขี่โดยทั่วไป ไม่ควรเกิน 70 – 75 กิโลกรัม สนามแข่งที่มีมาตรฐานส่วนใหญ่ มักจะมีการชั่งน้ำหนักผู้เข้าร่วม ก่อนเริ่มการแข่งขันเสมอ