Sumo ศิลปะการต่อสู้ แบบดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น

Sumo ศิลปะการต่อสู้ กีฬาประจำชาติของญี่ปุ่น ที่มีประวัติยาวนานนับพันปี วิธีการเล่นกีฬาชนิดนี้ คือ ผู้แข่งขันต้องพยายามผลัก หรือโยนฝ่ายตรงข้าม ออกจากวงกลางสนาม ซึ่งมีลักษณะเป็นเชือกวงกลม หรืออีกหนึ่งวิธี คือ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลง เพื่อรับชัยชนะ

ประวัติที่มา ของกีฬาซูโม่
ซูโม่ในประเทศไทย
อาหารยอดนิยม ของนักกีฬาซูโม่

เปิดประวัติที่มาของซูโม่ มวยปล้ำญี่ปุ่น

ซูโม่เป็นกีฬาประจำชาติ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกีฬาชนิดนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยในสมัยอดีตทาง วังหลวง ได้มีการคัดเลือกคน ที่เป็นนักมวยปล้ำ ในกองทัพมาต่อสู้กัน จุดประสงค์เพื่อความบันเทิง แต่ปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นกีฬาอาชีพแล้ว

ซึ่งเป็นกีฬาที่จะมีการจัดแข่งขัน 6 ครั้งต่อปี โดยแบ่งออกเป็นเดือนละ 1 ครั้ง และการแข่งขันแต่ละครั้ง จะใช้เวลานานถึง 15 วัน (23 พฤศจิกายน 2022) [1]

ซูโม่มวยปล้ำญี่ปุ่น ในประเทศไทย

ซูโม่เริ่มแพร่หลาย เข้าสู่ประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2536 ซึ่งในช่วงเวลานั้นซูโม่ ยังคงเป็นกีฬาที่รู้จัก และได้รับการฝึกฝน แค่ในเฉพาะกลุ่มคนเล็กๆ เท่านั้น เนื่องจากเป็นกีฬาสำหรับ ผู้ชาย ที่ต้องมีรูปร่างใหญ่ กีฬาซูโม่ในประเทศไทย ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

จนในปี พ.ศ. 2549 ก็ได้มีการจัดตั้งโรงฝึกซูโม่ขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการฝึกซ้อม และเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ การแข่งขัน (28 กันยายน 2025) [2]

เผยข้อควรรู้พื้นฐาน ในการแข่งขันกีฬาซูโม่

การแข่งขันกีฬาซูโม่ ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 165 – 167 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 65 – 67 กิโลกรัมขึ้นไป และสามารถลงแข่งขันได้แค่ เพศชายเท่านั้น ต่อมาในเรื่องของการแต่งกาย นักกีฬาซูโม่จะได้ใส่แค่ผ้าเตี่ยว ที่คาดอยู่บริเวณเอว การตัดสินผลแพ้ – ชนะ ของกีฬาชนิดนี้

จะมาจากการที่ทำให้คู่ต่อสู้ ออกนอกสนาม หรือโดะเฮียวให้ได้ กฎเหล็กของการแข่งขัน ซูโม่ คือ นอกจากฝ่าเท้าแล้ว ห้ามให้ส่วนอื่นของร่างกาย สัมผัสกับพื้นอย่างเด็ดขาด เช่น ล้มลงกับพื้น หรือ มือแตะพื้น เป็นต้น (7 กันยายน 2021) [3]

การแข่งขันซูโม่ กับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์

การแข่งขันซูโม่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่กีฬาการต่อสู้ แต่ยังเป็นกีฬา ที่แฝงไปด้วยพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ จากศาสนาชินโต ซึ่งเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรม ของประเทศญี่ปุ่น ทุกครั้งก่อนเริ่มการแข่งขัน นักกีฬาซูโม่ จะต้องทำท่าเตรียมความพร้อม คือ การฟาดเท้า และโปรยเกลือ ลงบนสนาม เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย

และชำระล้างพื้นที่ให้บริสุทธิ์ สนามแข่งขันกีฬาซูโม่ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีหลังคาคล้ายศาลเจ้าแขวนอยู่ด้านบน ทุกการเคลื่อนไหวของนักกีฬา จึงเปี่ยมไปด้วยความเคารพ ไม่ได้ใช้เพียงแค่พละกำลัง แต่เป็นการเชื่อมโยง ร่างกาย และจิตใจไว้ด้วยกัน

ชวนรู้จักกับจังโกะนาเบะ อาหารยอดนิยมของนักกีฬาซูโม่

จังโกะนาเบะ คือ อาหารประเภทหม้อไฟ ที่ถือเป็นเมนูหลัก ของนักกีฬาซูโม่ ซึ่งในหม้อไฟก็จะใช้ส่วนผสมหลากหลายอย่าง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เต้าหู้ ผัก และเส้นต่างๆ ปรุงรวมกันในหม้อเดียว เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน มีทั้งโปรตีน และพลังงานสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

และช่วยเพิ่มน้ำหนัก เหมาะกับการฟื้นฟูร่างกาย หลังการฝึกซ้อม นิยมทานพร้อมข้าวสวยจำนวนมาก เพื่อให้ได้พลังงานอย่างเต็มที่

เผยทักษะจำเป็น และประโยชน์ที่ได้รับจากกีฬาซูโม่

ซูโม่เป็นกีฬา ที่ต้องใช้ทักษะมากมาย เช่น ความแข็งแรงของร่างกาย การทรงตัวที่ดี ความว่องไว และเทคนิคในการจับ หรือผลักคู่ต่อสู้ ออกจากสนาม รวมถึงการอ่านเกม และการจับจังหวะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญไม่แพ้กับ พละกำลังเลย

ที่สำคัญนักซูโม่ที่ดีจะต้องมี วินัย ความอดทน และควบคุมอารมณ์ให้ได้ นอกจากกีฬาซูโม่ จะพัฒนาเรื่องร่างกาย ยังช่วยเสริมสร้างจิตใจ ให้มั่นคง มีความเคารพในประเพณี และผู้อื่น รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อตนเอง เช่นเดียวกับการเล่นกีฬา มวยไทย ประวัติ

บทส่งท้าย Sumo ศิลปะการต่อสู้

สรุปซูโม่เป็นกีฬา ประจำชาติของญี่ปุ่น ที่มีประวัติยาวนาน และผสมผสานระหว่าง การต่อสู้ กับพิธีกรรมทางศาสนา เป้าหมายในการแข่งขัน คือ ต้องผลัก หรือทำให้คู่ต่อสู้ล้ม นักซูโม่ที่ดี จะต้องมีการฝึกฝนอย่างเข้มงวดทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และวินัย ในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องการแต่งตัว และการรับประทานอาหาร เป็นต้น

ทำไมนักกีฬาซูโม่ ถึงต้องมีรูปร่างใหญ่?

ที่นักกีฬาซูโม่ ต้องมีรูปร่างใหญ่ เพราะต้องสร้างความได้เปรียบ ด้านน้ำหนัก และแรงปะทะ ในการผลักหรือยกคู่ต่อสู้ ออกจากสนาม ยิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งยาก ที่จะถูกผลัก หรือล้ม อีกทั้งยังช่วยเสริมการทรงตัว ให้มั่นคง ในระหว่างการต่อสู้ ความใหญ่ของร่างกาย จึงไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญ ในการแข่งขันกีฬาซูโม่ด้วย

นักกีฬาซูโม่มีชีวิต ที่เคร่งครัดมากแค่ไหน?

นักกีฬาซูโม่มีชีวิตประจำวัน ที่เคร่งครัด และมีระเบียบสูงมาก ต้องตื่นตั้งแต่เช้า เพื่อฝึกซ้อมหลายชั่วโมงทุกวัน ต้องควบคุมอาหารการกิน แต่งกายสุภาพเรียบร้อย และมีการวางตัว ตามกฎของค่ายฝึก หรือสมาคมซูโม่อย่างเคร่งครัด แม้แต่เวลาที่อยู่นอกสนาม ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้สมกับเป็น นักกีฬาประจำชาติ ชีวิตของนักกีฬาซูโม่จึงเต็มไปด้วย วินัย ความอดทน และการเสียสละตลอดเวลา